รีวิว Love Battle รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน
จี๊ด (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) สาวโลกสวยอดีตแม่สื่อต้องกลายมาเป็นลูกน้องของ แทน (ปรมะ อิ่มอโนทัย) นักคณิตศาสตร์ประกันภัยผู้เชื่อว่าความรักจะหมดอายุใน 2 ปี จนเกิดเป็น กรมธรรม์ประกันรักแท้ 2 ปีทวีทรัพย์ และเมื่อผู้บริหารยื่นข้อเสนอให้วัดผลประกันจากตัวเลขคู่ที่เลิกกัน จี๊ด และ แทน จึงเดิมพันกันด้วยตำแหน่งงานของจี๊ด แต่ยิ่งทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี
บางทีความรักอาจ(แอบ)ออกผลยิ่งกว่าเบี้ยประกันก็เป็นได้ เดิมทีบทหนังเขียนโดย คิม มินยอง กับ ชเว จินวอน นักเขียนบทชาวเกาหลี ซึ่งทางโปรดิวเซอร์อย่าง โยนู ชเว ก็เลือกมาพัฒนาบทกับทางซีเจ เมเจอร์และเวิร์คพอยต์ โดยให้ทาง วิรัตน์ เฮงคงดี ผู้กำกับยอดมนุษย์เงินเดือนและรายการดังของเวิร์คพอยต์มา
กำกับ ซึ่งจุดเด่นที่สุดของไอเดียเรื่องคงหนีไม่พ้นทัศนคติแบบแอนตี้โรแมนติกของตัวละคร แทน ที่คำนวนทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ความรัก ซึ่งหากทำได้ถึงเชื่อว่านี่น่าจะเป็นหนังโรแมนติกพลอตก้าวหน้าสไตล์เกาหลีเทียบเคียง My Sassy Girl (2001) ได้เลยแต่น่าเสียดายว่าพอเดินทางมาเป็นหนังไทย ตัวหนังกลับกลายร่างเป็นเพียงหนังโรแมนติกเล่าเรื่องธรรมดาผสมกราฟิกให้พอตื่นตาสไตล์หนังอย่าง Stranger Than Fiction (2006) เท่านั้นเอง โดยหนังดันไม่ลงลึกหรือเล่นกับรายละเอียดประกันมากพอ
ว่ารูปแบบการชำระเบี้ยหรือผลประโยชน์ที่บริษัทจะให้เป็นแบบไหนถ้าเลิกกันก่อน2ปี รู้แค่ว่ารักให้ถึง 2 ปีประกันจะคืนผลตอบแทนให้ 30% และพอรายละเอียดไม่มากพอความน่าเชื่อถือก็ลดลง ทีนี้การนำมาเชื่อมโยงกับปมปัญหาที่ว่าความรักคนเรามีอายุแค่ 2 ปีจริงเหรอ? เลยไม่ทำงานกับคนดูอย่างที่มันควรจะเป็นนักโดยบาดแผลสำคัญคงหนีไม่พ้นการที่หนังดันไปเน้นที่ มิชชั่นในการตามเคสประกันมากกว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแทนกับจี๊ดที่กว่าหนังจะคิดได้ก็ปาไปครึ่งเรื่องแล้ว แถมเคสแต่ละเคสก็ยังเป็นเคสเดาง่ายๆ แม้จะพลิกบ้างเช่น แม่สามีกับ
ลูกสะใภ้เน็ตไอดอล คุณหมอเจ้าของร้านกาแฟกับกัปตันที่ฝ่ายหญิงดันมีอดีตกับแทน (แต่ดูแถให้เกี่ยวข้องกันมากเลย) หรือจะเป็นเจ๊เจ้าของร้านเครื่องสำอางกับเทรนเนอร์ฟิตเนส เพื่อพิสูจน์ว่า ทัศนคติของสังคม, อดีตของคนรัก หรือแม้แต่วัย จะชนะอุปสรรคของความรักได้หรือไม่ แน่นอนละว่าหนังโลกสวยพอจะให้ทุกเรื่องราวจบลงอย่างแฮปปีเอนดิงอยู่แล้วแต่กลับไม่ได้ทำให้คนดูเชื่อหมดใจเหมือนหนังโรแมนติกดีๆสักเรื่อง ซ้ำร้ายเรายังรู้สึกว่าบทหนังมักง่ายที่ไม่ได้เจาะลึกหรือให้มิติกับปัญหาความ
รักในปัจจุบันนักทั้งที่คอนเซปต์ของเรื่องสามารถเดินไปสู่การวิพากษ์ปมปัญหาความรักในยุคดิจิทัลที่ยังคงมีเรื่องความเชื่อแบบอนุรักษ์นิยมไปอย่างน่าเสียดายส่วนในครึ่งหลังที่หนังเริ่มมาเล่าความสัมพันธ์ของ แทน กับ จี๊ด ก็ดันมาแบบงงๆ โดยสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างประทับใจกัน คนดูได้แต่สงสัยว่า เฮ้ย! แกมองกันไม่ออกตั้งแต่แรกเหรอ แถมการวางปมอุปสรรคช่วงท้ายยังเหมือนดูยัดเยียดให้หนังหักมุมสไตล์หนัง
เกาหลีที่ต้องการให้คนดูสัมผัสรสเศร้าก่อนจะปลอบประโลมภายหลัง แต่ขอโทษเถอะ ด้วยความที่หนังเล่าด้วยจังหวะที่ไม่คงเส้นคงวาทั้งเรื่อง แถมผู้กำกับยังไม่แม่นยำในแนวหนังที่ตัวเองกำลังทำ เลยยังไปไม่ถึงเป้าหมายที่หนังวางไว้นัก แถมช่วงท้ายที่พยายามเอาคอนเทนต์ RAP IS NOW หรือ แรปอิสนาว ของเวิร์คพอยต์เองมาเป็นจุดพลิกผันของเรื่องยังทำให้เห็นความไม่พร้อมของนักแสดงในการเพิ่มทักษะที่หวังให้เป็นเสน่ห์ตัวละครจนพระเอกดูเอ๋อไปเลย
เรื่องย่อ รีวิว Love Battle รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน
พูดถึงนักแสดง ปั้นจั่น ปรมะ ไม่ได้แสดงแย่อะไร แต่เหมือนบทไม่ค่อยส่งเขาแต่แรก ดันให้มาโชว์เท่ตอนท้ายองก์ 2 ซึ่งถือว่าช้าเกินไป แถมบุคลิกร้ายๆของเขาในตอนแรกยังไม่ค่อยมีเสน่ห์เท่าที่ควร ส่วน เอสเธอร์ ต้องบอกว่ารูปทรัพย์ช่วยเธอไว้ได้เยอะ เมื่อบทดันไม่ค่อยให้โอกาสเธอได้เล่นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแต่แรก แต่ครึ่งหลังนี่หลายซีนทำเอาหนุ่มๆละลายได้เหมือนกัน ตรงข้ามกับนักแสดงสมทบอย่าง อุล ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา ที่เวิร์คพอยต์ปั้นมาอย่างดี และเขาก็ขโมยซีนชาวบ้านซะเยอะ แถมให้
มุกฮาๆกับเรื่องเยอะเลย นอกนั้นการปรากฎตัวของ เป้กกี้ ศรีธัญญา หรือ แรปเอก ก็ทำให้หนังมีสีสันไม่แห้งแล้งเกินไปได้ดี แต่ยังเทียบไม่ได้กับ ป้าแจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล อดีตนักแสดงสังกัดแดสเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มาในมาดคุณหญิงแม่ไม่ปลื้มลูกสะใภ้เน็ตไอดอลได้มีสีสันและให้การแสดงสุดคมคาย หนังฟรี หนังใหม่
แม้ว่าบอร์ดบริหารอาจจะยังคงกังขากับกรมธรรม์นี้ แต่แทนก็ได้ตั้งสมมติฐานเป็นกราฟที่แสดงจุดตัดแกน X และแกน Y ระหว่างคนที่รักกันและคนที่เลิกกัน ในระยะเวลาหนึ่ง และความบังเอิญ (ตามแบบฉบับหนังโรแมนติกคอมเมดี้) เมื่อจี๊ด (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) หญิงสาวที่ย้ายงานมาจากบริษัทหาคู่ได้กลายมาเป็นลูกทีมของแทนเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับกรมธรรม์ แน่นอนว่าทั้งสองคนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันในตอนแรก ความน่าสนใจของ “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน (Love Battle)” อยู่ตรงประเด็นที่ว่า ระหว่างทางของเรื่องที่หนังทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละครอย่างแทนและจี๊ด ในมุมมองของความรักที่อยู่ขั้วตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อพวกเขาได้เจอกับเคส
ต่างๆ ของลูกค้าประกันรักสองปีทวีทรัพย์ ที่มีทั้งรัก ทั้งผิดหวัง สับสนในความสัมพันธ์ ทั้งสองก็เริ่มกลับมาสำรวจแง่มุมความรักของตัวเอง และตกผลึกทีละเล็กทีละน้อย เริ่มทำความเข้าใจในมุมมองของอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้นตัวหนังเองค่อนข้างประสบความสำเร็จในการทำให้เราเชื่อไปกับโลกของตัวละครในเรื่อง ที่ไม่ว่าจะดู “เสมือนจริง” แค่ไหนก็ตาม แต่ “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน” ก็ยังอยู่ในหมวดหมู่หนังรักแฟนตาซี ที่มีหลากหลายรสชาติของความรัก แต่ท้ายที่สุดแล้วหนังก็
ทำให้คนดูฉุกคิดได้เหมือนกันว่า ในทุกการตัดสินใจกับความสัมพันธ์ระหว่างคนเรานั้น จำเป็นแค่ไหนกันที่จะหยิบเอาข้อมูล “สถิติ” ของคนอื่น มาตัดสินความสัมพันธ์ของเราเอง ในเมื่อความรักนั้นเป็นเรื่องของคนแค่สองคน หาใช่คนทั้งประเทศหรือคนทั้งโลกเป็นเรื่องราวสงครามความรักของ แทน พระเอกหนุ่มผู้มองความรัก เป็นเพียงตัวเลข สถิติและการคำนวณ ด้วยการเอาความรักมาออกกรมธรรม์ ประกันความรัก กับ รัก 2 ปี ทวีทรัพย์ และไม่เชื่อว่ามีรักแท้
และอีกฝ่ายหนึ่ง จี๊ด นางเอกสาวผู้ศรัทธาในความรักอย่างสุดซึ้ง เห็นความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และไม่สามารถคิดคำนวณได้จึงเกิดสงครามการพิสูจน์ สถิติรัก กับ รักแท้เป็นหนังไทยที่ทำได้แปลกใหม่จากที่เราเคยได้ดู ซึ่งเป็นหนังที่ดูแล้วสนุกและมีมุขตลก เบาสมอง แต่แฝงด้วยข้อคิด เป็นหนังที่มีเนื้อหาที่เข้มข้น น่าติดตาม มีความหลากหลายของอารมณ์ ทั้งเศร้า ดราม่า และตลก จัดว่าเป็นหนังดีมีคุณภาพเลยทีเดียว
โดยได้บทภาพยนตร์ของ คิม มินยอง และ ชเว จินวอน รวมทั้ง Producer โยนู เชว จากเกาหลี ร่วมกับผู้กำกับไทยฝีมือดีอย่าง โจ้ วิรัตน์ เฮงคงดี แสดงนำโดย ปั้นจั่น รับบท แทน นักคณิตศาสตร์ของบริษัทประกัน ทำให้เขามองทุกอย่างเป็นตัวเลข ไม่เว้นแม้แต่ความรัก และ เอสเธอร์ รับบท จี๊ด แม่สื่อจากบริษัทจัดหาคู่ ผู้ศรัทธาในรักแท้ และเห็นความรักเป็นเรื่องของสมองและหัวใจ ซึ่งทั้งคู่แสดงบทบาทของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนเรื่องราวการฟาดฟันระหว่าง ความรักทั้งสองแบบจะเป็นอย่างไรนั้น อยากให้เพื่อน ๆ ได้ติดตามชมกันเอง
รีวิว Love Battle รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน
ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้น เรื่องราว และความแปลกใหม่ที่น่าสนใจของภาพยนตร์เรื่อง “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน” เรื่องนี้ว่า… “ต้องขอบคุณ ซีเจ เมเจอร์ฯ, เวิร์ค พอยท์ และ เอ็ม พิคเจอร์ เป็นอย่างสูงนะครับ ที่ไว้เนื้อเชื่อใจชวนผมมากำกับหนังรัก 2 ปี ยินดีคืนเงินเรื่องนี้ ถือเป็นโปรเจ็กต์แรกเลยครับที่ได้ร่วมงานกับทั้ง 3 ค่ายพร้อมกัน อย่างซีเจ เมเจอร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามาตรฐานในการทำงานของวงการบันเทิงเกาหลีนั้นจะค่อนข้างสูง ส่วนสาเหตุที่ผมตัดสินใจรับงานนี้ หลังได้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
ฟังไอเดียของเรื่อง รู้สึกมันน่าสนใจไปหมดกับพล็อตแนวหนังที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครมาก่อน ทำให้เราจินตนาการต่อได้ว่าเรื่องมันจะไปในทิศทางไหน เพราะมีเค้าโครงดี มีเชื้อที่จะนำไปสู่ภาพยนตร์ที่สนุก แค่คิดก็สนุกแล้วครับ ผมจึงตัดสินใจทำเรื่องนี้” “สำหรับภาพยนตร์ รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน ในแบบฉบับของผมก็จะเป็นเรื่องของการต่อสู้กันระหว่างคนที่เชื่อในความรัก และคนที่ไม่เชื่อในความรัก ผ่านตัวพระเอกที่ชื่อ แทน รับบทโดย ปั้นจั่น ปรมะ คาแร็กเตอร์ของแทนเป็นคนที่ไม่เชื่อในความรัก
เนื่องจากมีประสบการณ์จากการถูกแฟนสาวของเขาทอดทิ้งอย่างเจ็บปวด ทำให้เขาต้องต่อสู้กับ จี๊ด ผู้ที่ตลอดเวลายังเชื่อ และศรัทธา ว่ารักแท้นั้นมีอยู่จริง ซึ่งจะเกลียดการเอารักแท้มาเป็นเรื่องขำ ๆ สนุกสนาน หรือเป็นข้อต่อรองเป็นช่องทางการทำมาหากิน รับบทโดย เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เรื่องราวจะเป็นเหตุการณ์แบบสถานการณ์พาไป จากการที่พระเอกได้ออกแบบกรมธรรม์ขึ้นมากรมธรรม์หนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าคู่รักที่มาซื้อกรมธรรม์นี้ ภายใน 2 ปีไม่เลิกกัน รับเงินประกันคืนไปเลยร้อยเปอร์เซ็นต์
พร้อมดอกเบี้ยอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ทันที แต่ถ้าเลิกกันก็ได้คืนครึ่งเดียว ด้านพระเอกทำทุกวิถีทางให้ทุกคู่ที่ซื้อต้องจบชีวิตรักลง ส่วนนางเอกผู้ที่เกลียดกรมธรรม์ที่หากินกับความรักแบบนี้มาก ก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะขัดขวางเช่นกัน เรื่องการแบทเทิลทั้งคู่เลยเกิดขึ้น จนเรื่องราวมาถึงทางแยกสุดท้ายแล้ว เมื่อทั้งคู่ต้องตัดสินใจระหว่างความเชื่อเรื่องรักที่ต่างกันแบบสิ้นเชิง กรมธรรม์รักจะพิสูจน์ความเข้าใจของทั้งสองคนนี้ได้ไหม ต้องติดตามครับ อยากเชิญชวนทุก ๆ คนมาดูหนัง รัก 2 ปียินดีคืนเงิน กันดูนะครับ การันตีได้เลยว่าจะเป็น 2 ชั่วโมงที่มีความ รีวิวหนังรัก