รีวิว Light on Me
มากันอีกหนึ่งเรื่อง Light on me (2021) ซีรีส์สไตล์เกาหลีฉบับสั้นที่กินเวลาตอนละไม่ถึง 20 นาที แต่ตัวอย่างดูดีประหนึ่งโปรดักชั่นใหญ่ และที่ดีดเด้งสุดคือหน้าตาของนักแสดงทั้งนำและไม่นำที่ดูดีจัดจนเราไม่อาจพลาดได้ แค่เห็นหน้าก็เอ็นดูแล้ว เมื่อถึงเวลาเข้าซีนจะขนาดไหนนะ ถ้าอยากรู้ตามมาอ่านทางนี้เลย ดูหนังใหม่
เว็บดราม่าเรื่องนี้ นำแสดงโดยสองหนุ่มหน้าตาดี คังยูซอก (Kang Yoo Seok) และอีเซอน (Lee Sae on) จากรายการ Produce101 เป็นผลงานกำกับของ อึมจีซุน (Um Ji Sun) มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 16 ตอน (ขณะรีวิวเพิ่งออกอากาศไป 2 ตอน) ฉายวันแรกเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา
ซีรีส์ถ่ายทอดเรื่องราวของ อูแทกยอง (รับบทโดย อีเซอน) เป็นนักเรียนมัธยม 5 ที่เดียวดายไร้เพื่อนมาตลอดชีวิตเพราะคิดว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็น แต่วันหนึ่ง เมื่อเขาตระหนักได้ว่าผู้คนที่รายล้อมรอบกาย ล้วนต่างดูสุขสันต์กับการมีมิตรภาพอยู่ข้างตัว เขาจึงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองและบอกครูว่าเขาไม่อยากอยู่คนเดียวอีกต่อไป แต่ปัญหาคือเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มหาเพื่อนใหม่ได้อย่างไร
เมื่อไปปรึกษาครู ครูจึงแนะนำให้เขาเข้าร่วมสภานักเรียนของโรงเรียน แต่การจะเข้าร่วมสภานักเรียนนั้นต้องได้รับการเห็นชอบจากประธานและรองประธาน ทว่า โนชินอู (รับบทโดย คังยูซอก) รองประธานสภานักเรียน ผู้ที่เขาบังเอิญไปทำให้ไม่พอใจก่อน
หน้านี้ ได้ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยและแสดงออกถึงความเกลียดขี้หน้าเขาอย่างแจ่มชัด ในขณะที่ประธานนักเรียนอย่าง ชินดาออน (รับบทโดย โชชานยี) กลับต้อนรับและดูแลเขาเป็นอย่างดี แล้วแบบนี้เขาจะพยายามเพื่อให้เป็นที่ยอมรับและเป็นหนึ่งในสมาชิกสภานักเรียน เพื่อก้าวสู่การมีมิตรภาพอันดีเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ ได้หรือไม่ ก็ต้องตามไปลุ้นต่อกันในซีรีส์เลย
เนื้อเรื่องฟังดูพื้น ๆ ไม่มีอะไรหวือหวา ออกแนวเรียบเรื่อยเห็นได้ทั่วไปจากการ์ตูนสายวายที่มีอยู่ดาษดื่นก็จริง แต่สิ่งที่เข้าตาเราเป็นสิ่งแรกนั่นคือการเลือกนักแสดงหน้าตาสุดปังมาร่วมเล่น และไม่ใช่แค่หน้าตาที่ดูดี การแสดงก็เรียกได้ว่าเกินกว่าที่คาดไว้ อาจจะไม่ใช่ดีเวอร์จนอยากกราบกราน แต่ก็เรียกได้ว่าน่ารัก ละมุนละไม ชวนให้อยากเอาใจช่วย เรียกได้ว่า เป็นการแสดงที่ช่วยเสริมให้ตัวละครมีเสน่ห์ก็ไม่ผิดนัก
เสน่ห์ของการแสดงที่ว่าคือการค่อย ๆ แสดงอารมณ์ออกมาทีละนิด ไม่มากไม่น้อยไป ไม่ใช่จู่ ๆ เจอแล้วปิ๊ง หรือเกลียดขี้หน้าหมั่นไส้แบบปุ๊บปั๊บ ถ้ามองว่าเป็นซีรีส์ตอนสั้น กินเวลาแค่ตอนละ 18-20 นาที อาจจะขัดใจคนอยากฟินเร็ว ๆ อยู่บ้าง แต่เราพบว่ามันเข้ากันกับเนื้อเรื่องและคาร์แรกเตอร์อย่างประหลาด ทั้งที่เนื้อเรื่องไม่ได้ไปไหนมากมายเหมือนเรื่องอื่นเลย แต่ดู ๆ ไปก็ไม่รู้สึกอึดอัด อยากเร่งรัดให้เดินเรื่องเร็วขึ้นแต่อย่างใด
เรื่องย่อ รีวิว Light on Me
ภาพรวมของเรื่องนั้นออกไปในทางดราม่า และมิตรภาพ (มิด-ตะ-พาบ จริง ๆ นะ) ไม่ค่อยมีอะไรคอมเมดี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ดูแล้วเบื่อหรือเครียดอะไร ดูเพลินๆ เผลอแป๊บ ๆ ก็ผ่านไปแล้วจบหนึ่งตอนไปแบบงง ๆ แล้ว ถือเป็นการใช้เวลาว่างที่ดีพอสมควรเลย
หากจะมีอะไรหงุดหงิดสักหน่อย นั่นคือการตัดต่อชอตสนทนาที่ค่อนข้างฉึบฉับหลายมุมไปนิด (เดี๋ยวสลับมาหน้าคนนี้ทีคนนั้นที เปลี่ยนมุมเข้า ๆ ออก ๆ อีกต่างหาก) ยิ่งเทียบว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างเรียบก็รู้สึกว่า การตัดชอตแบบนี้ก็จะมากเกินไปหน่อย แต่ถ้านั่งดูไปแบบไม่คิดอะไรมากนัก ตรงนี้ก็พอรับได้ ยังไม่ถึงกับทำให้เวียนหัวแต่อย่างใด ดูหนังฟรี
ถ้าให้สรุปว่าเรื่องนี้เหมาะกับใคร เราว่าสายจิ้นฟินด่วนอาจรู้สึกไม่ปังเท่าไหร่ แต่ถ้าชอบแบบดูไปเรื่อย ๆ ดูแบบสบาย ๆ ไม่หนักใจ ซีรีส์เรื่องนี้ชวนคุณดูเพลินพร้อมอมยิ้มไปด้วยแน่ ๆ และแม้จะยังไม่เห็นว่าคู่หลักของเรื่องเคมีจะดีไหม (เพราะยังไม่มีชอตที่ทำให้รู้สึกถึงเคมีออกมาเลย) แต่เราก็รู้สึกได้ด้วยสัญชาตญาณสายวายว่าแบบนี้แหละจะพาเราทึ้งหมอนในช่วงปลายท้ายเรื่องแน่ ๆ
และเอาจริง ๆ คือหล่อสุดติ่ง งานดีขนาดนี้ ไม่ต้องมีชอตจิ๊จ๊ะมาก แค่ดูเขาหมั่นไส้ใส่กันไปเรื่อย ๆ ก็ฟินได้แล้วนะบอกเลย สาวกวายไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง -คังยูซอก(Kang Yoo Seok) รับบท โนชินอู รองประธานสภานักเรียน ลักษณะภายนอกจะดูเป็นคนที่เย็นชาเข้าถึงได้ยาก แต่ก็มีเสน่ห์จนทำให้น่ามอง
-อีเซอน(Lee Sae on) รับบท อูแทคยอง สมาชิกสภานักเรียนที่ต้องการหาเพื่อน และอยากจะรู้ว่าการมีเพื่อนนั้นดีอย่างไรเป็นเรื่องราวของอูแทคยอง(นำแสดงโดยอีเซอน)ที่มีโลกส่วนตัวสูงไม่ชอบยุ่งกับใคร แต่แล้วอยู่ดีๆแทคยองก็อยากมีเพื่อนขึ้นมา เรื่องราวต่อจากนี้จะจบลงอย่างไร และแทคยองนั้นจะหาเพื่อนได้หรือไม่ต้องรอชมไปพร้อม ๆ กันนะ
หลังจากที่ได้ดูทีเซอร์แล้ว ซีรีส์เรื่องนี้มีเนื้อหาที่น่าสนใจโดยจะเล่าเรื่องถึงคนที่มีโลกส่วนตัวสูงไม่ยุ่งกับใครชอบอยู่คนเดียวและไม่คบเพื่อน ถ้าในสังคมเราคนเหล่านี้ก็มีเยอะพอสมควรเลยนะ ซีรีส์ก็ได้ถ่ายทอดของปัญหาเหล่านี้ให้น่าสนใจแบ่งแยกให้เห็น
ถึงการมีเพื่อนนั้นดีอย่างไร เหมือนในทีเซอร์ที่ตัวของแทคยองนั้นชอบทำโจทย์คณิตผิดซ้ำแล้วซ้ำเหล่าแต่ก็ได้หัวหน้าสภาเข้ามาช่วยอธิบายให้ตัวของแทคยองนั้นได้เข้าใจนี้ก็คือหนึ่งสาเหตุที่ควรจะคบจะกับเพื่อน แต่ข้อระวังก็คืออย่าตกเข้าไปในเฟรนโซนเด็ดขาดมันเป็นสถานการณ์ที่ยากจะตัดใจความน่ารักของนักแสดงก็ต้องให้เต็มเลยน่ารักมากโดยเฉพาะสมาชิกสภานักเรียนจะหล่อไปไหน ส่วนตัวเรานั้นโดนประธานสภานักเรียนตกเข้าอย่างจังเลย
-ฉากที่ชอบในซีรีส์โดยส่วนตัวชอบฉากที่อูแทคยองนั้นถ่ายรูปรวมให้กับกลุ่มสภานักเรียน ฉากนี้ให้ความรู้สึกว่าตัวของอูแทคยองนั้นรู้สึกตกหลุมใครสักคนในกลุ่มแต่ก็ไม่ได้แสดงออกให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับรู้ ถ้าจะเรียกง่ายๆก็คือเฟรนโซนนั้นแหละมันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดพอสมควร
เลยถ้าใครได้ตกอยู่สถานการณ์แบบนี้ -ส่วนเพลงประกอบนั้นทาง official ยังไม่ได้ออกมานะ เข้าสู่ครึ่งปีหลังของปี 2021 เรียบร้อยแล้ว วันเวลาเดินไวมาก แต่ดู ๆ แล้วแทบไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรเลยตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ก็หวังในใจว่าสถานการณ์มันจะดีขึ้นซักที เบื่ออยู่แต่บ้านจะแย่แล้ว อยากไปเที่ยว (เกาหลี)
เพราะตลอดช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตกว่า 90 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่บ้าน ก็ได้ความบันเทิงจากเกาหลีนี่แหละที่เยียวยาจิตใจ สารพัดคอนเทนต์ทั้งซีรีส์ รายการวาไรตี้ รายการเพลง คอนเสิร์ต ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ารูปแบบการนำเสนอมันต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิง ถึงจะดูเพราะผู้ชายเป็นหลัก แต่ผู้ชายก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้ตัดสินใจจะเสพอะไรต่ออะไร ถ้ามันไม่สร้างสรรค์ ผู้ชายหล่อแค่ไหนก็ทำใจดูไม่ได้จริง ๆ
รีวิว Light on Me
เช่นเดียวกันกับซีรีส์เกาหลีวายเกาหลีที่บุกตลาดวายอย่างหนักในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา สำหรับคอซีรีสเกาหลีจะเห็นว่าหลัง ๆ มามีซีรีส์วายเกาหลีตีตลาดถี่มาก ขนาดที่สังคมเกาหลีจะยังไม่เปิดรับเรื่อง LGBT แต่ถือว่าเกาหลีมาไกลมากที่กล้าผลิตคอนเทนต์วายออกสู่ตลาด ถึงจะมุ่งตลาดต่างประเทศเป็นหลักก็ตาม ฉะนั้น ช่องทางในการออกอากาศซีรีส์วายเกาหลีจึงมักเป็นช่องทางออนไลน์ และไม่ใช่ช่องทีวีหลัก ๆ ของเกาหลี รีวิวหนัง
ก็เลยเลยมาคิดดูว่าถ้าวายส่วนใหญ่ในบ้านเรายังเน้นเลิฟซีนมากเกินไป คงไม่แคล้วโดนแย่งตลาดแน่ ๆ คนที่ไม่ชอบการเล่าเรื่องแบบนั้นมีอยู่มาก เขาตระหนักได้ว่าการจะทำวายเป็นที่ยอมรับ มันมีวิธีนำเสนอตั้งมากมาย ไม่จำเป็นต้องเอะอะจูบ เอะอะลงเตียง ทุกวันนี้แทบไม่ได้ขายเนื้อเรื่อง
แต่ขายฉากความรักแรง ๆ และคู่จิ้นมากกว่า วายตั้งแต่ย่อหน้าแรกขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องดูซีรีส์วายมาแน่ ๆ Light On Me เป็นซีรีส์วายเกาหลีเรื่องที่ 3 หรือ 4 นี่แหละที่เปิดขึ้นมาดู จริง ๆ คือไม่ใช่สาววาย แต่ชอบดูวิธีการนำเสนอเรื่องของซีรีส์วายต่างประเทศมากกว่าว่าไปในแนวไหน คือ เขา
แทบไม่ได้สื่อเรื่องโยนลงเตียงอะไรเลย ไม่ยัดเยียดความรักแบบดูรุนแรง บทสนทนาชวนคิดเรื่องอย่างว่าอย่างเดียว ดูแล้วก็เลยอดที่จะอมยิ้มตามไม่ได้ มันดูเขิน ดูน่ารัก มูดแอนด์โทนคือละมุน ไม่กระอักกระอ่วน ถึงพล็อตเรื่องจะแบบเดียวกันก็เถอะ แต่ความรู้สึกคือต่างกันจริง ๆ Light On Me เป็นซีรีส์วายที่สร้างจากเกมมือถือที่มีชื่อว่า “Saebit Boys High School Council” และต่อมาได้ดัดแปลงเป็นเว็บตูน จนกลายมาเป็นซีรีส์ในที่สุด เป็นเรื่องราวของเด็กวัยมัธยมปลายโรงเรียนชายล้วน เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีโลกส่วนตัวสูง
ไม่ชอบยุ่งกับใคร และคิดว่าการมีเพื่อนไม่ได้จำเป็นกับชีวิต แต่จู่ ๆ ก็มีเหตุการณ์ให้เขามาคิดทบทวนกับตัวเอง ว่าการที่เขาเป็นนแบบนี้ (ทำตัวเป็นคนไม่มีเพื่อน) มันจะไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ จนในที่สุด เขาก็ตัดสินใจพังกำแพงที่กั้นระหว่างตัวเองกับคนอื่นไว้ คิดอยากจะมีเพื่อนขึ้นมา
ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่ต้องทำสิ่งที่ปกติไม่ทำ ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร เขาจึงไปปรึกษาครูที่ปรึกษา ครูก็พาเขาเข้าร่วมสภานักเรียน ด้วยเหตุผลว่าหากคิดจะเริ่มต้นสร้างมิตรภาพ ควรเริ่มจากเด็กดี ๆ ก่อน ที่นั่นเขาก็เจอกับคนที่ไม่ชอบหน้าเขา อย่างแรง ปากร้าย เย็นชา แต่จิตใจไม่มีอะไร และปฏิเสธที่จะรับเขาเข้าสภา แต่มีเหรอที่นายเอกเราจะยอมแพ้ ปฏิบัติการเอาชนะใจเพื่อเข้าสภานักเรียนจึงเริ่มขึ้นนับตั้งแต่บัดนั้น
แค่อ่านเรื่องย่อ กลิ่นพ่อแง่แม่งอนของพระเอกนายเอกก็ฟุ้งมาแต่ไกล ส่วนใหญ่ซีรีส์วายก็มีสูตรสำเร็จอยู่แล้ว เปิดมาคือต้องไม่ชอบหน้ากันปานจะฆ่ากันตาย พอทำความรู้จักกันก็ถึงจะชอบกัน มันอาจจะเป็นพล็อตง่าย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน น่าเบื่อ แต่ชีวิตจริงคนเรามันไม่ต้องซับซ้อนทุกวันก็ได้ไง แค่เรื่องของคนไม่เคยมีเพื่อนที่คิดอยากจะมีเพื่อน ก็สามารถเอามาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวได้