รีวิว Blue Birthday (2021)

ก่อนหน้านี้หากพูดถึงเว็บดราม่า ผู้คนมักจะนึกถึงนักแสดงหน้าใหม่กับเรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กในรั้วโรงเรียนหรือมหาลัยโดยพล็อตมักจะไม่ได้แปลกใหม่ไปจากนี้เท่าไหร่นัก แต่ในปีนี้เราเริ่มเห็นเว็บดราม่าจับพล็อตแนวย้อนเวลาไขปริศนาฆาตกรรมลึกลับแล้วค่ะ! ซึ่งมันเหนือความคาดหมายไปมากกก ปล่อยภาพโปสเตอร์มาหลอกว่านี่คือซีรีส์ไฮสคูลวัยใสน่ารัก แต่พอได้ดูจริงๆแล้วเท่านั้นแหละ โอ๊ยปมซับซ้อนซ่อนเงื่อนจนต้องกุมหัว พีคจัดหนักทุกตอน มีเรื่องให้ต้องมานั่งปะติดปะต่อเรื่องราวใหม่ตลอดเพราะตัวแปรจะเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนการย้อนอดีต ดูหนังใหม่

 

จนตอนนี้คนดูแทบจะกลายร่างเป็นโคนันกันไปหมดแล้ว ในวันเกิดปีที่ 18 ของ โอฮาริน (รับบทโดย เยริ red velvet) วันที่เธอควรจะต้องมีความสุขที่สุด ยิ้มกว้างที่สุด แต่กลับกลายเป็นวันที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา และ ทุกข์ตรมมากที่สุดเมื่อของขวัญวันเกิดที่เธอได้รับในวันนั้น คือ การตายของ จีซอจุน

 

(รับบทโดย ฮงซอก pentagon) เพื่อนชายคนสนิทที่เธอตกหลุมรักมาตลอด เหตุการณ์วันนี้กลายเป็นรอยแผลที่สลักลึกลงไปในจิตใจของโอฮารินแบบไม่มีวันกำจัดออกไปได้ แต่แล้วในวันเกิดครบรอบ 28 ปีของเธอระหว่างทางไปเลี้ยงฉลองวันเกิดกลับบังเอิญเจอสตูดิโอถ่ายภาพขาวดำแบบดั้งเดิมที่เธอกับซอจุนเคยมาด้วยกันในอดีต ที่แห่งนี้ทำให้เธอเจอกับกล้องฟิลม์เครื่องเก่าของจีซอจุนที่มาพร้อมกับรูปที่เหลือเพียง 9 ใบ

 

รีวิว Blue Birthday (2021)

 

เท่านั้น แต่สิ่งที่แปลกคือก่อนจะออกจากร้านเธอกลับได้รับคำเตือนปริศนาจากเจ้าของร้านว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างต่างมีเหตุ และผล” และ อะไรคือเหตุ และ ผลที่ว่านั้นล่ะ ? เมื่อถึงบ้านอารินก็ไล่ดูรูปอย่างช้าๆทีละใบจนเมื่อถึงใบสุดท้ายที่เป็นรูปของเธอ เธอก็ตัดสินใจเผารูปทิ้งเพื่อหวังว่าจะลดทอนความเจ็บปวดในใจของเธอลงไปได้บ้างระหว่างที่รูปกำลังค่อย ๆ เผาไหม้เธอก็เจอกับจดหมายที่ซอจุนถึงเธอ ทำให้รู้ว่าจริงๆซอจุนก็แอบชอบอารินมาตลอดเช่นกัน

 

อดีตที่คิดว่าลืมไปแล้วความคิดถึงที่ถูกซ่อนไว้ก็พรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก อารินทำได้แค่อ้อนวอนว่าอยากจะเจอกับซอจุนอีกครั้ง แต่เมื่อเธอหลับตาลงปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เธอย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนจริงๆ ทำให้อารินตั้งใจไว้ว่าในเมื่อเธอกลับไปอดีตได้ เธอก็สามารถที่จะช่วยไม่ให้ซอจุนจากไปได้เหมือนกัน

 

แต่แล้วเงื่อนไขในการย้อนอดีตก็ค่อยๆเผยขึ้นมาเป็นอุปสรรคที่เธอต้องแก้ไขต่อเนื่องอย่างไม่จบสิ้นไม่ว่าจะอาการหูอื้อที่เป็นสัญญาณของการจบการเดินทางข้ามเวลา ซึ่งเวลาในการเดินทางข้ามเวลานั้นสามารถทำได้ในวันที่ถ่ายภาพไว้เท่านั้น และ จะต้องเป็นภาพที่ถ่ายโดยกล้องของซอจุนในอดีตอีกด้วย และยิ่งย้อนอดีตกลับไปมากเท่าไหร่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มบ่งชี้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการจากไปของซอจุนมันไม่ได้เป็นแบบที่เห็น นอกจากปมที่เพิ่มขึ้นในทุกการย้อนอดีตแล้วโชคร้ายที่มาพร้อมกับ

 

รีวิว Blue Birthday (2021)

 

การเดินทางข้ามเวลาก็พร้อมพุ่งเล่นงานโอฮารินได้ทุกเมื่อ เงื่อนไขร้อยแปดที่เธอต้องนั่นช่างสวนทางกับจำนวนรูปที่มีจำกัดเหลือเกิน บทเรื่องนี้เป็นอะไรที่ไม่ชมไม่ได้เลยเพราะวางปม ผูกปม เชื่อมปมเอาไว้ดีมาก เล่นซะคนดูหัวหมุนกันไปตาม ๆ กัน แม้จะเป็นการหยิบเอาทฤษฎี Butterfly effect หรือที่เราเรียกกันว่า ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก ที่เมื่อเราเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างมันก็จะส่งผล

 

ให้เกิดเหตุการณ์ใหม่ขึ้นต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ที่อาจจะดีกว่าเดิมหรือเลวร้ายกว่าเดิมก็ได้ มาเล่นไม่ต่างจากเรื่องอื่น ๆ ก็ตามแต่ความลุ้น ความสนุกกลับไม่ได้ถูกลดทอนลงไปเลยเพราะเรื่องนี้มีการเสริมลูกเล่นเงื่อนไขเข้าไปเพิ่มให้เราได้ปวดหัวเพิ่มกันเล่นๆนั่นเอง ซึ่งในทุกการเดินทางข้ามเวลาของฮารินล้วนทำให้เกิดเหตุการณ์ใหม่ขึ้นเสมอ และความเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ค่อยๆคลืบคลานเข้ามาทักทายฮาริน

 

เรื่องนี้ตัวละครที่เด่นที่สุดของเรื่องจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโอฮาริน ที่รับบทโดยน้องแยมหรือเยริจากราชวงศ์เค้กแดง เพราะไม่ว่าจะพาร์ทอดีตหรือปัจจุบันตัวเดินเรื่องสำคัญก็คือโอฮาริน ซึ่งเป็นการเดบิวต์ผลงานการแสดงครั้งแรกของเยริได้พลุแตก มาก ในพาร์ทอดีตเยริก็สามารถแสดงให้เราเห็นถึงความสดในวัยมัธยม เป็นเด็กน้อยที่ยังคงมีเพื่อนที่ชื่อซอจุนอยู่ข้างๆ พาร์ทปัจจุบันเยริก็สามารถถ่ายทอดให้เรารู้สึกได้ถึงการโตขึ้นของตัวละคร นิ่งขึ้น ยิ้มยากขึ้น ดวงตาหม่นแสงไม่สดใสดั่งอดีตได้ดี

 

รีวิว Blue Birthday (2021)

 

มาก ไม่ว่าจะฉากลุ้นระทึก ฉากดราม่า ฉากน่ารักกุ๊กกิ๊ก เยริเล่นถึงในทุกฉากเอาอยู่ทั้งหมด นอกจากนี้เคมีเยริกับฮงซอกก็ดีงามมากกก เป็นการโคจรมาเจอกันที่ไม่มีที่ติ เวลาเขาอยู่ด้วยกันมันน่ารักจนใจเจ็บไปหมด ซึ่งมันยิ่งทำให้เราเอาใจช่วยให้อารินช่วยชีวิตจีซอจุนให้ได้ เพราะการที่ได้เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันมันช่วยฮีลใจเราได้จริง ๆ

เรื่องย่อ รีวิว Blue Birthday (2021)

ซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งหมด 16 ตอน เป็นเรื่องราวของนางเอกที่ชื่อว่า โอฮาริน ยังคิดถึงความหลังในตอนที่เรียนมัธยม เนื่องจากวันเกิดของเธอตอนอายุครบ 18 ปี จะตัดสินใจไปสารภาพรักกับเพื่อนสนิทที่ได้คบกันมา 10 ปี นั่นก็คือพระเอกซอจีซุน แต่แล้วเรื่องที่

 

ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นพระเอกได้เสียชีวิตก่อนที่นางเอกจะไปสารภาพและยังได้เห็นภาพการฆ่าตัวตายที่ชัดเจน จนทำให้นางเอกเสียใจเป็นอย่างมาก และเมื่อเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก 10 ปีต่อมานางเอกก็ได้เข้าสู่วัยทำงานและได้ไปเลี้ยงฉลองงานวันเกินของเธออีกครั้งกับเพื่อนเก่าที่เคยเรียนด้วยกันตอนสมัยมัธยมทำให้เธอหวนคิดถึงพระเอกอีกครั้ง ดูหนังฟรี

 

อยู่มาวันหนึ่งนางเอกได้พบกับกล้องตัวโปรดของพระเอกในร้านล้างฟิล์มถ่ายรูปจึงได้เข้าไปจ่ายค่าล้างฟิล์มถ่ายรูป เมื่อนางเอกได้ดูภาพเก่า ๆ ที่พระเอกเคยได้ถ่ายไว้แล้วนางเอกได้นำไปเผาทิ้งโดยไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วเมื่อนางเอกหลับตาลงก็ทำให้เธอได้

 

 

ย้อนเวลากลับไปในอดีตอีกครั้ง เธอนึกว่าฝันไปเลยแต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับไม่ใช่ฝันแต่สามารถย้อนไปในอดีตได้จริง ๆ ทำให้นางเอกมีความคิดที่หาวิธีหยุดไม่ให้พระเอกฆ่าตัวตาย แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะในการเปลี่ยนอดีตนั้นจะส่งผลในปัจจุบันด้วยที่จะเปลี่ยนตาม ทำให้เราต้องมาลุ้นกัน

 

ว่านางเอกจะสามารถหาวิธีหยุดไม่ให้พระเอกฆ่าตัวตายได้หรือไม่ สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ตอนแรกที่ได้ดูก็นึกว่าเป็นความรักทั่วไปที่นางเอกย้อนเวลามาช่วยพระเอกไม่ให้ฆ่าตัวตาย แต่แล้วเรื่องกลับหักมุมซะงั้น ซึ่งทางผู้เขียนไม่ขอบอกนะว่าหักมุมอย่างไรเพราะอยากทุกท่านลองเข้าไปดูหนังซีรีส์นี้ดูสักครั้ง รับรองได้เลยว่าน่า

 

ติดตามอย่างมากจนไม่อยากพลาดแม้แต่ตอนเดียว ดังนั้นหากใครที่กำลังตัดสินจะเข้าไปดูซีรีส์เรื่องนี้แนะนำให้เลือกเวลาว่าง ๆ สักหน่อยจะได้ดูให้จบใน 16 ตอนเข้าไปเลย หลังจากที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้มีการสอนแง่คิดมุมมองต่าง ๆ ได้ดีอย่างมาก โดยเฉพาะ ครอบครัว เพื่อน ที่บางครั้งแล้วไม่มองข้ามอาจจะปัญหาในเรื่องความน้อยใจ จนทำให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จนส่งผลให้การดำเนินชีวิตไปในทางที่ผิด ดังนั้นแล้วตัวผู้เขียน

 

 

คิดว่าซีรีส์เรื่องนี้ได้มีการสะท้อนถึงสังคมในปัจจุบันที่ทุกคนมักจะชอบคิดไปเองหรือมองข้ามในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ คิดว่าคงไม่เป็นอะไร โดยเฉพาะเด็กที่กำลังเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นแล้วมักจะมีความคิดเป็นของตัวเองและไม่กล้าที่จะปรึกษาหรือพูดคุยกับคนในครอบครัวหนังซีรีส์เรื่องนี้ไปในทางเกี่ยวกับครอบครัวและเพื่อนเสียมากกว่าและมีทำให้มีความอยากรู้เรื่องราวที่มาของเนื้อเรื่องว่าจะดำเนินไปในทิศทางไหน ทำให้ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง สุดท้ายนี้แล้วหากท่านได้ย้อนเวลากลับในอดีตได้ท่านจะแก้ไขอดีตหรือไม่

 

แต่สำหรับตัวผู้เขียนแล้วนั้นไม่อยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรเลย เพราะทุกอย่างที่เราได้เจอมาในอดีตนั้นคือบทเรียน ที่ต้องเรียนรู้ และเลือกที่จะทำปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุดจะดีกว่า และซีรีส์เรื่องนี้ก็มีความสนุกน่าติดตามทุกตอนเลยจนนักเขียนต้องหาเวลาดูให้จบเพราะไม่งั้นนอนไม่หลับจริง ๆ เราชอบที่ซีรีส์ชุดนี้ทำออกมาฟีลกู๊ดดูสดใสในช่วงแรก แต่การดำเนินเรื่องจากนั้นที่ทิศทางถูกปรับเปลี่ยนไม่ได้เป็นเส้นตรงเหมือนภาพที่โปรโมตแบบในโปสเตอร์ จากความรักฟีลกู๊ดหนุ่มสาววัยมัธยมที่เปิดหัวมาแบบงงๆ ซับซ้อน ค่อยๆ เปลี่ยนเป็น

 

 

การกลับไปแก้ไขอดีตที่เป็นรักแรกของเธอที่จากไปแบบไร้เบาะแส นางเอกพบความผิดหวังเพราะรักแรกดันจากไปในวันเกิดเธอ เมื่อได้โอกาสกลับไปรำลึกความหลัง เนื้อหาเลยเป็นอีกแบบหนึ่งทันที พล็อตในแต่ละตอนมีความซับซ้อน พร้อมปริศนาที่ปล่อยให้นางเอกต้องมาเรียบเรียงเบาะแส พอมานั่งดูแต่ละตอนเราพบว่า เธอเองต้องแก้ปัญหาทุกอย่าง คือได้ย้อนเวลากลับไปสำรวจความผิดพลาด เรื่องราวที่ค้างคาใจ จุดนี้เองก็ทำได้ออกมาดีเกินคาด ซาวด์ประกอบถูกปรุงแต่งออกมาได้ถูกที่ถูกเวลา

รีวิว Blue Birthday (2021)

บทจะฟีลกู๊ดก็ฟีลกู๊ดไปเลย บทจะจริงจังก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ทุกอย่างไม่ได้มีอะไรได้มาง่ายๆ ทุกอย่างมีเงื่อนไขที่ต้องแลกและเธอเองก็เจอบททุกสอบด้วยเช่นกันชื่นชมที่ซีรีส์ชุดนี้หล่อหลอมเนื้อหาพาร์ทอดีตและปัจจุบันได้ลงตัว กลมกล่อมมาก ถ้าไม่สังเกตอาจจะแยกลำดับเหตุการณ์ไม่ออก นอกจากประเด็นการสืบเสาะปัญหาที่ค้างคาใจแล้ว ยังค่อยๆเล่นกับความรู้สึกนางเอก ความรัก ความคิดถึง ปัญหาหัวใจ รีวิวหนัง

 

เราว่าทีมงานใช้จุดนี้มาขยี้ได้ฉลาดมาก การปรับโทนเรื่องอดีต และ ปัจจุบันทำได้ดีเกินคาด ไม่รู้สึกผิดหวัง เสียง สี ไม่ต่างกันมาก ทำให้บททำงานได้ การวางพล็อตเชื่อมเหตุการณ์ 2 ไทม์ไลน์ไว้ด้วยกัน อดีต และ ปัจจุบัน ดึงความสนใจต่อผู้ชมได้มาก โทนมีความสว่างไม่ตึงเครียด

 

 

ไม่ซับซ้อนเหมือนซีรีส์เกาหลีๆ พวกย้อนเวลาเรื่องก่อนๆ ทำให้เราจดจ่อตอน 1 ตอน 2 ตอน 3 ไปได้เรื่อยๆ แม้กรอบเวลาจะน้อย แต่พล็อตเรื่องที่ทิ้งปริศนาค้างคาใจเอาไว้แต่ละตอน ทำให้เรารู้สึกอยากดูตอนต่อไปอีกเรื่อย ๆ อยากไขปริศนาไปพร้อมๆ กับเธอนั้นแหละ เราเชื่อว่าการออกแบบมุมภาพ

 

ทำให้มุมมองของเรื่องราวสนุกมากนักแสดงเราชอบ คิมเยริน นางเอกของเรื่องมาก สาวน้อยลุคสดใสน่ารักมาก ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเป็นใคร เปิดมา 1 นาที เรารู้สึกว่าน้องมีเสน่ห์ ฉากวิ่งเปิดเรื่องเรารู้สึกว่า เธอช่างทำให้เราอิ่มเอมใจจนไม่กล้าหันไปมองอะไรเลย ท่าทางที่สื่อสารออกมาดู

 

 

ออกมาเป็นธรรมชาติมาก เธอสามารถแบกเรื่องราวได้เยอะ ปรับลุคปรับโทนในแต่ละซีนออกมาได้แบบไม่ต้องพยายามเลยสักนิด น่ารักมีเสน่ห์ดวงตาเปร่งประกายเราชอบบทในภาคอดีตนะ คือสื่อสารออกมาน่ารัก ทั้งร้อยยิ้มทางท่า เราว่าเหตุผลที่เธอตีบทแตกเพราะช่วงอายุตัวละครกับเธอเองก็ไม่ห่างกันมากเข้าอกเข้าใจตรงนี้ได้เยี่ยม พอบทจะเจอความสูญเสียก็เล่นได้เข้าถึงอารมณ์ร้องไห้เสียน้ำตาได้ตามที่ผู้กำกับต้องการ ว่าจะขอเป็นแฟนคลับเธอเลย เพราเห็นครั้งแรกแล้วรู้สึกหลงรัก พาร์ทปัจจุบัน

 

อารมณ์ก็จะเปลี่ยนไปอีกแบบไม่สดใสมาก ตามประสาคนที่เคยเจอความสูญเสียมาก ส่วนพระเอก ยางฮงซอก รักแรกของเธอ เมื่อมาเข้าฉากด้วยกันดูลงตัวดี ทำให้ภาพซีรีส์ดูเป็นงานที่ดูใสๆ อารมณ์แบบความรักมัธยมไปเลยละ พระเอกคือคนที่มี Impact กับนางเอกมากในเรื่องนี้ ลองไปดูแล้วจะหลงรักนางเอก และ เอาใจช่วยเธอจนจบเรื่องแน่ ๆ ไม่กล้าพูดมากกลัวไม่สนุก

 

หลังจากที่ได้ดูทีเซอร์ในตัวของการเปิดเรื่องมานั้นมีความน่ารักสดใสของนักเรียนช่วงมัธยม เป็นการจีบกันที่น่ารักกุ๊กกิ๊กมาก แต่ก็มีจุดที่น่าสนใจคือประเด็นการเสียชีวิตของพระเอกที่ตายอย่างปริศนา ยังไม่มีข้อมูลอะไรมากต้องรอในซีรีส์เฉลยประเด็นการตายออกมาสำหรับเราแล้วจุดนี้แหละน่าสนใจดี โทนสีของซีรีส์มีทั้งสดใสอบอุ่น และ ก็จะมีความเทานิด ๆ เพื่อสื่อให้เห็นถึงความลึกลับทำให้ตัวของเนื้อหานั้นน่าติดตามมากยิ่งขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *