รีวิว A Lot Like Love
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อชายหนุ่ม และ หญิงสาวพบกันในระหว่างเที่ยวบินในประเทศ โอลิเวอร์เป็นบัณฑิตจบใหม่ เขาก็มีตารางการบินที่เร่งรีบเพื่อทำให้ความฝันในเชิงธุรกิจ และ การได้พบรักแท้กลายเป็นจริง เอมิลี่เป็นสาวรักอิสระที่ชื่นชอบการทำอะไรตามใจ และ ความสุดโต่งบ้าบิ่นทั้งหลาย สองทางเลือกที่แตกต่าง สองมุมมองชีวิตที่เข้ากันไม่ได้ พวกเขาอาจจะถูกใจกันในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ชัดเจนว่าโอลิเวอร์กับเอมิลี่ไม่ได้เป็นคู่แท้ของกัน และ กันหรือเปล่า
เนื้อเรื่อง รีวิว A Lot Like Love
แม้ทั้งคู่จะเดินหน้าต่อไปทั้งโอลิเวอร์ และ เอมิลี่ก็ดูจะไม่อาจปล่อยวางได้ทั้งหมด เมื่อพวกเขาบังเอิญได้เจอกัน ปีแล้วปีเล่า ในเมืองแล้วเมืองเล่า ผ่านการเปลี่ยนอาชีพ และความสัมพันธ์มากหน้าหลายตา มันก็ดูมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้พวก ดูหนัง
เรื่องย่อ รีวิว A Lot Like Love
เขาอยู่ห่างไกลกัน แต่ก็มีบางสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้ที่ดึงดูดพวกเขาเข้าหากัน มันมีบางสิ่งในการที่ทั้งคู่หัวเราะด้วยกัน การที่พวกเขาคุยกันได้อย่างถูกคอ การที่พวกเขาดูจะอยู่เคียงข้างอีกฝ่ายในยามที่สิ่งต่าง ๆ พังทลาย แล้วอะไรล่ะที่มาขวางทางสิ่งที่น่าจะเป็นความรักที่แสนโรแมนติกได้
Oliver (Ashton Kutcher) ชายหนุ่มว่างงานมีความฝันที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้พบกับ Emily (Amanda Peet) หญิงสาวที่เพิ่งอกหัก เพียงการเดินทางหนึ่งเที่ยวบินทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ก่อตัวขึ้นในเวลาที่ยังไม่เหมาะสมนัก จนเวลาผ่านไปทั้งคู่ก็เเยกย้ายไปตามหน้าที่ของตนเอง เเล้วรอเพียงวันที่”ใช่”สำหรับพวกเขาทั้งคู่
เป็นอีกหนัง Rom-Com ที่มีพล็อตดูน่าสนใจ และ แปลกใหม่คือเป็นกึ่งๆ Coming of age สำหรับวัยรุ่นที่เพิ่งเรียนจบกำลังเข้าสู่วัยทำงาน และ กำลังมองหาความมั่นคงในชีวิต ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยตัวพระเอก Oliver ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต และ เชื่อว่าเมื่อถึงวันนั้นเรื่องของความรักจะมาเอง แตกต่าง กับ Emily ที่ค่อนข้างปล่อยอิสระ ไม่มีแบบแผน และ กฏเกณฑ์ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ต่างรู้ในใจว่าได้เจอคู่เเท้ของตัวเองเเล้วเพียงเเต่ต้องรอเวลาที่จะพาทุกอย่างในเข้าที่เข้าทาง ดูหนังออนไลน์
จากชื่อเรื่อง “A Lot like Love” ถ้าเเปลตามตัวก็คือ “คล้าย กับ ความรักมากๆ” ซึ่งตรง กับ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ไม่อาจพูดได้เต็มปากเต็มคำว่านี่คือความรัก เเต่ลึกๆในใจก็ไม่อาจขาดกัน และ กันได้
ซึ่งระหว่างที่ความสัมพันธ์นี้ลากยาวไปเป็นปีๆ ทุกครั้งที่พวกเขาเเยกกัน Emily จะชิงพูดก่อนที่ Oliver จะพูดอะไรสักอย่างเสมอว่า “Don’t… you will ruin it” “อย่าเลย…เดี๋ยวคุณจะทำมันพัง” บอกตามตรงว่าค่อนข้าง งง ว่าอะไรพังหว่า พอมาตีความดูเเล้วถึงได้รู้ว่าสิ่งที่จะพังก็คือ “ความเป็นเพื่อน”นั่นเอง
หนังเรื่องนี้ใส่ ost. ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว พอไม่มีบทพูดเราก็จะได้ยินเพลงเข้ามาแทนที่เลยทันทีซึ่งแต่ละเพลงก็เพราะใช้ได้เลยเช่น If you leave me now – Chicago, Brighter than Sunshine – Aqualung และ Look what’ve you done – Jet รวมถึงเพลง I’ll be there for you – Bon Jovi ในฉากที่ Oliver ร้องให้ Emily
อีกด้วยเป็นอีกหนัง Rom-Com ที่ค่อนข้างเป็นไปได้ในชีวิตจริง และ ทำออกมาได้ดีมากๆ เพลงก็เพราะ เพียงเเต่มีประเด็นรองที่หนังต้องการจะสื่อเเต่กลับทำได้ไม่สุดซะงั้น
หากวันแรกเมื่อ 7 ปีก่อน Emily รับการเข้ามาของ Oliver ทั้งคู่ก็อาจมีวันเวลาที่ดีด้วยกันต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน หรือไม่ก็อาจแยกย้ายกันไป ไม่มีชีวิตคู่ร่วมกัน ไม่เจอกันอีกเลย แต่เราไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าอะไรที่จะรอคอยเราอยู่ความรักบางครั้งเป็นเรื่องของกระแสลมที่มันพัดผ่านเราไม่ให้รู้ตัว บางครั้งพัดผ่านมาแล้วก็พัดผ่านไป
บางครั้งสมองเราไม่แน่ใจว่าใครคนนั้นคือคนที่ใช่หรือเปล่า หลายครั้งที่เราสัมผัสได้แต่เรากลับปล่อยมันผ่านไป เพราะความกลัวความไม่แน่ใจไม่กล้าที่จะเปิดใจต้อนรับมันเข้ามา
บางครั้งหากให้ร่างกายกับหัวใจเป็นตัวช่วยในการหาคำตอบเราอาจพบว่า ใครที่เราอยู่ด้วยแล้วรู้สึกเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด ใครที่เราคิดถึง เขา เสมอเมื่อเราทุกข์ ใครที่แปรเปลี่ยนความทุกข์ของเราให้กลายเป็นความสุขได้เสมอ ใครที่หัวเราะร้องเพลงพูดจาไปกับเราได้ในจังหวะเดียวกัน ใครบางคนที่ใช้ชีวิตในจังหวะชีวิตเดียวกับเราฯลฯ ใครคนนั้นอาจเป็นคนที่เราคิดว่าไม่ใช่แต่เป็นคนที่ใจเราอยากอยู่ด้วยมาตลอด ดูหนัง 4k
เหมือนที่ Oliver และ Emily เคยพบและใช้ชีวิตร่วมกันครั้งแล้วครั้งเล่า Oliver คิดถึง Emily ทุกครั้งที่มีปัญหา Emily มี Oliverเสมอเมื่อ เธอ ไม่มีใคร แต่ทั้งคู่ไม่เคยมีกัน และกัน เมื่อมาเจอกันแล้วก็ต้องแยกจากกันไป เพราะEmily คิดว่า เขา ไม่ใช่สเปคของ เธอ เขา ไม่ได้ เข้า มาหา เธอ ก่อนอย่างที่ เธอ หวัง และ Oliverคิดว่าตัว เขา เองยังไม่พร้อม เขา ยังไม่มั่นคง
ความคิดคือสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ต้องจากกันครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนความรู้สึกคือสิ่งที่ดึงทั้งคู่กลับมาพบกัน เราในฐานะคนดูมองย้อนกลับไป เราก็จะเห็นว่าทั้งสองคนมีความสุขเสมอเมื่อมีกัน และ กัน ทั้งคู่รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง และ โลดแล่นในจังหวะชีวิตเดียวกัน
กี่ครั้งที่โอกาสหลุดลอยไปเพราะเราไม่พูดมันออกมา กี่ครั้งที่เราต้องมานั่งพร่ำเพ้อเสียใจถึงสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ ชีวิตจริงเราย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ และ เราไม่ได้มีโอกาสที่จะโชคดีในท้ายที่สุดเหมือน กับ Oliver และ Emily เสมอไป คำพูดหนึ่งในหนังที่ผมดูที่โรงสยามรอบ18.30น.เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้วรู้สึกชอบ และ มันช่วยในการเลือกใช้ชีวิต คือ คำพูดของพี่ชายOliverที่มาบอกว่า ชีวิตหากรอตั้งหลักก่อนจึงจะเริ่มใช้ เราคงไม่ได้ใช้ชีวิตกันพอดี
หนังเล่าเรื่องย้อนไป 7 ปีก่อน ที่ต่างคนต่างรักต่างพลัดต่างพรากแยกจากแล้วกลับมาพบกันใหม่ เรื่องราวรักใคร่ไปๆมาๆของทั้ง Oliver และ E mily ถ้าจะมองว่าน่ารักมันก็น่ารักดีแต่หนังไม่ได้มีความลึกอะไรในความหมายการกระทำของตัวละครเลยแม้แต่น้อย หนังสัมผัสความรู้สึกและ ความคิดของตัวละครอย่างบางเบาไม่ยอมให้คนดูได้ เข้า ใจว่าเพราะอะไรทั้งคู่ถึงทำแบบนั้น ดูหนังออนไลน์ 4k
.ตัวประกอบในหนังโรแมนติกเป็นส่วนประกอบสำคัญเสมอในการประสบความสำเร็จของหนัง(ลองคิดถึงเพื่อนพระเอกใน Notting hill หรือหนังเดี๋ยวรักเดี๋ยวจากเหมือนกันอย่าง Four wedding and a funeral ว่าช่วยเสริมความน่ารักน่าสนใจให้ กับ หนังได้มากแค่ไหน) กับ เรื่องนี้ตัวประกอบที่หนังอุตส่าห์ใส่ลักษณะที่น่าสนใจอย่างพี่ชายที่เป็นใบ้ของ
พระเอก เข้า มา แต่กลับใช้ประโยชน์จากคาแรกเตอร์นี้น้อยมาก ใส่ เข้า มาเพื่อให้มีแต่ไม่ใช้ส่วนนี้ในการสร้างเสน่ห์หรือเรื่องราว ผมประทับใจหลายฉากในหนังตัวอย่างมากแต่เมื่อมันมาอยู่ในหนัง มันกลับให้อารมณ์ความรู้สึกได้น้อยกว่าหนังตัวอย่าง เป็นเพราะหนังไม่ทอดอารมณ์ต่อเนื่องหลังจากตีคนดูด้วยฉากเด็ดนั้นแล้ว
เหมือน กับ พอปล่อยช็อตสำคัญออกมาไม่ตามอารมณ์ในฉากนั้นต่อไป มันเลยให้ความรู้สึกแกนๆแห้งๆไม่ซาบซึ้งได้เท่าที่ควร รีวิวหนัง
สิ่งที่ผมรู้สึกว่าหนังเหือดแห้งอย่างน่าใจหายคือเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก หนังมีอยู่เป็นบางช่วงแต่ไม่ใช่ กับ ภาพรวมของหนังทั้งหมด หนังอาศัยเสน่ห์ของ Ashton Kutcher ที่มาทั้งลีลาซื่อ/เหวอ/เซ่อ/เท่ ฯลฯ เรียกรอยยิ้มจากคนดู(โดยเฉพาะสาวๆ)ได้อย่างเต็มเปี่ยมบวก กับ ความน่ารักขี้เล่นแก่นเหมือนลูกแมวที่แฝงความดื้อรั้นอย่าง Amanda Peet ทั้งคู่เมื่อมา