รีวิว The Fault in Our Stars

เด็กสาวอายุ 17 ปี ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเธอมีชีวิตอยู่ได้ด้วยยา หมอ และถังออกซิเจน เธอใช้ชีวิตโดยที่คิดว่าซักวันนึงตัวเธอเองก็ต้องตาย  ด้วยเหตุผลนี้แม่เธอจึงขอให้เธอเข้าร่วมกลุ่มบำบัดและนั่นทำให้เธอได้พบ กับ ออกัสตัส ต้องยอมรับว่านางเอกมีความสวย และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมาก ตัวละครแสดงให้เราเห็นว่าเธอใช้ชีวิตอยู่ กับความเป็นจริง

เนื้อเรื่อง รีวิว The Fault in Our Stars

 

รีวิว The Fault in Our Stars

 

ถึงแม้ว่าเธอจะมีอายุเพียง 17 ปี และมีโรคร้ายที่สามารถพรากเธอไปจากโลกนี้ได้ทุกเมื่อ แต่เธอกลับไม่ได้หมกมุ่นอยู่ กับ ความเจ็บปวดที่เธอกำลังเผชิญอยู่ เธอใช้ชีวิตให้ตัวเธอเองและครอบครัวของเธอมีความสุข แม้เธอจะไม่สามารถทำแบบวัยรุ่นคนอื่นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม

เรื่องย่อ รีวิว The Fault in Our Stars

 

รีวิว The Fault in Our Stars

 

มาต่อที่พระเอกของเรื่อง ออกัสตัส เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ผู้ป่วยมะเร็งกระดูกมีเหตุให้ต้องตัดขาข้างหนึ่งทิ้งตั้งแต่หัวเข่าลงไป ออกัสตัสเข้ากลุ่มบำบัดเพราะไอแซคเพื่อนซี้ของเขาชวนมาและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เค้าและเฮเซลได้พบกัน ขอบอกเลยว่าออกัสตัสเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ดึงดูดน่าหลงใหลมาก มีความกล้าแสดงออกอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา รอยยิ้มสดใสบ่ง

 

บอกถึงความจริงใจ มีความมั่นใจในตัวเอง แถมยังรักเพื่อนมาก หากสาว ๆ คนไหนถูกหนุ่มออกัสตัสขายขนมจีบให้ละก็ คงเป็นอันไปไหนไม่ได้แน่ ๆ เพราะเค้าเป็นคนตั้งใจที่จะทำตามปณิธานของตัวเอง ไม่ว่าในบางเรื่องจะเสี่ยงต่อชีวิตและหัวใจของเค้าก็ตาม ดูหนัง 

 

ความรักของเฮเซลและออกัสตัสพัฒนาไปอย่างเรียบง่าย รวดเร็ว แต่มั่นคง จนวันหนึ่งอาการของเฮเซลกำเริบทำให้เฮเซลพยายามที่จะตีตัวออกห่างจากออกัสตัส เพราะเธอคิดว่าความรักที่เกิดขึ้น ไม่ช้าก็เร็ววันหนึ่งเธอก็ต้องจากไป ซึ่งนั่นไม่แฟร์ กับ ออกัสตัสเลย ถึงตรงนี้หนังได้แสดงให้เราเห็นว่า การมีความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่การที่จะรักษาความรู้สึกของคนที่เรารักนั้นสำคัญยิ่งกว่า เพราะคนที่ยังต้องมีชีวิตอยู่ ควรจะอยู่ด้วยความรักต่อคนรอบข้างมากกว่าอยู่ กับ ความเสียใจต่อคนที่จากไปแล้ว

 

รีวิว The Fault in Our Stars

 

อย่างไรก็ตามออกัสตัสก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้  เค้ายังคงยืนยันว่าเค้าจะรักเธอต่อไป ทั้งสองได้มีโอกาสใช้เวลาสร้างความทรงจำที่ดีหลายอย่างร่วมกัน แต่ในขณะเดียวกันนั้นออกัสตัสก็ได้พบว่ามะเร็งในตัวเค้าได้กลับมาลุกลามอีกครั้ง ณ จุดนี้คือ ในคำว่าชีวิตอะไรก็เกิดขึ้นได้จริง ๆ สิ่งที่เราเคยมั่นใจกลับกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่ง โดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว จากที่หนังกำลัง

ทำให้เราชื่นมื่น กับ ความรักของคนสองคนที่มีให้กัน โดยโรคร้ายที่แฝงอยู่ในร่างกายของพวกเขาก็ไม่อาจมาขวางกั้น อยู่ดี ๆ หนังกลับดึงเราจมดิ่งสู่ห้วงความเศร้าอย่างฉับพลัน ไม่รู้จะอธิบายความเศร้านี้ว่าอย่างไรดี การที่เรารู้ว่าคนที่เรารักกำลังจะตายจากเราไป และ เราต้องมีชีวิตอยู่เฝ้าดูจนถึงวาระสุดท้ายนั้น แม้เราจะพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้มีคุณค่าและ น่าจดจำเพียงใด ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีความเศร้าเสียใจแทรกซึมอยู่ในทุก ๆ ช่วงเวลาที่มีค่าเหล่านี้

 

 

ออกัสตัสได้ขอให้เฮเซลเป็นผู้เขียนคำอาลัยในงานศพของเค้า รวมทั้งขอจัดงานศพเล็ก ๆ ล่วงหน้า เพราะเค้าอยากจะมีส่วนร่วมในงานศพของตัวเอง ซึ่งในงานนี้ก็มีแค่ออกัสตัส เฮเซล และ ไอแซคเท่านั้น ฉากนี้คือฉากที่หนังทำคนดูร้องไห้หนักมาก ดาเมจรุนแรงขั้นสุด ส่งผลให้ความรู้สึกเสียหายแทบไม่เหลือชิ้นดี แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถสื่อสารให้คนดูสัมผัส ดูหนังออนไลน์

 

ได้ถึงความรักที่ทั้งสามคนมีต่อกัน ในฉากเหมือนไม่มีอะไรสำคัญ เป็นฉากที่เรียบง่ายในโบสถ์แห่งหนึ่ง มีเเค่เพียงวัยรุ่นสามคนมารวมตัวกันเพื่อจำลองงานศพให้ กับ คนหนึ่งในกลุ่มที่ต้องจากพวกเขาไปในอีกไม่ช้า แต่กลับเป็นฉากที่อบอวนไปด้วยความรู้สึกประหนึ่งผู้ชมที่นั่งดูได้เข้าไปมีส่วนร่วมในงานศพเล็ก ๆ ของออกัสตัสนั่นด้วย

 

และ แล้ววันนั้นก็มาถึง เฮเซลนอนร้องไห้อยู่บนเตียงตั้งแต่แม่ของเธอยังไม่ได้บอกอะไร กับ เธอเลย วันรุ่งขึ้นเธอไปงานศพของออกัสตัส เธอไม่ได้กล่าวคำอาลัยที่เธอตั้งใจเขียนไว้ แต่เธอกลับทำบางสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้ใหญ่ที่คิดว่าความรักแบบเด็ก ๆ นั้นไม่สำคัญอะไรไปตลอดกาล

 

 

สุดท้ายแล้วหนัง The fault in Our Stars ก็คือ หนังที่สามารถสื่อสารเรื่องราวความรักของเพื่อน ครอบครัว และ คนรัก ผ่านตัวละครต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว เป็นพล๊อตหนังรักโรแมนติกที่มีพื้นหลังเป็นโรคมะเร็งอยู่ในตัวละครหลักของเรื่อง ซ้ำตัวละครหลักนั้นยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรักที่หนักแน่น บริสุทธิ์ และ มั่นคง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีอายุหรือ

 

มีประสบการณ์ในชีวิตมากมาย เนื้อเรื่องเล่าอย่างตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน สามารถคาดเดาได้ค่อนข้างง่ายว่าเนื้อเรื่องจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เรียกได้ว่าแต่ละฉากที่ออกมานั้นคือสิ่งที่เป็นไปได้ว่าคนเราจะทำจริง ๆ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งไป กับ ตัวหนังได้ง่าย เพราะการกระทำทุกอย่างของทุกตัวละครไม่เกิน

 

 

ความเป็นจริง การดำเนินเรื่องเป็นไปตามลำดับ เข้าใจง่าย ไม่รู้สึกขัดหรือสะดุด หนำซ้ำยังมีบางช่วงของหนังที่ตัวละครได้ตัดสินใจทำบางอย่างแบบฉับพลัน นั่นยิ่งทำให้เรารู้สึกหลงรักตัวละครตัวนั้นมากยิ่งขึ้นไปอีก  ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้เราสามารถดูหนังได้อย่างเพลิดเพลินในห้วงเวลา 2 ชั่วโมง 13 นาที และ ในขณะเดียวกันเราก็ถูกดึงให้เข้าไปอยู่ในตัวหนังด้วย ซึ่งหนังก็ทำได้อย่างแยบยล หากใครที่ไม่ได้ร้องไห้มานานแล้ว อยากล้างตาด้วยน้ำตาแห่งความประทับใจ แนะนำให้ไปลองดูหนังเรื่องนี้กันได้นะคะ เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวอีกทีเราก็คงพบว่า ตัวเองได้นั่งร้องไห้ให้ กับ ความรักที่น่าประทับใจครั้งนี้ไปแล้ว ดูหนัง 4k

 

อีกฉากหนึ่งที่สะเทือนอารมณ์ไม่แพ้กันก็คือฉากปะทะอารมณ์ระหว่างแม่ลูก เมื่อฮาเซลบอกแม่ของเธอว่าสิ่งที่ทำให้เธอโกรธก็คือภาพฝังใจที่เธอได้ยินแม่ของเธอพูดว่า หลังจากที่เธอตายไป(ตอนอายุ 13) เธอกลัวว่าจะไม่ได้เป็นแม่ลูก กับ ฮาเซลอีก คำพูดเบาๆอันนั้นทำให้เธอฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้ และ เราเชื่อว่าคนที่เป็นคน “รักแม่” มากๆ จะบ่อน้ำตาแตกไป กับ การแสดงของลอร่า เดิร์นในบทคุณแม่ที่ดูแลลูกอย่างชิดใกล้อย่างแน่นอน

 

 

TFIOS คือความงดงามในการเล่าเรื่องของ “ความตาย” ให้เราเข้าใจ และ เข้าถึงไป กับ มัน เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าใครจะเดินทาง “จาก” เราไปก่อนกันสิ่งที่เกาะกุมหัวใจเรานั้นก็คือเรื่องดีๆที่มนุษย์มีให้กัน และ กันตราบวันสิ้นลมให้ใจ และ จะอยู่ในความทรงจำของคนคนหนึ่งตลอดไป ดูหนังออนไลน์ 4k

 

แก่นสารของ TFIOS นั้นหยิบเรื่อง “ความตาย” เอามาเป็นแกนหลักของหนังได้อย่างคมคาย ลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นฉากงานศพของตัวละคร ที่นางเอกได้พูดว่า “งานศพนั้นไม่ได้จัดขึ้นเพื่อคนที่จากเราไปแล้ว หากแต่จัดขึ้นเพื่อคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปต่างหาก” ซึ่งมันสะท้อนให้เราเห็นว่าการคร่ำครวญ กับ ความสูญเสียนั้นไม่ควรจะเอามาเป็นอุปสรรคให้ กับ ชีวิต

 

ความตายล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นวนเวียนอยู่รอบๆตัวเรา ความตายของคนรอบข้างนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่จะต้องเกิดขึ้น กับ ตัวเราเช่นกันไม่วันใดก็วันหนึ่งสภาพการระลึกรู้ถึงความตายของฮาเซลนั้น สะท้อนให้ผู้ชม “ใช้ชีวิตที่มีอยู่ในทุกวัน” ให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ สิ่งที่ทำเราน้ำตาริน (และไม่ใช่แค่ฉากเดียวของหนังเรื่องนี้) ก็คือฉากที่นางเอกของเรื่องพยายามจะเดิน

 

 

ขึ้นไปดูบ้านของแอน แฟรงค์ซึ่งไม่มีลิฟต์ มีแต่บันไดชันๆ ซึ่งการไต่ขึ้นที่สูงมากๆทำให้เธอเหนื่อยจับ แต่เธอก็ยังคงยืนกรานที่จะเดินขึ้นไปพร้อม กับ หอบถังออกซิเจนไปพร้อมๆ กับ เธอ มันเป็นฉากที่เราเอาใจช่วย และ รู้สึกถึงชัยชนะเล็กๆของมนุษย์ที่ “เอาชนะ” หัวใจของตัวเองได้อย่างงดงาม รีวิวหนัง

 

TFIOS ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้นสามารถทำให้ตัวละครสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของคนดูได้เพราะนักแสดงมีเสน่ห์มาก และ เคมีระหว่างฮาเซล และ กัสก็ลงตัวกันตั้งแต่ฉากแรกพบ ประกอบ กับ ทักษะทางการแสดงที่เข้าถึงของตัวละคร ฮาเซลเป็นเด็กสาวที่เข้าใจในชีวิต เธอไม่ได้เป็นเด็กสาววัยรุ่นที่มัวแต่เศร้าโศก กับ เรื่องความตายที่อาจจะถามหาเธอได้ทุกครู่ทุกยาม แต่เธอพยายามจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่า และ มีความสุขที่สุดตามสภาพ

 

ขณะเดียวกันเมื่อกลับเข้าสู่โหมดหนัง ตัวละครหลักอย่างเฮเชล และ ออกัสตัสอย่างเช่นบทบาท และ การเลือกนักแสดง ทำได้ดีโดยเฉพาะแอนเชล เอลกอร์ธ(ออกัสตัส) เช่น การกระทำ(Acting) ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าพัฒนาการของตัวละครของเฮเชลเกิดขึ้นจริงได้

 

ประการต่อมา เราจะเห็นว่าท้องเรื่องซึ่งเน้นหนักไปทางดราม่ามากกว่าโรแมนติกซ์ มักจะมีแง่มุม ประเภทชี้จุด! โดนใจเชิงปัญหาชีวิต และ ทัศนคติ ซึ่งเนื้อหาของเรื่องนี้ก็ทำได้ดี ภายใต้ข้อจำกัดของหนัง ยิ่งเวลาดูจบก็มักจะได้แง่คิดดีๆผ่านเรื่องราวของพวกเขากลับมา

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *