รีวิว เลิฟ แอนด์ มอนสเตอร์
เป็นหนังที่ตั้งชื่อได้สั้นแต่อธิบายเนื้อหาใจความของเรื่องราวได้ตรงเป๊ะ หนังจำลองเหตุการณ์ในโลกอนาคต เมื่อมีอุกกาบาตลึกลับมาตกลงบนโลกมนุษย์ ปัญหาคือเจ้าอุกกาบาตลูกนี้ดันพาเชื้อโรคมหาภัยมาด้วย ส่งผลให้สัตว์และแมลงกลายร่างเป็น อสุรกายตัวขนาดยักษ์กันไปทั่วโลก ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี มนุษยชาติโดนฆ่าตายไปถึง 95% ส่วนที่เหลือรอดต้องหลบไปใช้ชีวิตในบังเกอร์ใต้ดิน พระเอกของเราคือ โจล เด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่ต้องแยกจาก เอมมี่ แฟนสาว ที่รักกันดูดดื่ม ผ่านไป 7 ปี โจล ดูหนัง ดูหนังออนไลน์
สามารถติดต่อเอมมี่ได้ทางวิทยุสื่อสาร ทำให้รู้ตำแหน่งของบังเกอร์ของเอมมี่ว่าอยู่ห่างออกไป 136 กม. ด้วยความรักและคิดถึงเอมมี่มาก โจลตัดสินใจออกไปเสี่ยงชีวิตในโลกภายนอกเพียงคนเดียว ด้วยความตั้งใจจะดั้นด้นไปหาคนรักให้จงได้ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของเพื่อน ๆ ร่วมบังเกอร์ ผลงานสร้างจากค่ายพาราเมาท์เรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องที่โดนผลกระทบจากสถานการณ์โควิด – 19 อย่างชัดเจน
เดิมทีหนังวางโปรแกรมออกฉายในโรงภาพยนตร์มาตั้งแต่ต้นปี ในวันที่ 6 มีนาคม 2020 ในช่วงที่ไวรัสกำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรง หนังขยับ ออกมาหน่อยเป็น 17 เมษายน 2020 แต่แล้วสถานการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย โรงหนังปิดกันทั้งสหรัฐฯ ว่าแล้วก็ขอขยับอีกรอบ ข้ามปีไป 12 กุมภา 2021 กันเลย สุดท้ายในเดือนสิงหาคม พาราเมาท์ก็ตัดสินใจเด็ดขาด ไม่ฉายโรงภาพยนตร์มันแล้ว ปล่อย
ฉายในระบบสตรีมมิงตามเทรนด์นิยมมันไปเสียเลย แล้วหนังก็ปล่อยให้เช่าดูเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2020 นี้เป็นวันแรก ในราคา 19.99 เหรียญ เงินไทยก็ประมาณ 624 บาท แค่ฉายมาได้ 2 วัน หนังก็ได้รับเสียงตอบรับในทางดีครับ คะแนนใน Rottentomatoes อยู่ที่ 90% จากนักวิจารณ์ 29 คน ส่วน IMDB อยู่ที่ 7.2 จากจำนวนสมาชิกโหวตที่ 2,310 คน ทำให้ต้องมาย้อนดูเครดิตทีมงานสำคัญกันสักหน่อย ทั้งที่ชื่อผู้กำกับ
ไมเคิล แมทธิว ก็ช่างไม่คุ้นหูเอาเสียเลย พี่แกเป็นผู้อำนวยการสร้างมา 4 เรื่อง กำกับหนังยาวมาแค่เรื่องเดียว แต่มีเครดิตสำคัญคือเคยผ่านงานเป็น ศิลปินฝ่ายวิชวลเอฟเฟกต์มาก่อน ก็เลยเข้าทางกับหนัง Love and Monsters ที่อุดมไปด้วยงานภาพวิชวลเอฟเฟกต์ ส่วนมือเขียนบทตกเป็นของ ไบรอัน ดัฟฟิลด์ และ แมทธิว โรบินสัน ที่พอดูเครดิตแล้วก็ต้องชื่นชมว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัวอย่างมาก
เพราะ ไบรอัน ดัฟฟิลด์ นั่นเคยมีผลงาน Underwater หนังสัตว์ประหลาดใต้ทะเลสายดุที่เพิ่งออกฉายไปเมื่อต้นปี ส่วน แมทธิว โรบินสัน ก็เคยมีผลงาน Monster Trucks หนังสัตว์ประหลาดน่ารักเอาใจกลุ่มคนดูรุ่นเล็กเมื่อปี 2016 ประสบการณ์ของทั้ง 3 จึงนับว่าเป็นทีมงานที่ลงตัวสำหรับหนังสัตว์ประหลาดอารมณ์ดีในสไตล์หนังครอบครัวเรื่องนี้
เพราะว่าหนังมาในเรต PG-13 เป็นส่วนผสมของ ผจญภัย และ คอมมีดี้ บนพื้นฐานของเรื่องราวเลิฟสตอรี่ หนังก็เลยออกมาในแนวปลอดสารพิษ ดูกันได้ทั้งครอบครัว แต่ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคอแอ็กชันอาจจะร้อง ว้า! งั้นคงไม่มีฉากลุ้นระทึกตื่นเต้น ก็ ต้องบอกกันว่า ก็ไม่ถึงขนาดนั้น หนังเดินเรื่องเร็ว ปูความกันตั้งแต่เครดิตต้นเรื่องผ่านเสียงบอกเล่าของ โจล
พระเอกของเรื่อง ผ่านไปแค่ 20 นาที โจลก็ออกมาผจญภัยแล้ว เมื่อชื่อหนังมีคำว่า Monsters หนังก็จัดให้จุใจล่ะครับ สัตว์ประหลาดออกมา เพ่นพ่านให้เห็นกันหลายตัว มีการดีไซน์ที่ดี ดูออกว่าพื้นฐานมาจากตัวอะไร ดูมีพิษสงแล้วยังเจือความบริสุทธิ์ให้เห็นได้ในแววตา บางตัวก็มาสายโหดเลยล่ะ บางตัวก็มาแบบใส ๆ แต่ยังไงก็ไม่มีฉากฆ่ากันให้เห็นจะ ๆ แต่ทุกครั้งที่สัตว์ประหลาดออกมาก็มี
เนื้อเรื่อง รีวิว เลิฟ แอนด์ มอนสเตอร์
ฉากไล่ล่ากัน คนดูก็ต้องลุ้นให้โจลหนีรอดปลอดภัย ส่วนหนึ่งที่มีผลอย่างมากให้คนดูต้องเอาใจช่วยโจล ก็เพราะการปูพื้นหลังให้คนดูได้รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่หน่อมแน้ม ตอนอยู่ในบังเกอร์ก็รับหน้าที่พ่อครัว ไม่เคยได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมบังเกอร์ ให้ออกไปพะบู๊เลยสักครั้ง พอวันที่เขาตัดสินใจขอลุยเดี่ยวออกมาเผชิญโลกภายนอก ก็มีแต่คนคิดว่าเขาไม่น่าจะมีชีวิตรอด ดูหนัง ดูหนังออนไลน์
และทุกครั้งที่มีสัตว์ประหลาดมา ก็มาแบบน่าตื่นเต้น เพราะค่อย ๆ โผล่ชิ้นส่วนเล็ก ๆ มาก่อน มีเสียงนำ ให้เราคอยลุ้นไปเดาไปว่าจะเป็นตัวอะไร ดีแลน โอ’ไบรอัน พระเอกของเรื่องนี่เรียกได้ว่าหายหน้าไปเลย ตั้งแต่จบไตรภาค Maze Runner: The Death Cure ในปี 2018 มาเรื่องนี้ก็ยังได้รับบทที่ใกล้เคียง โธมัส ใน Maze Runner คือยังเป็นเรื่องราวในโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยอันตราย แล้ว
เขาก็ยังต้องวิ่งหน้าตั้งหนีสัตว์ประหลาดเช่นเคย แม้ว่าหนังจะมีนักแสดงสมทบมากมาย แต่รายที่โดดเด่นและน่าจะได้รับการจดจำที่สุดจากเรื่องนี้กลับไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็น บอย หมาพันธุ์ ออสเตรเลียน เคลพี ที่เป็นเพื่อนร่วมผจญภัยกับโจลไปตลอดทางแล้วบทก็เขียนให้เจ้าบอยนี่มีบทบาทอย่างมาก แถมมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการของโจลอีกด้วย แค่บทบอยนี้ ทีมงานต้องใช้หมาถึง 2 ตัวคือ ฮีโร และ ดอดจ์ สลับกันเข้าฉาก ส่วนดีแลน โอ’ไบรอัน ก็ต้องทำการบ้านอย่างมาก
ด้วยการใช้เวลาฝึกกับหมา 2 ตัวนี้จนทั้งคู่รักและสนิทกับดีแลน ถึงขั้นว่าถ้าฉากไหนที่ฮีโรและดอดจ์ต้องแสดง แต่ดีแลนไม่ได้แสดงด้วย ดีแลนจะห้ามโผล่หน้าเข้ามาใกล้กองถ่ายเด็ดขาดไม่งั้นเจ้า 2 ตัวนี้จะวิ่งหาแต่ดีแลนแล้วก็ถ่ายทำกันไม่ได้สักที ส่วนนักแสดงที่มีชื่อเสียงก็เห็นมีเพียงแค่ ไมเคิล รูเกอร์ จาก Guardians of the Galaxy อีกรายเดียวเท่านั้น ที่โผล่มาเป็นสีสันช่วงกลางเรื่อง
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสได้ดูบนจอภาพยนตร์ เชื่อว่าถ้าดูบนจอใหญ่จะต้องได้อรรถรสมากว่านี้ เพราะเป็นหนังที่มีความหลากหลายทั้งอารมณ์ขัน ดราม่าซาบซึ้งพอควร ลุ้นระทึกไปกับบรรดาสัตว์ประหลาด ที่ผสมผสานกันได้ลงตัว หนังยังคงปัจจัยหนังครอบครัวไว้ได้ ด้วยการอดแทรกสาระที่พ่อแม่สามารถหยิบมาชี้นำบุตรหลานได้ในเรื่องความกล้าหาญ
ความมั่นใจ ความรักในครอบครัว และการให้อภัย ไม่ใช่ว่าสัตว์ประหลาดที่เห็นจะดุร้ายไปเสียทุกตัว งานซีจีโดยรวมถือว่าเนี้ยบไม่มีฉากหยาบ ๆ ให้สะดุดตา มีงานขายภาพมุมกว้างบ่อยครั้ง ก็ถือว่าได้งานที่ออกมาคุ้มทุนสร้างที่ 28 ล้านเหรียญ ก็หวังว่าพาราเมาท์ตัดสินใจปล่อยลงสตรีมมิงแล้วจะได้ทุนคืนนะครับ วันนี้หนังลง NETFLIX เรียบร้อยแล้ว กดดูตามลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดที่แม้ลิขสิทธิ์จะเข้าไทยช้า แต่คุณภาพระดับหนังโรง ด้วยงานสร้าง งานภาพ การแสดง และประเด็นของตัวละครที่เข้าถึงง่าย และน่าสนใจ และครบรสไปด้วยความอบอุ่น ความระทึก และความโรแมนติก งาน CG มีความสวยงามไม่ลอย บทของตัวละครมีความโดดเด่นสำคัญและสมเหตุสมผล ดูได้กันทั้งครอบครัว จนเสียดายที่หนังไม่ได้เอาไปฉายในทุกโรงภาพยนตร์ “7 ปีหลังจากอสุรกายยักษ์ยืดโลกจนเหลือผู้รอดชีวิตเพียง 5 เปอร์เซนต์ของประชากร
โจเอล ดอว์สัน (ดีแลน โอ’ไบรอัน) และมนุษย์คนอื่นๆ ต่างใช้ชีวิตหลบซ่อนอยู่ในใต้ดินแต่หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อจาก เอมี (เจสสิก้า เฮนวิค) แฟนสาวของเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป 80 ไมล์ (140 กิโลเมตร) ในอาณานิคมแห่งหนึ่ง ด้วยความเหงาและความกลัวว่าจะกลายเป็นเหยื่อเหมือนเพื่อนร่วมกลุ่มที่ถูกจับกินในยามค่ำคืน โจเอลที่ไม่มีอะไรจะเสียจึงตัดสินใจออกเดินทางไปหาเธอแม้จะมีอันตรายรออยู่ข้างหน้า
รีวิว เลิฟ แอนด์ มอนสเตอร์
แต่เขาไม่ได้เดินทางเพียงคนเดียว เพราะยังมีเจ้าหมาเพื่อนคู่ใจที่เหมือนจะมาเป็นผู้พิทักษ์โจเอลและสองผู้รอดชีวิตจอมเฮี้ยว (ไมเคิล รูกเกอร์ และอาเรียนา กรีนบลาตต์) ที่จะมาช่วยเขาประคับประคองให้เขาไปให้ถึงความรักที่เขาเฝ้ารอมานานแสนนาน การเดินทางครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่จะทำให้เขามีความกล้าและไม่ยอมแพ้ และไม่ใช่คนอ่อนแออีกต่อไป” ต้องชื่นชมการวางตัวละครที่ใส่เข้ามาได้อย่างถูกจังหวะนอกเหนือจากตัวละครเอก โจเอลที่เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มี
ความเชื่อมั่นและใคร ๆ ก็มองว่าเขาอ่อนแอที่ต้องหยิบหน้าไม้เดินทางเพื่อตามหาความรักที่หลุดหายไป โดยไม่สนใจว่าใครจะ มองว่าการกระทำของเขามันบ้า และเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เขาก็จะไปเพราะเขาเชื่อว่ามันจะเป็นสิ่งที่เขารอคอย แม้เขาจะเป็นตัวละครขี้แพ้ แต่ถูกทดแทนด้วยความมีจิตใจดี และมีความมุ่งมั่นอยู่เสมอ ไม่วอกแวกแม้ในช่วงแรกเขาจะยังไม่ค่อยเข้าใจโลก
เท่าไหร่ แต่เพราะได้สองผู้รอดชีวิตที่สั่งสอนบทเรียนของเขา ทั้งลุงแก่ที่เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์ประหลาด และเด็กสาวแก่แดดที่สอนเขาใช้หน้าไม้และผูกพันกัน ร่วมกับหมาจรจัดอย่างบอย ที่คอยเป็นผู้ช่วยและนำพาเข้าฝ่าฟันพวกสัตว์ประหลาดไป และมีการ พัฒนาของตัวละครจากไอ้ขี้แพ้กลายเป็นคนเก่ง ซึ่งส่วนตัวมองว่ามันไวไปหน่อย แต่เข้าใจว่าหนังต้องทำเวลา
นอกจากนี้ เอมี่ ตัวเอกหญิงของเรื่องก็ยังมีความน่าสนใจเพราะเธอไม่ได้เป็นเพียงผู้หญิงที่อ่อนแอรอให้ใครมาช่วย มีความเป็นผู้นำ ยึดมั่นและ ต่อสู้เพื่อปกป้องทุกคน แม้จะมีข้อบกพร่องบ้าง ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ถูกหยิบมาเป็นช่วง ๆ จนบางครั้งก็แอบอยากให้บางช่วงของตัวละครนั้น ๆ มีความยาวเรื่องมากกว่านี้ แต่เข้าใจได้ว่ามันไม่ได้มีความสำคัญที่ต้องอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ไหนจะสัตว์ประหลาดที่
ทำออกมาได้น่าเกลียดน่ากลัว แต่ก็มีชีวิตจิตใจ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านงานภาพสุดสมเหตุสมผล ในด้านแววตาและการเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้เรารู้สึกอินว่า สัตว์ประหลาดพวกนี้มันกลายพันธุ์จริง ๆ และมันอาจจะไม่ได้มีแย่หรือต้องฆ่าไปหมดทุกตัวก็ได้ ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดที่มาถูกที่ถูกเวลาสำหรับช่วงเวลากักตัวและสงกรานต์ในปีนี้ อาจจะช้าไปหน่อย รีวิว หนังรัก
แต่ในที่สุดคนไทยก็จะได้ดูหนังแอ็คชั่นมัน ๆ ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยสักที ด้วยความที่หนังใส่ใจในรายละเอียดของตัวละคร เสียง งานภาพ ที่อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่คงเน้นคติสอนใจในเรื่องของความเชื่อมั่น ความกล้าหาญ และการล้มแล้วลุกขึ้นเพื่อต่อสู้กับอุปสรรค ความรักที่ผลักดันให้คนเราทำสิ่งบ้า ๆ พล็อตเรื่องธรรมดาที่สามารถทำออกมาได้อย่างกลมกล่อม นี่จึงเป็นหนังที่ไม่ควรข้าม
อย่างยิ่ง บางทีก็คิดว่าถ้าไม่มีโควิด มันจะต้องเป็นหนังที่ดีในทางด้านของรายได้และคำวิจารณ์ควบคู่กันไปแน่ ๆ น่าเสียดายจริง ๆ ที่ต้องมาลงสตรีมมิ่ง แต่ยังไงก็เป็นกำไรของคนที่มีเน็ตฟลิกซ์ที่จะได้ดูหนังคุณภาพที่เน็ตฟลิกซ์ไม่ได้เป็นคนสร้างแต่ซื้อมาฉายให้ดูแบบคุณภาพ โดยหนังมีเพียงแค่เสียงอังกฤษกับซับไทยเท่านั้น ซึ่งก็แปลออกมาได้ดี แม้จะรู้สึกว่าสรรพนามในเรื่องระหว่างตัวเอกมันจะค่อนข้างทางการไปหน่อย แต่ยังไงก็ดูรู้เรื่องเข้าใจแน่นอนครับ อย่าลืมไปหามาดูกันนะ