รีวิว คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary)

เรื่องราวของหนัง ครูแอน ได้เข้าไปสอนที่โรงเรียนเรือนแพ ที่อยู่ห่างไกลความเจริญและด้วยความเหงาบวกกับความห่างไกลเทคโนโลยีรวมถึงสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้เธอต้องระบายความรู้สึกผ่านไดอารี่เล่มหนึ่ง จนเวลาผ่านไป ครูสอง เข้ามาสอนต่อและได้พบกับสมุด บันทึกที่ครูแอนได้เขียนและลืมทิ้งไว้ เมื่อเปิดอ่านทำให้ครูสองเกิดความรู้สึกดีดีกับครูแอนแม้ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี

 

ซึ่งการที่ครูสองได้อ่านบันทึกของครูแอนนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกและเหมือนได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่มีความเข้าใจความรู้สึกที่ตรงกัน แม้ว่าทั้งสองจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนแต่การที่ครูสองได้อ่านบันทึกของครูแอน ทำให้ครูสองอยากจะพบหน้าของครูแอนซักครั้ง

 

รีวิว คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary)

 

สำหรับ คิดถึงวิทยา คือหนังแนวดราม่าโรแมนติก ที่หยิบประเด็นครูผู้สอนหนังสือในต่างจังหวัดมาเล่าเรื่องให้เห็นถึงการเรียนการสอนของเด็กต่างจังหวัดที่แทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสแวดล้อมดีๆ เนื้อหาสอดแทรกความสำคัญของคำว่าครูลงไป ทำให้เราได้

 

เห็นความทุ่มเทของครู ที่สั่งสอนถ่ายทอดความรู้เพื่อให้เด็กเติบโตไปเป็นคนที่ดี นำความรู้ไปพัฒนาชีวิต สิ่งที่หนังสื่อสารออกมาคือภาพที่แตกต่างจากสังคมการเรียนการสอนของครูในยุคปัจจุบัน หากใครดูแล้วประทับใจแสดงว่าคุณคงเข้าใจความหมายที่แท้จริงของครูที่เสียสละและถูกจะเป็นผู้ให้ด้วยความเต็มใจ

 

รีวิว คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary)

 

ถ้าเอาดีเทลมาร่วมกันคราวๆ หนังมีไดอารี่ของคนเหงาๆ2 คนที่มาเขียนระบาย คนหนึ่งเบื่อชีวิตที่มีระเบียบต้องการออกจากความวุ่นวายที่เต็มไปด้วยกฏเกณฑ์ อีกคนที่เลือกมาอยู่เพราะไม่อยากเป็นคนตกงาน ภายใต้โรงเรียนเรือเรือนแพกลางเขื่อนที่เงียบสงบ ไม่มีครูที่ไหนเต็มใจมาสอน หนังจึงค่อยๆนำเสนอการเล่าเรื่องของตัวละครหลัก ที่มาอยู่ในสถานที่เดียวกัน ทำหน้าที่เหมือนกัน แตกต่างกันที่ช่วงเวลา พาไปรู้จักครูแอนและครูสอง ไดอารี่เล่มเดียวบิ้วอารมณ์ให้ตัวละคร 2 คนอยากรู้จักกัน

 

บทหนังเชื่อมโยงกันไปหมด ทั้งสุข เศร้า เหงา รัก แฮปปี้ ยอมรับเลยว่าบทหนังดีมากๆ ยิ่งดูยิ่งเข้าใจหัวอกคนเป็นครูจริงๆ เรารู้สึกสนุกที่บทบาทครูสองเขาไม่มีความเข้าใจในเชิงวิชาการเลยสักนัด แต่กลับมาเรียนรู้ชีวิตคำว่า”ครู” จริงๆ ไปตามเด็กมาเรียนหนังสือ เพียรพยายามที่จะสอนมอบความรู้ให้เด็กด้วยความเต็มใจ เลือกเป็นผู้ให้ หลายๆฉากที่ได้สัมผัสผมมีความสุขมาก คือรับรู้ว่าครูแบบนี้นับจะตายไปจากการศึกษาไทยเสียแล้ว ไม่ได้สักแต่ว่าสอนในตำรา หรือมาทำหน้าที่สอนไปงั้นๆ ไม่ได้

 

รีวิว คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary)

 

ใส่ใจนักเรียนแบบครูยุคใหม่ คือมีสาระและคอเมดี้ที่สอดแทรกลงไป การที่ร่วมแสดงกับเด็กทำให้เขามีเสน่ห์หลายๆฉากทำให้ใครต่อใครอมยิ้มมาก โดยเฉพาะซีนจำลองรถไฟกลางน้ำ ไอเดียนี้สร้างสรรค์ดีแหะด้านครูแอน จะเป็นพาร์ทที่แตกต่างจากครูสองอย่างสิ้นเชิง เป็นคุณครูที่เสียสละ เจ้าอารมณ์ ไม่ค่อยแคร์กฏระเบียบ เป็นครูสาวที่ชีวิตมีประเด็นให้เจอตลอดเวลา ทั้งเรื่องเพื่อนร่วมงานที่ไม่สบอารมณ์ แฟนที่ไม่เข้าใจอะไรเธอเลยสักนิด ชีวิตไม่มี

เรื่องย่อ รีวิว คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary)

ความสุข ยกเว้นเรื่องเดียวคือการสั่งสอนเด็กในโรงเรียนเรือแพ ที่เธอเองผ่อนคลายที่สุด ตรงนี้เองคือสิ่งที่คุณพลอย ตีความคาแรกเตอร์ครูสาวภูธรให้เห็นภาพแม่พิมพ์ของชาติได้น่าประทับใจ ยิ่งหลงรักตัวละครนี้มากขึ้นไป เรื่อย ๆ ยิ่งเมื่อหนังตัดต่อภาพลำดับ 2 เหตุการณ์ได้ลงล็อค สื่อวสารให้คนดูเข้าใจมันจึงทำให้เราอินกับเนื้อหาทั้งหมด หนังฟรี หนังใหม่

 

รอกันมานานแสนนานที่จะพบกับอรรถรสในแบบหนังของ GTH ที่จะกลับมาอีกครั้ง หลังจากปีที่แล้ว ‘พี่มาก..พระโขนง’ เข้าฉายและดังเปรี้ยงสร้างประวัติการณ์หนังไทยรายได้ 1 พันล้านบาทไปในที่สุด และค่ายนี้ก็หันไปทุ่มเทกับการผลิตซีรี่ส์ทางทีวีอยู่พักใหญ่ ก่อนจะมีข่าวหนังใหญ่ปี 2557 สามเรื่องรวด และนี่คือเรื่องแรก ‘คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary)’ มีพระนางชูโรงที่มีแรงดึงดูดอย่าง บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว และ พลอย เฌอมาลย์ ประกบด้วยนักแสดงที่อุบไว้เซอร์ไพรส์ในโรงอีกหลายคน

 

 

เรื่องราวที่เป็นคำถามที่ดูเหมือนจะง่ายๆ แต่มันตอบแสนยาก เพราะช่างเป็นอะไรที่ไม่ค่อยได้พบในชีวิตเราสักเท่าไหร่ นั่นคือ คำถามที่ว่า “เราจะรู้สึกรักใครสักคนที่เราไม่เคยเจอหน้าค่าตาได้หรือไม่” การรู้จักกันผ่านตัวอักษร จะทำให้เรารู้สึกรักใครสักคนได้แค่ไหน ถ้าใครไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ตรงๆ กับตัวเอง จะรู้สึกและเข้าใจคนที่เจอเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

 

เมื่อครูสอง (บี้ สุกฤษฎิ์) จำใจต้องไปเป็นครูสอนเด็กในโรงเรียนกลางน้ำของหมู่บ้านห่างไกล โรงเรียนที่มีอาหารหลังเล็กๆ มีเพียงนักเรียนเพียงไม่กี่คนที่เรียนรวมอยู่ด้วยกันในห้องเดียว ครูหนึ่งคนจัดการแทบจะทุกอย่างเกือบจะตลอด 24 ชั่วโมง แต่สิ่งหนึ่งที่ผลักให้เขายังสู้ต่อก็คือไดอารี่เล่มหนึ่งที่ครูคนเก่าเขียนแล้วทิ้งเอาไว้

 

 

ครูแอน (พลอย เฌอมาลย์) คือเจ้าของไดอารี่เล่มนั้น เขียนบรรยายความรู้สึกทุกอย่างตั้งแต่ได้มาอยู่ที่นี่เมื่อ 1 ปีทีแล้ว ก่อนที่เธอจะจากโรงเรียนแห่งนี้ไปด้วยเหตุผลบางอย่าง และข้อความในนั้น กลับสร้างความรู้สึกบางอย่างให้กับครูชายใจเหงาๆ คนนั้นเหตุผลของครูแอนที่มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเพียงเอาชนะ แต่เหตุผลของครูสองคือไม่มีทางเลือก แต่แล้วต่างคนได้รับรู้ว่าช่วงเวลาดีก็สามารถเกิดขึ้นได้แม้ในสถานที่ที่เหงาสุดๆ เวลาของเขาและเธอไม่เคยตรงกัน ในวันที่เขาต้องจากไป ก็กลายเป็นวันที่เธอกลับมา

 

หนังอาศัยการเล่าเรื่องที่ดีและน่าสนใจ ด้วยการพูดถึงเหตุการณ์ของคนสองคนสองเวลาที่เล่าล้อไปพร้อมๆ กัน ผ่านการดำเนินเรื่องแบบเนียนๆ ผ่านเทคนิคพิเศษที่มีเข้ามาเพื่อสอดรับการเล่าเรื่อง รูปแบบการลำดับภาพ การถ่ายทำ มุมกล้อง เพลงประกอบ ล้วนทำออกมาได้ถึงตามมาตรฐานของหนังค่ายนี้ แถมยังมีบางซีน สอดแทรกฉากระทึกขวัญเข้ามาด้วยซ้ำก่อนจะกลับไปเล่าซีนดราม่าใหม่ สลับไปกับเนื้อหาที่เสียดสีการเรียนการสอนของคนไทย และแน่นอน มันเต็มไปด้วยฉากขำขันนอกจากนี้ หนังของ ผกก. ต้น นิธิวัฒน์ ธราธร ยังมีเซอร์ไพรส์ที่นักแสดงรับเชิญที่ดูเหมือนจะถูกอุบไว้ หลายคนคงคุ้นเคยกับผลงานของพวกเขาและเธอมาแล้ว ซึ่งแต่ละคนก็ทำหน้าที่ได้ไม่เลว เพียงพอที่จะเป็นกำลังสำคัญที่จะพาเรื่องราวให้ดำเนินไปได้

 

 

น่าเสียดายที่หนังอย่าง ‘Teacher’s Diary’ ยังเป็นเพียงหนังรักฟีลกู้ดจากค่ายจีทีเอช และยังไม่ก้าวข้ามไปไหน ก็คือหนังมีองค์ประกอบที่น่าสนใจ เล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง แต่ยังย้ำอยู่กับจุดเดิม ลงเอยแบบไม่มีอะไรเกินความคาดเดาคือทำให้เรารู้สึกดี ไม่ฟูมฟายกับชีวิตที่ต้องพบเจออุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า แต่บางครั้งการขยี้น้อยเกินไป หรือเปลี่ยนแนวทางไปในแบบอื่นบ้าง

รีวิว คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary)

หนังเรื่องนี้ผ่านตาข้าเจ้าถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเพื่อนลากไปดูในโรง แต่ไม่มีเวลาเขียนบล็อกจึงดองมา จำเป็นต้องดูอีกครั้งโดยยืมดีวีดีเพื่อนมาดูเก็บรายละเอียดมา ถือได้ว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างสวยงามมากๆ เรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติหนังไทย ข้าเจ้าได้ไปดูเค้าเปิดตัวหนังเรื่องนี้ที่เมญ่าเชียงใหม่ด้วยล่ะ อวดๆ ๆ บี้หล่อพลอยสวย ได้เห็นตัวอย่างก่อนคนกรุงเทพซะอีก ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

 

เรื่องภาพถือว่าโดดเด่นมากๆ นอกจากจะถ่ายทำด้วยอัตราส่วน 2.35:1 แล้ว ภาพยังจัดองค์ประกอบสวยมากอีกต่างหาก หนังที่ภาพสวยมีอยู่ 2 แบบคือ สวยเพราะจัดองค์ประกอบสวย กับสวยเพราะภาพอาร์ต ซึ่งสวยเพราะองค์ประกอบมันจะดีกว่าตรงที่ภาพจะดูสมจริงและเป็นธรรมชาติมากกว่า ทำให้มันต้องเซ็ทยากไปด้วย มีหนังไม่ค่อยกี่เรื่องหรอกที่จะทำภาพสวยได้ประมาณนี้

 

นอกจากนี้ยังมีฉาก Long Take ที่ใหญ่ๆ อีก 2 ฉาก และเป็นฉากสำคัญที่ทำออกมาได้ดีและต่อเนื่องมาก ฉากแรกคือฉากที่พายุซัดโรงเรียน เริ่มตั้งแต่บี้ตื่นนอนมาเพราะน้ำฝนสาดใส่ใบหน้า เด็กมาตามไปช่วยเหลือ บี้เดินไปตามเด็กๆ ให้เข้ามาหลบในห้องเรียน สั่งให้เด็กปิดหน้าต่าง บี้ไปปิดกันสาดที่ผนังอีกข้าง ผนังล้มตึง เด็กๆ วิ่งมากอดบี้แล้วร้องไห้ ท่ามกลางพายุลมและฝน ฉากนี้ยาวหนึ่งนาทีกว่าๆ และเป็นฉากที่สะพรึงมาก

 

 

อีกฉากคือฉากที่พลอยได้ทราบความจริง เริ่มจากมีผู้หญิงท้องมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง พลอยเดินไปตามทางเดินในอาคารเรียน สวนทางกับเวียร์ เวียร์เข้ามาคุย พลอยบอกปัด พาเดินลงบันไดอาคาร เวียร์พยายามจะกล่อม แต่พลอยไม่สนใจ เดินออกมาจากอาคาร เวียร์ยังตามมา พลอยเดินขึ้นรถ ขอโอกาสให้ผมเถอะ เวียร์บอก พลอยสตาร์ทรถ แล้วขับรถออกไป ก่อนจะปล่อยโฮในรถอีกเล็กน้อย ยาวราว ๆ สองนาที ถือว่าเป็นฉากที่พีคที่สุดของหนัง

 

เพลงประกอบถือว่าดีมาก เพราะได้ หัวลำโพง ริดดิม เจ้าเก่ามาทำเพลงสกอร์ของหนังให้ และเรื่องนี้ก็ทำเพลงได้ดีมากอีกแล้ว เพลงประกอบเพราะจนอยากได้เพลงเดี่ยวๆ มาฟังเลย แต่ก็ไม่มี เค้าไม่ทำเป็นอัลบั้มแงงงงง ส่วนเพลงประกอบ OST ได้ 25 Hours มาทำเพลง ไม่ต่างกัน ให้ ถือว่าเพราะและเนื้อเพลงมีความหมายดี ส่วนตัวข้าเจ้าชอบเวอร์ชั่นเดโมมันมากกว่า เป็นเพลงที่ทำออกมาก่อนแต่ยังไม่ได้ปล่อย (ไปหาฟังได้ ที่นี่ )

 

นักแสดงเล่นดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่ค่อยทำให้อินเท่าไหร่ เพราะมองยังไง ครูสองก็คือบี้ ยังไงก็ไม่ใช่ครูสอง ส่วนครูแอนก็คือพลอย แถมยังออกไปทางแตง/จูนในรักแห่งสยามอีกต่างหาก 555 ส่วนเวียร์ที่เล่นหนุ่ม ไม่มีคำบรรยาย เพราะเล่นได้แข็งมาก

 

 

ไม่มีชีวิตชีวาชนิดที่ว่าครูแอนหาคนแบบนี้มาเป็นแฟนได้ยังไง คือมีดีแค่หน้าหล่อหุ่นล่ำนะ แต่การแสดงนั้นเป็นธรรมชาติมาก (ก้อนหินกับต้นไม้) ส่วนเด็กๆ ในเรื่องน่ารัก เป็นตัวของตัวเอง แต่เสียดายที่บทเด็กๆ ไม่ได้เด่นจนน่าจดจำเท่าไหร่บทหนังมีความสดใหม่ เอาเค้าโครงเรื่องจริง 2 เรื่องมากอปรรวมกัน รีวิวหนัง

 

1.เรื่องราวของครูสองที่เป็นครูสอนเด็กที่โรงเรียนแพนั้นมีอยู่จริงที่จังหวัดลำพูน ครูสองมีตัวตัวตนจริงๆ

2.เรื่องสมุดไดอารี่มีที่มาจากเพื่อนของเฮียเก้งจิระ เค้าย้ายไปทำงานที่บริษัทหนึ่ง แล้วใช้โต๊ะต่อจากผู้หญิงคนหนึ่ง เขาได้พบกับสมุดไดอารี่ของเธอ เลยตามหาจนเจอและแต่งงานกัน

 

การตัดต่อทำได้ดีมาก ต่อเนื่อง และฉากที่ตัดสลับกันที่ทำได้ดี ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนและมีอารมณ์ร่วม ฉากการตัดต่อที่เด่นที่สุดที่ชอบและจดจำได้คือฉากที่ทั้งครูสองและครูแอนต่างผูกพันและทำกิจกรรมต่างๆ กับเด็ก สลับกันมาบนเรือนแพแห่ง

 

นั้น ถือว่าเป็นหนังไทยไม่กี่เรื่องที่เล่าเรื่องด้วยภาพได้ดีแบบนั้น แต่หนังไม่ค่อยได้ให้รายละเอียดในหลายๆ ฉาก (ทำให้หนังกระชับ ซึ่งก็ดี) โดยรวมยังไม่ค่อยพีค เพราะข้าเจ้ายังไม่รู้สึกว่าพระเอกนางเอกจะมีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปได้เร็วและมากมายขนาดนี้ และยังไม่ได้พรากจากกันจนรู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้เจอกันมากพอ แต่ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะ

สายหนังรักโรแมนติก

สายหนังที่ชอบโทนเรื่องแบบธรรมชาติ

สายหนังที่ชอบการเรียนการสอน

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *