รีวิว The Woods พราง 1

Netflix ปล่อยซีรีส์สืบสวนระทึกขวัญสัญชาติโปแลนด์เรื่องใหม่ลงจออีกแล้วจ้า เรื่องนี้มีชื่อว่า The Woods หรือมีชื่อไทยว่า พราง โดยดัดแปลงจากหนังสือนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ Harlan Coben (ฮาร์ลาน โคเบน) ซึ่งเขาเป็นนักเขียนหนังสือนิยาย

 

แนวลึกลับระทึกขวัญชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงมากค่ะ หนังสือของเขาได้รับความนิยมและได้มีการตีพิมพ์ในหลายภาษาไปทั่วโลก ในซีรีส์เรื่องนี้ได้ Leszek Dawid และ Bartosz Konopka มาเป็นผู้กำกับ กำหนดฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง Grzegorz ปาเวล ทำงานเป็นอัยการประจำอยู่ที่วอร์ซอ เขามีอดีตบางอย่างที่ปกปิดไว้ซึ่งมันเกี่ยวกับคืนที่เกิดเหตุการณ์การหายตัวไปของน้องสาวของเขาเอง เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว The Woods พราง

 

ครูสาวอดีตแฟนเก่าของ ปาเวล ซึ่งเธอได้พบเจอกับเรื่องแปลก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์การหายตัวไปของน้องสาวของปาเวลHubertปาเวล ในวัยรุ่นเขาเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลค่ายฤดูร้อนหรือพี่เลี้ยง ในวันที่เกิดเหตุการณ์การหายตัวไปของวัยรุ่น 4 คนและเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของใครบางคนในป่า

 

เลาร่าในวัยรุ่น เธออยู่ในเหตุการณ์ในคืนที่ทั้ง 4 คนหายตัวไป หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำเธอและพ่อของเธอตกที่นั่งลำบาก พ่อของเธอต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ที่ค่ายฤดูร้อน เด็กวัยรุ่นสี่คนหายเข้าไปในป่าและพวกเขาไม่กลับออกมาอีกเลย หนึ่งในนั้นคือเด็กสาวชื่อ คามิลร่า ต่อมาพบศพ 2 ศพและฆาตกรถูกจับเข้าคุก แต่อีก 2 คนที่หายไปกลับไม่พบร่องรอยใด ๆ ของพวกเขาเลย พวกเขาหาย

 

รีวิว The Woods พราง

 

ตัวไปอย่างลึกลับ 25 ปีให้หลัง ปาเวล พี่ชายของคามิลร่าเขาได้ทำงานเป็นอัยการประจำอยู่ที่วอร์ซอเขาได้รับโทรศัพท์จากตำรวจสืบสวน ทางตำรวจเชื่อว่าปาเวลสามารถช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการสืบคดีฆาตกรรมชายปริศนาได้ ซึ่งทางตำรวจเองยังหาตัวคนผิดมาลงโทษไม่ได้ และนี่อาจเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคามิลร่าในอดีตอีกด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นสามารถติดตามได้ใน Netflix

 

คามิวล์ความเห็นหลังชม: ดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า การสืบคดีและการไขปริศนาช้ามากแทบจะไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ไม่ได้ค่อย ๆ ปล่อยหลักฐานหรือข้อมูลออกมาให้ลุ้นเลย ทิศทางการไขปริศนาแทบจะมืดแปดด้าน ไปเฉลยเอาทีเดียวตอนท้าย มันไม่ค่อย ลุ้นตามสักเท่าไหร่ ตัดภาพอดีตสลับกับปัจจุบันอาจจะทำให้งงบ้าง ซีรีส์ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าติดตาม แต่ก็ทำให้คิดตามอยู่เหมือนกันสรุปแล้วมันเป็นฝีมือใคร สำหรับ XiaoJay เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้ทำให้ตื่นเต้นและอินตามสักเท่าไหร่ แต่พอดูได้ เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว The Woods พราง

 

พรางหากใครเป็นแฟนนิยายของ ฮาร์ลาน โคเบน แล้วล่ะก็ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้เลยค่ะ สามารถรับชมได้ที่ Netflix หากท่านใดยังไม่มี Application สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store สำหรับผู้ใช้ ios และ Google play store สำหรับผู้ใช้ Android ได้เลยค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความของ XiaoJay นะคะเอาไว้เจอกันบทความหน้า

เรื่องย่อ รีวิว The Woods พราง 1

ตัวเรื่องสั้น ตอนละ 50 นาที มีแค่ 6 ตอนจบเท่านั้น แต่การเล่าเรื่องหลายจุดทั้งในอดีตกับปัจจุบันยังยืดเยื้อไม่กระชับเท่าที่ควร เรื่องออกแนวดูไปเรื่อยๆ ไม่ได้เน้นให้ลุ้นว่าใครเป็นฆาตกร แม้คนดูอาจจะสงสัยตัวละครหลายตัว แต่ก็ไม่มีทางคิดออกว่าเรื่อง

 

จริงเป็นยังไงจนกว่าเฉลย ตามสไตล์ ฮาร์ลาน โคเบน ที่ผูกเรื่องไว้ยุ่งเหยิงกว่าคดีเปิดเรื่องเสมอ แต่เมื่อถึงตอนเฉลยก็ไม่ถึงกับเซอไพรส์อะไรนัก เพราะสไตล์ของ ฮาร์ลาน โคเบน มักจะจบลงด้วยดราม่ารันทดๆ มากกว่าเป็นฉากลุ้นไล่ล่าฆาตกรอะไรแบบนั้น แต่ก็เป็นฉากจบที่ดีพอสมกับที่ดูมาทั้งเรื่อง หนังฟรี

 

ฮาร์ลาน โคเบน  เป็นนักเขียนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องพล็อตคนหาย ผลงานก่อนนี้ของเขาใน Netflix ก็มีซีรีส์เรื่อง SAFE ว่าด้วยเรื่องพ่อที่ต้องตามหาลูกสาวที่หายตัวไป และต่อมาด้วย The Stranger แฉ เรื่องราวการเปิดโปงความลับเป็นทอดๆ ซึ่งชื่อไทยสั้นๆ ของ

 

 

นิยายของเขาจะเป็นแบบนี้หมด สำหรับเรื่องนี้ชื่อไทย “พราง” ก็เข้ากับตัวธีมของเรื่องดี ว่าด้วยคดีลึกลับเมื่อ 25 ปีก่อน เมื่อกลุ่มวัยรุ่น 4 คนในแคมป์ฤดูร้อนของโรงเรียนแห่งหนึ่งหายตัวไปในป่า ก่อนที่จะพบ 2 ศพถูกฆาตกรรมโหด และมีอีกชายหญิงอีกสองคนที่หายตัวไป แต่เมื่อเวลาผ่านมาจนถึงปัจจุบัน “ปาเวล” พี่ชายของเหยื่อที่น้องสาวหายตัวไปกลับต้องพบกับคดีฆาตกรรมปริศนาที่มีส่วนโยงใยกลับมาหาตัวเขาในอดีต และกลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้

 

ตัวเรื่อง The Woods จะแปลกกว่าผลงานที่ผ่านมาของ ฮาร์ลาน โคเบน ที่มักเล่าเรื่องทันสมัยในยุคปัจจุบัน แต่เรื่องนี้เล่าเรื่องสองยุคไปพร้อมกัน โดยฉากย้อนอดีตปี 1994 จะค่อยๆ เล่าเรื่องราวตั้งแต่แรกก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น ไปจนถึงช่วงหลังจาก นั้นว่าคดีนี้ในอดีตจบลงได้อย่างไร และปาเวลเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในอดีตมากแค่ไหน โดยใช้มีกลุ่มนักแสดง 2 ชุดเล่นในบทเดียวกันทั้งอดีตกับปัจจุบัน ซึ่งเรื่องในอดีตช่วงวัยรุ่นก็จะเป็นแนวเรื่องราวความรักในกลุ่มเพื่อนกับปัญหาครอบครัวของแต่ละ

 

คนมาเกี่ยวข้อง ตัวเรื่องจะให้เวลาในช่วงอดีตมากพอๆ กับช่วงปัจจุบัน และมาด้วยโทนภาพสีอมเหลืองให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าตอนนี้คือเรื่องเล่าในยุคก่อนตัดมาภาพโทนสีปกติในยุคปัจจุบัน ซี่งซีรีส์ก็จำลองหลายสิ่งหลายอย่างในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ทั้ง กล้องถ่ายรูปแบบล้างฟิล์มขาวดำที่ถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานที่ตกค้างมาถึงปัจจุบัน และเรื่องราวการสืบสวนในอดีตก็จะตกเป็นหน้าที่ของตำรวจนักสืบในยุคนั้น พร้อมกับตัวปาเวลเองที่ตามสืบคดีนี้เพื่อไขปริศนาการหายไปของน้องสาว รวมถึงการพิสูจน์

 

 

ความบริสุทธิ์ของตัวเองเพราะตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ด้วยเช่นกัน แม้เราจะรู้ว่าเขารอดมาได้จากเรื่องเล่าในยุคปัจจุบัน แต่สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องเล่าในอดีตก็อาจจะไม่ได้เป็นจริงเสมอไป… ซึ่งทำได้ลึกลับน่าติดตามมากกว่าเรื่องในปัจจุบันซะอีกส่วนในยุคปัจจุบันปาเวลทำงานเป็นอัยการในเมืองหนึ่งที่ห่างไกลจากบ้านเกิดมาก ด้วยความที่เขาต้องการหนีจากอดีตที่เลวร้ายออกมา แต่กลับต้องมาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมชายปริศนา ที่ในตัวของชายคนนี้มีหลักฐานสำคัญโยง

 

กลับมาหาเขา และดูเหมือนจะชี้นำให้ตำรวจเชื่อว่าปาเวลอาจจะไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์จากคดีในอดีต ซึ่งตัวเรื่องให้เขาต้องตามรอยว่าใครที่เป็นฆาตกรตัวจริง และรู้เรื่องในอดีตที่ยังถูกปกปิดไว้ ซึ่งตรงนี้ทำให้ส่วนความลับในอดีตค่อยๆ เผยออกมาจากการสืบใน

 

ปัจจุบัน นอกจากนี้เรื่องยังผูกเขาเข้ากับคดีดังเรื่องของลูกผู้มีอิทธิพลข่มขืนสาววัยรุ่นที่กำลังตึงมืออยู่ ซึ่งตัวเรื่องก็ให้ความสำคัญคู่กันไปกับการสืบคดีส่วนตัว และกลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตเขามากพอๆ กับการตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมเช่นเดียวกัน หนังใหม่

 

 

ตัวเรื่องในปัจจุบันค่อนข้างซับซ้อนวุ่นวายกว่าในอดีตที่ถูกเล่าแบบเส้นตรงไปเรื่อยๆ ด้วยความที่ซีรีส์พยายามใส่ปม 2 คดีเข้ามาในชีวิตของปาเวลก็เรียกว่ายุ่งเหยิงมากพอแล้ว ยังเติมเรื่องราวความรักกับแฟนเก่าที่กลับมาพบกันอีกครั้งจากการที่เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในครั้งนี้เข้าไปอีก ทำให้เวลาตัดกลับที่ยุคปัจจุบันอาจจะมีงงนิดๆ ทุกครั้งว่าตอนนี้ ตัวเอกกำลังอยู่ในปมปัญหาไหน และกำลังจะทำอะไร เพราะชีวิตค่อนข้างวุ่นวายเหลือเกิน อีกทั้งเมื่อดูจนจบเฉลยเรื่องทั้งหมดแล้ว เรื่องคดีข่มขืนสาววัยรุ่น

รีวิว The Woods พราง 1

ที่เสริมเข้ามาก็ยังเป็นแค่ซัพพล็อตที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหลักของเรื่องในอดีต แม้จะมีความสำคัญกับตัวละคร แต่ก็รู้สึกว่าเป็นส่วนเกินงอกออกมาแบบไม่จำเป็น จากที่คนดูต้องการติดตามว่า คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นในป่า? คนที่หายไปตายไปแล้วหรือ

 

ยังมีชีวิตอยู่? และอาจจะเป็นคนร้ายตัวจริงในคดีปัจจุบันด้วยหรือเปล่า? ซึ่งคำถามพวกนี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้น่าติดตาม และก็ทำได้ดีเลยทีเดียว ไม่ทิ้งสไตล์แนวทาง ฮาร์ลาน โคเบน ที่มักเริ่มจากคดีเดียวก่อนต่อยอดขยายเป็นคดีฆาตกรรมหลายศพเรื่อย ๆ และผูกทุกตัวละครในอดีตให้มีความลับซ่อนอยู่ ดูหนังฟรี

 

ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอกปาเวลเองก็เช่นกัน แต่เรื่องแม้จะผูกปมต่างๆ ได้ดี แต่ก็มีบางจุดที่ไม่เคลียร์หรือรู้สึกแปลกๆ อย่างผู้ต้องหาในอดีตไม่เล่าเรื่องราวความจริงออกมาให้ตัวเองพ้นผิด หรือโยงเรื่องไปยังคนร้ายตัวจริงเลย และเรื่องเล่าในอดีตบางจุดถูกเล่าออกมาแบบให้คนดูเข้าใจชัดเจน

 

 

มากกว่าให้ตัวละครในเรื่องเข้าใจเท่ากับคนดู ซึ่งก็จะมีคำถามเกิดขึ้นมาตอนดูฉากเฉลยบางช่วงว่า แล้วตัวละครในเรื่องรู้เรื่องนี้ละเอียดเท่ากับที่ฉายให้คนดูเห็นหรือไม่? เพราะบางเรื่องเป็นความลับส่วนตัวมากๆ แม้จะพอโยงกับตอบเคลียร์ปมได้ แต่ก็ไม่ได้ดีมากเท่าเรื่องก่อนๆ ของ ฮาร์ลาน โคเบน นักครับ (อาจจะเพราะทำออกมาแค่ 6 ตอน มีตัดเนื้อหาจากนิยายต้นฉบับไปบ้างก็ได้)

 

ตัวนักแสดงในอดีตค่อนข้างคัดมาหน้าตาดีทุกคน ดูเป็นหนังวัยรุ่นสืบสวนย้อนยุคก็ยังได้ ตัวเรื่องในยุคนี้มีฉากฆาตกรรมโหด โป๊ เปลือย จนติดเรต 18+ พอสมควร (ในปัจจุบันไม่มีพวกนี้เลย) ส่วนตัวละครในปัจจุบันที่เลือกมาแสดงเป็นบทตอนโตหน้าตาค่อนข้างแตกต่างกันมาก แบบไม่มีเค้าเดิมติดมาเลย แต่ก็ไม่ถึงกับติดใจในจุดนี้นัก เพราะคนดูก็คงต้องการเนื้อหาในคดีมากกว่า ดูหนังใหม่

 

 

ตัวเรื่องนี้ถือว่าสั้น ตอนละประมาณ 50 นาที มีแค่ 6 ตอนจบเท่านั้น แต่การเล่าเรื่องในหลายๆ จุดทั้งในอดีตกับปัจจุบันก็ยังยืดเยื้อไม่กระชับเท่าที่ควร เรื่องออกแนวดูไปเรื่อยๆ ไม่ได้เน้นให้ลุ้นว่าใครเป็นฆาตกร แม้คนดูอาจจะสงสัยตัวละครหลายตัว แต่ก็ไม่มีทางคิดออกว่าเรื่องจริงเป็นยังไงจนกว่าเฉลย

 

เพราะสไตล์ ฮาร์ลาน โคเบน ที่ผูกเรื่องไว้ยุ่งเหยิงกว่าคดีเปิดเรื่องเสมอ แต่เมื่อถึงตอนเฉลยก็ไม่ถึงกับเซอไพรส์อะไรนัก เพราะสไตล์ของ ฮาร์ลาน โคเบน มักจะจบลงด้วยดราม่ารันทดๆ มากกว่าเป็นฉากลุ้นไล่ล่าฆาตกรอะไรแบบนั้น (ซึ่งไม่มีในเรื่องนี้และในเรื่องอื่นๆ ด้วยเช่นกันครับ) แต่ก็เป็นฉากจบที่ดีพอสมกับที่ดูมาทั้งเรื่องเช่นกันครับ รีวิวหนัง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *