รีวิว High Society

High Society เป็นภาพยนตร์แนวดรามา ผลงานของผู้กำกับบยอนฮยอก เจ้าของงาน The Scarlet Letter (2004) Five Sense of Eros (2009) เล่าเรื่องของสังคมชั้นสูงที่มีเปลือกนอกสวยหรู สรรค์สร้างจากอำนาจเงินสกปรกและเต็มไปด้วยกิเลสโลภหลงครอบงำ ใครหลงเข้าไปเกลือกกลั้ว ย่อมต้องมีแปดเปื้อนเปลืองตัว หนังติดเรท 16+ นะคะ เพราะมีฉากเลิฟซีนและเซ็กส์วาบหวิวพอประมาณ เว็บหนัง

 

คู่สามีภรรยา ซึ่งเป็นตัวแทนชนชั้นกลางที่มีการศึกษา มีฝีมือ มีหน้าที่การงานและสถานภาพดีระดับหนึ่ง แต่ความพอใจไม่หยุดอยู่ ณ เท่านี้  พวกเขาทะเยอทะยานจนพาตัวไปอาศัยอยู่ในย่านกังนัม (ย่านเศรษฐี คนดัง ไฮโซของประเทศ) มุ่งเป้าจะไต่เต้าให้หน้าที่การงานสูงขึ้นไปถึงยอดของสังคม ต่างคนต่างมีเป้า มีวิถีของตนที่ไม่ก้าวก่ายกันและกัน แค่เกื้อหนุนกันในบางโอกาสที่เหมาะสม แต่มิได้ตั้งอยู่บนสัมพันธภาพหวานชื่นใด

 

รีวิว High Society

 

สามี คือ จางแทจุน (รับบทโดย พัคแฮอิล) เป็นศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยโซล ความสามารถน่าจับตามองและฮอตมากขึ้นเมื่อเขาได้ออกรายการทีวี เสวนาปัญหาเศรษฐกิจ เขาเอ่ยถึงธนาคารพลเมือง แนวคิดที่สดใหม่นอกกรอบ เอื้อประชาชนทุกคน และยกระดับเศรษฐกิจประเทศได้

 

ภรรยา คือ โอซูยอน (รับบทโดย ซูเอ) เป็นภัณฑารักษ์ของศูนย์แสดงงานศิลป์และวัฒนธรรมแถวหน้าของประเทศ นั่งตำแหน่งรองผู้อำนวยการ และกำลังปลุกปั้นเตรียมการเปิดแกลลอรี่แห่งใหม่ในเครืออีกแห่ง ซึ่งเธอหวังอย่างมากว่าจะเป็นผลงานส่งให้เธอได้โปรโมตเป็นผู้อำนวยการเร็วขึ้น เว็บดูหนัง

 

โอกาสของทั้งคู่กำลังจะมาถึงแล้ว เมื่อเกิดเหตุบังเอิญที่จางแทจุนได้สร้างวีรกรรมช่วยเหลือชายชราที่จุดไฟเผาตัวในการชุมนุมประท้วงปัญหาผลกระทบเศรษฐกิจ แทจุนจึงกลายเป็นฮีโร่ในสื่อโซเชียลชั่วข้ามคืน ประกอบกับแนวคิดธนาคารพลเมืองของเขา โดนใจพรรคการเมืองเข้า

 

รีวิว High Society

 

จึงถูกเชิญชวนไปร่วมเป็นผู้สมัคร สส. กลายเป็นนักการเมืองดาวรุ่งเจ้าของนโยบายประชานิยม ซึ่งผู้บริหารพรรคก็ได้แนะนำนักธุรกิจ แพคกวังฮยอน (รับบทโดย คิมคังอู) ให้เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนหาเสียงและทุนดำเนินนโยบายธนาคารพลเมือง

 

ส่วนโอซูยอน ผู้ที่มีความทะเยอทะยานรุนแรงกว่าสามี และพยายามไขว่คว้าสร้างโอกาสให้กับตัวเองมากกว่า เดิมทีเธอวางแผนจะเปิดศูนย์ด้วยการแสดงงานศิลป์เหล่าศิลปินในประเทศ แต่โดนผู้อำนวยการอีฮวารัน (รับบทโดย รามีรัน) สกัดกั้น จะให้นำงานของศิลปินจีนมาลง เธอจึงต่อกรโดยการปล่อยข่าวศูนย์ฯละเลยการส่งเสริมศิลปินของประเทศ  ยิ่งทำให้ ผอ.อีไม่พอใจโอซูยอนมากขึ้น จากทั้งความขัดแย้งทางความคิด แข็งข้อ และออกเขี้ยวเล็บสู้

 

รีวิว High Society

 

โอซูยอนจึงเสนอตัวไปปารีสเพื่อจีบเอางานที่ตอบโจทย์ดีกว่า คืองานของ ชินจีโฮ (รับบทโดย อีจินอุค) มาโชว์แทน ชินจีโฮเป็นศิลปินเกาหลีที่ไปโด่งดังในต่างประเทศ เจ้าของผลงานสมัยใหม่แนวผสมผสานมัลติมีเดีย การฉกงานดีลครั้งนี้เป็นการไปล้ำเส้นเหยียบเท้าภัณฑารักษ์อีกคนที่เป็นไฮโซเจ้าของโปรเจ็คท์ปารีส แต่โอซูยอนก็ไม่แคร์การสร้างศัตรู เว็บดูหนังฟรี

 

อันที่จริง ชินจีโฮเป็นอดีตแฟนเก่าของโอซูยอน ด้วยความอยากให้ดีลสำเร็จ เธอจึงปล่อยให้ถ่านไฟเก่าคุขึ้นอีกครั้งในทริปปารีสที่เจอกัน กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรม ในขณะที่จางแทจุนเองก็เผลอไผลไปมีเซ็กส์กับเลขาสาว พัคอึนจี (รับบทโดย คิมกยูซอน) อดีตนักศึกษาในคลาสที่หลงใหลความสามารถของอาจารย์จนยอมพลีกายให้อย่างเต็มใจ เรียกว่าดาหน้ากันมาเสิร์ฟครบสูตรกิเลส โลภ หลง และตัณหา

 

สถานการณ์ความจริงและเกมชีวิตที่พาให้ทั้งจางแทจุนและโอซูยอนต่างต้องตกอยู่ในสภาวะยากลำบาก ความจริงไม่ได้สวยงามเหมือนที่เห็น หรือถึงเห็นแล้วว่าเน่าอันตรายก็ยังจะไม่ยอมถอนตัวถอยออกมา เมื่อยิ่งดิ้นสู้ก็ยิ่งถูกบีบคั้นจากเกมการเมืองที่แยบยล ฉ้อฉลเอื้อประโยชน์กันระหว่างพรรคการเมือง เว็บหนังฟรี

เนื้อเรื่องหนัง รีวิว High Society

 

 

ต้นสังกัดของจางแทจุน กับนายทุนที่มีธุรกิจงานศิลป์ชั้นสูงบังหน้าของ ฮันยงซอก (รับบทโดย ยุนเจมุน) ซึ่งเป็นสามีของ ผอ.อีฮวารัน ซ้ำร้ายกว่านั้น เรื่องฉาวคาวโลกีย์ของทั้งคู่ก็กลายเป็นหอกทิ่มแทงความสัมพันธ์ และขวากหนามสำคัญในการตะกายฝันด้วย สิ่งที่พยายามลงแรงไปมีแววจะสูญเปล่า แต่ก็เหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้ ทั้งคู่จะตัดสินใจแก้ปัญหานี้อย่างไร

 

โดยรวมจัดว่าเป็นหนังที่ดูได้สนุกระดับหนึ่ง คือมีความชวนติดตามอยากรู้บทสรุปปลายทาง แม้ว่าเนื้อหาเรื่องกลเม็ดธุรกิจ กลวิธีการเมือง จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความพยายามหยิบมาผูกร้อยเข้าปมกับชีวิตของสองสามีภรรยาก็ทำได้ดูน่าสนใจดี มีความบีบคั้น ลุ้นๆอยู่บ้าง แค่ว่าองค์ประกอบบางส่วนเหมือนไปได้ไม่สุด บางตัวละครก็ขาดมิติ ข้ามเหตุผลที่มาที่ไป โดยเฉพาะตัวละครรองอย่าง อีจินอุค และ คิมกยูซอน หรือแม้แต่ชื่อหนัง ผู้เขียนยังคิดว่าเรียบแบนไปนิดนึงมั้ยเนี่ย

 

แต่ในด้านบทจิกกัดก็จัดเต็มสะท้อนสาระดี ในโลกของฮันยงซอกไฮโซเจ้าของธุรกิจแกลลอรี่ ที่สูงชั้นทั้งอำนาจเงิน เกียรตินักบริหาร และเทสต์ศิลป์สุนทรีย์ กลับมีแต่คำว่าผลประโยชน์ ความโลภและกิเลสหนา ตั้งอยู่เหนือความสัมพันธ์ครอบครัว และจิตสำนึกความเป็นมนุษย์

 

 

ความดัดจริตเลอค่าเหนือใครๆว่าเสพย์ศิลป์ชั้นสูง จึงเป็นดั่งสุนทรีย์จอมปลอม สมกับที่พูดไว้ว่า ศิลปะแท้จริงก็เป็นเพียงความห่วยแตก การที่จางแทจุนและโอซูยอนจะหลุดพ้นวังวนโลภหลงนี้ ก็ต้องพึ่งสติของจิตที่มีปัญญาดุจบัวโผล่พ้นน้ำในหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนาเรา รีวิวหนัง

 

สิ่งดีงามที่เห็นชัดเจน คือ งาน Cinematography ที่ดูเนี๊ยบเท่ อาร์ตชิคๆ และมีความหมายแฝง เช่น การเลือกใช้ภาพสื่อสัญลักษณ์ เช่น ซีนหลักที่จับโอซูยอนตัวเล็กๆก้าวขึ้นบันไดสูงในโถงกระจกใสของอาคารศูนย์ฯ เป็นมุมภาพที่สวยงามอลังดี สื่อความไขว่คว้าตะกายของเธอ

 

สื่อให้เห็นว่าทุกการกระทำย่อมถูกเห็น สัจจะชีวิตจริงย่อมกระจ่างชัดผ่านกระจกโปร่งใส หรือซีนที่โอซูยอนยืนอยู่หน้าฉากงานมัลติมีเดียของชินจีโฮ ท่ามกลางดวงอาทิตย์แสงประกายแสด อาจได้ทั้งความหมายของชีวิตที่ร้อนลำบากสุดๆ หรือจะพลิกให้เป็นการเริ่มพบทางออกใหม่ของชีวิตก็ได้  หรือฉากที่สองสามีภรรยาคุยกันบนยอดตึก ท้องฟ้าอาทิตย์ยอแสง ก็สวยงามและสื่อความดีเช่นกันนะ

 

 

อาจจะเรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์หนึ่งของคอนเทนต์เกาหลีไปแล้ว สำหรับการสำรวจช่องว่างระหว่างชนชั้น หรือการเล่นประเด็นเศรษฐกิจสังคม โดยโฟกัสที่ความลำบากยากเข็ญของตัวละครในการดำรงชีวิต แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหล่าผู้ผลิตคอนเทนต์บ้านเขายังสามารถหามุมมองใหม่ ๆ มาจับประเด็นเดิม ๆ ได้อย่างน่านับถือ อย่างการตีแผ่ ‘ความวันนาบี’ อยากมี อยากเป็น ของตัวละครชนชั้นกลางในหนัง High Society (상류사회) หนังปี 2018 ที่ได้ พักแฮอิล และ ซูแอ มารับบทนำ

 

High Society เล่าถึงสามีภรรยาที่พยายามไต่บันไดชนชั้นไปสู่การเป็น ‘ชนชั้นบน’ อย่างเต็มตัว จากที่พวกเขาคิดว่าต้นทุนดั้งเดิมของตัวเองไม่น่าจะด้อยค่าอะไรมากนัก โดยฝ่ายหญิงเป็นภัณฑารักษ์และรองผู้อำนวยการของแกลเลอรีศิลปะชื่อดังของกลุ่มธุรกิจหมื่นล้าน ส่วนฝ่ายชายเป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศ แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป พวกเขาก็ค่อย ๆ ค้นพบว่าหนทางสู่การเป็น ‘ไฮโซ’ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ยิ่งไปกว่านั้น หนทางที่ว่าอาจไม่เคยมีอยู่และจะไม่มีทางมีได้เลยด้วยซ้ำ

 

เส้นทางวันนาบีของสามีภรรยาคู่นี้มาบรรจบกันตรงที่ฝ่ายหนึ่งจะลงเล่นการเมือง และอีกฝ่ายพยายามจะคว้าตำแหน่งสูงสุดในองค์กรให้ได้ โดยที่เงินทุนเบื้องหลังของทั้งคู่มีความทับโยงกันอยู่อย่างแยกไม่ออก เรื่องราวยิ่งซับซ้อนไปอีกเมื่อไลฟ์สไตล์ของพวกเขาเปิดโอกาสให้ทำตัวนอกลู่นอกทาง นอกใจคนรักได้ง่าย และการใช้ชีวิตนอกสมรสแบบเสี่ยง ๆ ก็ยิ่งทำให้การไต่เต้าสู่ชีวิตไฮคลาสยิ่งยากลำบากขึ้นไปอีก

 

ประวัตินักแสดงหนังเรื่องนี้ รีวิว High Society

พัก ฮย็อง-ชิก (เกาหลี: 박형식, อักษรโรมัน: Park Hyung-sik; เกิด 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534) หรือ ฮย็องชิก เป็นนักร้อง นักแสดง และนักเต้นชาวเกาหลีใต้ เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มบอยแบนด์ชาวเกาหลีใต้ชิลเดรนออฟเอมไพร์ (ZE:A) และกลุ่มย่อย ZE:A Five ในฐานะนักแสดงเขามีชื่อเสียงจากเรื่อง วุ่นรักทายาทพันล้าน (2013), สังคมไฮโซ (2015), ฮวารัง อัศวินพิทักษ์ชิลลา (2016), สาวน้อยจอมพลัง โดบงซุน (2017), และ สูท คู่ป่วนทนายจอมกวน (2018) นอกจากนั้นเขาได้แสดงในภาพยนตร์และละครเพลงด้วย

 

ฮย็องชิกเกิดวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534 ปีมะแม) ที่เมืองยงอิน จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ ในครอบครัวที่พื้นฐานดี ค่อนข้างมีฐานะ พ่อของเขาทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรถยนต์ BMW Korea (ปัจจุบันเกษียณแล้ว) และแม่เป็นครูสอนเปียโน ฮย็องชิกเป็นลูกคนเล็ก โดยมีพี่ชาย 1 คนคือ พัค มิน-ชิก ชื่อ “ฮย็องชิก” นั้น เป็นชื่อที่พระตั้งให้ เนื่องจากแม่และยายของเขานับถือศาสนาพุทธ

 

ฮย็องชิกจบการศึกษาระดับประถมจากโรงเรียน Shingal Elementary School, ระดับมัธยมต้นจาก Kihung Middle School, ระดับมัธยมปลายจาก Shingal High School และศึกษาระดับปริญญาตรี ที่คณะบริหารธุรกิจ Digital Seoul Culture Arts University

 

 

ฮย็องชิกเป็นเด็กกิจกรรมตัวยง เขาทำกิจกรรมหลายอย่างตั้งแต่เล็ก แม่เคยให้เขาเรียนเทควันโดและฮัปกิโดตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เขาไม่ชอบและทำได้ไม่ดีนัก อย่างไรก็ตามเขาเริ่มเรียน “กอมโด (Gumdo)” (ศิลปะการต่อสู้โดยใช้ดาบของเกาหลี คล้ายเคนโด้) ตอน ป.3 และเรียนต่อมาอีกกว่า 8 ปี เขาทำได้ดี และแข่งขันระดับโรงเรียนชนะหลายรายการ เขาสอบได้ถึงระดับ สายดำ ขั้น 4

 

ช่วงเรียนประถมปลายเขาเข้าร่วมวงดนตรีของโรงเรียน และได้เป็นนักร้องนำของวง ทำกิจกรรมร่วมกับวงหลายอย่าง เขาจึงค่อนข้างเป็นที่รู้จักในโรงเรียน ต่อมาวงของเขาเข้าร่วมการประกวดวงดนตรีประจำจังหวัดคยองกี และได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวด จากการประกวดครั้งนั้นฮย็องชิกได้รับนามบัตรจากเอเจนซีหลายแห่งให้เข้าร่วมการออดิชั่นเป็นนักร้อง รวมถึง SM Entertainment และ YG Entertainment สองค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ แต่ตอนนั้นเขาไม่สนใจเข้า

 

 

วงการ จึงไม่ได้เข้าร่วมออดิชั่น จนกระทั่งก่อนเรียนจบประถมปลาย เขาตัดสินใจจะทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ ในวง เพื่อเก็บเป็นความทรงจำดี ๆ ก่อนจบการศึกษา จึงเข้าออดิชั่นในรายการที่ยังเหลืออยู่ และเขาผ่านการคัดเลือก นั่นทำให้เขาคิดหนัก ไม่แน่ใจว่าควรจะมุ่งหน้าไปทางไหน เขาปรึกษาแม่และได้กำลังใจจากแม่ผู้เชื่อมั่นในความสามารถของเขา ฮย็องชิกจึงตอบรับการคัดเลือก และเริ่มต้นชีวิตเด็กฝึกตั้งแต่นั้นมา

 

เขาประสบปัญหาในช่วงแรกของการเป็นเด็กฝึก ทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกจากเอเจนซีเดิม และเข้าร่วมกับเอเจนซีใหม่คือ Star Empire Entertainment ก่อนจะได้เดบิวต์เป็น ZE:A ในที่สุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *