รีวิว ปริศนามาริลิน มอนโร

พักผ่อนในวันหยุดด้วยการชมภาพยนตร์อยู่กับบ้าน ก็เป็นกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ได้ทั้งความสุข การพักผ่อน และการเสพหนังดีๆ ไปด้วยในตัว ผมขอเลือกสักเรื่องมาเขียนถึงก็แล้วกัน ขอเลือกเรื่องที่เห็นว่าดูแล้วประทับใจอยากจะเขียนถึงมากที่สุด ‘My Week with Marilyn’ เรื่องนี้แหละ

ในความเป็นจริง คงมีไม่กี่คนที่จะคลั่งไคล้ในตัวศิลปินหรือนักแสดงคนใดคนหนึ่ง แล้วจะมีโอกาสได้ไปใกล้ชิดสนิทสนมในลักษณะเดียวกับพ่อพระเอกหนุ่มในเรื่องนี้ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าหากคุณมีโอกาสที่จะได้ทำงานใกล้ชิดกับคนที่คุณคลั่งไคล้ คุณไม่มีทางละทิ้งโอกาสนั้นเป็นแน่ เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว ปริศนามาริลิน มอนโร

 

เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อพ่อหนุ่ม Colin Clark (Eddie Redmayne) ผู้แตกหน่อมาต่างจากเหล่า อยากทำงานเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ จึงดั้นด้นไปของานจนได้ทำกับ Sir Laurence Olivier (Kenneth Branagh) ผู้ซึ่งกำลังมีงานถ่ายหนังเรื่องใหม่ที่คว้าตัวดาราสาวผู้โด่งดังอย่าง Marilyn Monroe (Michelle Williams) มาเป็นนางเอก ซึ่งก็คือดาราสาวที่พ่อหนุ่มโคลินคลั่งไคล้อยู่พอดี เรื่องราวไถลเลยเถิดไปมากขึ้นเมื่อ เขาต้องทำเกินหน้าที่ของผู้ชวยผู้กำกับคนที่ 3 ไปทำหน้าที่ของหัวใจอีกตำแหน่งหนึ่งด้วยนั่นเอง

เบื้องหน้าของดาราดัง คือ ภาพของผู้คนที่คลั่งไคล้รายล้อม ขอลายเซ็น ขอจับมือ ขอถ่ายรูป รอยยิ้มและสายตาที่ส่งไป เบื้องหลัง คือ ภาพของชีวิตส่วนตัวที่อาจไม่มีใครเข้าถึง หรืออาจไม่แม้แต่จะสนใจ คือ ภาพของการทำงานที่แวดล้อมด้วยคนที่ประจบเอาใจ หากไม่เคยเข้าใจเธอจริงๆ คือ ภาพของการโหยหาความรักที่ขาดหายและไม่เคยอยู่ด้วยนาน คือ ภาพของหญิงสาวที่อารมณ์ไม่มั่นคง รอวันที่จะมีสักคนเข้าใจเธอจริงๆ

 

รีวิว ปริศนามาริลิน มอนโร

 

เรื่องราวที่แสนเรียบง่าย ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่นชอบมาริลีน จึงไปทำงานใกล้ชิดเธอ เฝ้ามองเธอ จนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ล้ำลึกลงไปเรื่อยๆ ทำให้เรามองได้เห็นอีกทางหนึ่งว่า เราทุกคนก็อาจจะมีภาพลักษณ์ที่ผู้คนทั่วไปเห็นอย่างหนึ่ง แต่เราอาจจะหาคนที่เข้าใจเราจริงๆ ได้ยากเย็น และบางครั้งก็มาในวันที่สายไป พ่อหนุ่มโคลินเป็นได้ทุกอย่าง เป็นแค่คนในกองถ่าย

ภาพยนตร์ที่แฝงตัวคอยลอบมองเธออย่างชื่นชม วันหนึ่งก็ก้าวขึ้นมามีอิทธิพลต่อเธอไปได้ ผมว่า Michelle Williams สวมบทบาทลีลาท่าทางของมาริลีน มอนโร ได้ดี ไม่รู้หรอกว่าใกล้เคียงแค่ไหน ไม่เคยเห็นชมผลงานของเธอมาก่อน ได้แต่เห็นภาพถ่ายของเธอเท่านั้น แต่ลีลาและสายตาเธอก็ชวนหลงไหลมากเชียว จนทำให้คิดไปได้ว่าเธอน่าจะทำออกมาได้ใกล้เคียงตัวจริงมากเอาการอยู่

 

รีวิว ปริศนามาริลิน มอนโร

 

ส่วนบทเล็กๆ ของ Judi Dench ก็น่าชื่นชม เธอเป็นอีกนักแสดงคนหนึ่งที่ร่วมเข้าฉากในภาพยนตร์เรื่องนั้น แต่เธอก็สวมบทบาทได้โดดเด่นแถมบทพูดของเธอก็คมคายดี และสุดท้าย กับบทบาทเล็กๆ สาวผู้ดูแลเสื้อผ้านักแสดงของ Emma Watson ใน My Week with Marilyn น่ารัก เห็นแว้บแรกก็จำได้เลย ดีใจที่ได้เห็นเธอในบทอื่นเสียที

เรื่องย่อ รีวิว ปริศนามาริลิน มอนโร

มารีลีน มอนโรนั้นชื่อเดิมของเธอมีชื่อว่า นอร์มา จีน เบเกอร์ ซึ่งมาจากนามสกุลของเพื่อนชายคนหนึ่งของแม่แต่หลายคนเชื่อว่า นอร์มา จีน เบเกอร์ นั้นแหละคือพ่อแท้จริงของเธอเธอเกิดในบ้านเด็กกำพร้าในแอลเอ เนื่องจากแม่เธอมีอาการโรคประสาท ไม่สามารถเลี้ยงดูเธอได้ ส่วนพ่อแท้ไม่ต้องการเลี้ยงดู

จึงฝากเธอเอาไว้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ต่อมาเธอก็ถูกรับไปเลี้ยงดูโดย ครอบครัวกอดดาร์ดเพื่อนของพ่อแม่ของเธอเมื่อเธอโตเป็นสาวสวยเมื่ออายุ 21 ปี และได้แต่งงานครั้งแรกกับหนุ่มกะลาสีเรือสินค้าคนหนึ่งชื่อ จิมมี่ โดเฮอร์ตี แต่การงานนี้ไม่ได้เกิดจากความรักแม้แต่น้อย เพราะเธอถูกครอบครัวผลักให้แต่ง เพราะด้วย หนังฟรี หนังใหม่

 

 

นิสัยของเธอที่เปรี้ยวมากกว่าสาวชาวบ้านธรรมดา(พูดง่าย ๆ ว่าแรด) ทำให้การแต่งงานครั้งแรกจบลงด้วยการหย่าใน 5 ปีต่อมา ในช่วงที่เธอว่างหลังสามีคนแรกไม่อยู่บ้าน ด้วยความสวยของเธอ เธอคิดว่าจะไปทำงานหน้ากล้องโดยเป็นแบบถ่ายโฆษณาสินค้าซึ่งต่อมาก็ได้รับการชักจูงเข้าสู่วงการมายาฮอลลีวูด

ไม่นานนัก นอร์มา จีนเบเกอร์ เปลี่ยนชื่อมาเป็น มาริลีน มอนโร หลังจากที่เธอเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนต์ทวนตีธ์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ โดยนำชื่อท้ายของยายมาตั้ง หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็รุ่งเรืองถึงขีดสุดมาตลอด จนสื่อต่างๆ มักเรียกเธอว่าดาวค้างฟ้าแห่งฮอลลีวูด

 

 

มาริลีน มอนโรได้ดิบได้ดีจากอาชีพนักแสดงแห่งวงการมายาของช่วงยุคทศวรรษที่ 50 เนื่องจากเธอมีท่วงท่าและอิริยาบถในลีลาอันเย้ายวนใจของเธอในภาพยนต์หลายๆ เรื่องที่มาริลีนแสดง มากกว่าผลงานในภาพยนต์เสียอีก จนกระทั้งได้รับฉายาอีกอย่างคือ “สัญลักษณ์ทางเพศ”นับแต่นั้นเป็นต้นมา

จากความงามในทุกสัดส่วนของเธอนี้เองมันไปเข้าตาทุกๆ คนในวงการเข้า ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย นักการเมือง (รวมทั้งคนเขียน) ที่ต่างหมายปองเธอ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถได้ตัวเธอ เพราะมาริลีนมีชื่อเสียงในด้านความดื้อรั้น หัวแข็ง และปากจัด มากคนหนึ่งในฮอลลีวูด มีหลายครั้งที่เธอไม่สามารถร่วมงานกับคนในวงการได้ และหลายคนที่ต้องทนกับอารมณ์ที่แปรปรวนของเธอเกือบทุกวัน แม้กระทั้งผู้สื่อขาวที่เคยหน้าหงายจากการตอบโต้ของเธอเมื่อถามคำถามไม่เข้าหูมาแล้ว

 

 

ปี 1954 มาริลีน แต่งงานกับ โจ ดิแมกจิโอ ดาราเบสบอลที่มีชื่อเสียง แต่ไม่นานหลังจากแต่งงาน 9 เดือนต่อมา เธอก็หย่าขาดจากเขาโดยไม่บอกเหตุผลว่าเพราะทำไม ปี 1956 มาริลีน แต่งงานเป็นครั้งที่3 กับ อาเธอร์ มิลเลอร์ คนเขียนบทละครชื่อดัง และช่วงนี้ชีวิตความเป็นดาราของมาริลีน มอนโร ก็ได้ก้าวถึงจุดสูงสุดในอาชีพการแสดง และในช่วงระหว่างนั้นเองความสวยสะพรั่งของเธอได้ไปสะดุดบุคคลคนหนึ่งเข้า

รีวิว ปริศนามาริลิน มอนโร

ข้อมูลเบื้องต้น

สารคดีสร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับคดีการตายที่ยังคงเป็นปริศนาของ มาริลิน มอนโร

ดาราสาวระดับตำนานที่ไม่ได้โด่งดังเพียงแค่ในฮอลลีวูด (Hollywood) หรือสหรัฐอเมริกา

ทว่ากลับมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งโลก โดยมีเทปลับที่บันทึกบทสัมภาษณ์

ของคนวงในจำนวนมากที่ไม่เคยได้รับการเผยแพร่หรือเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

เป็นเสมือนกับสื่อกลางซึ่งช่วยไขคดีปริศนานี้ให้เป็นที่กระจ่างและประจักษ์ต่อสายตาของคนทั้งโลก ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

การเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ

นับตั้งแต่แจ้งเกิดจนกลายเป็นนักแสดงสาวดาวรุ่งแห่งยุคที่เปล่งประกายด้วยตัวเอง

โดยไม่ต้องพึ่งพาแสงของใคร การงานในวงการบันเทิงของมาริลินจึงก้าวกระโดด

ความสวยที่เตะตาและหุ่นเนื้อนมไข่ไม่ได้ทำให้มาริลินกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศ (Sex symbol)

อย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักในหมู่สังคมชนชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพล นักการเมือง นักกีฬา นักธุรกิจมหาเศรษฐี และเพราะวงการมายาและโลกธุรกิจมีสองสิ่งที่สำคัญ

เหมือนกันคือเรื่องเส้นสาย มาริลินจึงได้พบกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่จะทำให้เธอโด่งดังมากกว่าที่เป็น การได้คบค้าสมาคมถึงขั้นได้สานสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวหรือแม้แต่การตัดสินใจลงหลักปักฐาน

ด้วยการแต่งงานกันทำให้มาริลินมีความสุขคล้ายกับได้ความรักเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายในอดีต

ทว่าสุดท้ายกลับพบว่าเรื่องพิศวาสที่เกิดขึ้นมาล้วนแล้วแต่มีเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นการตักตวง

ผลประโยชน์จากบุคคลที่มีอำนาจและหลอกใช้มาริลินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้หญิงที่มีวัยเด็กอันเลวร้าย

เพราะถูกบุพการีบังเกิดเกล้าทอดทิ้งจึงผ่านชีวิตสมรสที่ไม่สมหวังหลายครั้งจนกลายเป็น

แม่ม่ายทรงเครื่องตั้งแต่อายุยังน้อย รอยช้ำที่กลายเป็นแผลเป็นทำให้มาริลินต้องเข้ารับการบำบัด

กับจิตแพทย์ ก่อนที่จะจบชีวิตรักและชีวิตการงานพร้อมกับปริศนามรณกรรมที่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งโลก

 

การวิเคราะห์เนื้อหาผ่านทฤษฎี

ใครหลายคนชอบนิยามความรักว่าเป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจที่คอยหล่อเลี้ยงให้ชีวิต รีวิวหนัง

มีแรงที่จะสู้และขับเคลื่อน แน่นอนว่าชีวิตของมาริลิน มอนโรก็เป็นไปตามคำนิยามนั้นเช่นกัน

ความรักทำให้ชื่อเสียงการงานของเธอเติบโต ทำให้อดีตเด็กที่เคยเข้าออกบ้านเด็กกำพร้าและ

บ้านอุปถัมภ์หลายครั้งหลายหนได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากและกลายเป็นคนดังภายในชั่วข้ามคืน

ทำให้คนที่ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากบิดามารดาแท้ ๆ เกือบมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ด้วยการมีลูก

และครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงจุดพลิกผัน แถมอดีตที่เคยเป็นฝันร้ายยังตาม

หลอกหลอนไม่เลิกราราวกับประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ละครชีวิตที่เคยโชติช่วงและปิดฉากลง

เมื่อถึงตอนอวสานในวัยเพียง 36 ปีจึงสอดคล้องกับทฤษฎีแรงขับ (Drive theory)

ซึ่งมีผลต่อบุคลิกภาพที่แสดงออกของบุคคลโดย ซิกมันด์ ฟรอยด์ ประสาทแพทย์ชาวออสเตรีย

ผู้เป็นที่รู้จักในนามของบิดาแห่งจิตวิเคราะห์ที่มีบทบาทต่อชีวิตทั้งชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งได้ ดังนี้

1) แรงขับและสัญชาตญาณ (Drive and instincts)

แรงขับคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งแรงขับทางเพศซึ่งเป็นแรงขับธรรมดา

ที่เป็นส่วนหนึ่งของสัญชาตญาณแห่งการมีชีวิตที่นำไปสู่ความพึงพอใจ การบรรลุเป้าหมาย

และการหลีกเลี่ยงความผิดหวังในชีวิต การมีความสัมพันธ์กับคนดังในแวดวงต่าง ๆ ที่กลายเป็น

ข่าวอื้อฉาวของมาริลินโดยเฉพาะการที่ถูกดักฟังเสียงระหว่างร่วมรักกับพี่น้องเคนเนดีโดยนักสืบเอกชนจึงเป็นการตอกย้ำว่ามาริลินใช้แรงขับทางเพศ

ในทุกครั้งที่อยากมีความรักเพื่อตอบสนองความต้องการโดยหารู้ไม่ว่าคู่นอนของเธออาจมีเจตนาอื่นแอบแฝงมากกว่านั้น

 

2) ความวิตกกังวล (Anxiety)

ความวิตกกังวลเป็นผลพวงที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกที่โดนบีบคั้น ความทรงจำ ความปรารถนา ประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิตและถูกกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างหรือภายในตัวเอง

จนทำให้เกิดความรู้สึกถึงหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาในไม่ช้า การที่มาริลินได้มีโอกาส

เข้าไปมีส่วนพัวพันกับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำระดับประเทศอย่าง จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกาในยุคสงครามเย็นที่มีการใช้อาวุธทางความคิดและ

อาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อฟาดฟันกับประเทศที่เป็นปฏิปักษ์จึงอาจทำให้เธอล่วงรู้ถึงความลับภายใน

ที่ไม่ควรแพร่งพรายชนิดที่ถ้าหากรั่วไหลอาจถูกปิดปาก ทั้งยังได้ตกเป็นเป้าสายตา

ของสื่อมวลชนในฐานะของบุคคลสาธารณะและถูกจับตามองโดยหน่วยงานความมั่นคง

ระดับสูงอยู่ตลอดเวลา มาริลินจึงเกิดความหวาดระแวงและพยายามหลีกหนีความจริง

ด้วยการใช้ยาเพื่อบำบัดความรู้สึกที่เกิดขึ้น

 

3) ระดับของจิตสำนึก (Levels of consciousness)

จิตสำนึกสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ จิตสำนึก จิตก่อนสำนึก จิตใต้สำนึก

โดยทั้งสามส่วนนี้มีการแสดงออกที่อยู่ในระดับต่างกันและมีสิ่งกระตุ้นที่ไม่เหมือนกัน

จิตสำนึกเกิดได้ในทุกช่วงจังหวะของชีวิต ในขณะที่จิตก่อนสำนึกเกิดขึ้นได้เพราะเหตุการณ์

ที่คอยกระตุ้นให้นึกถึงความทรงจำและความรู้สึกในอดีต ส่วนจิตใต้สำนึกเป็นสิ่งที่ถูกกดทับ

ในขณะที่มีสติโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ โดยที่จิตสำนึกทั้ง 3 ระดับล้วนแล้วแต่เกิดขึ้น

กับชีวิตของมาริลินไม่ว่าจะในชีวิตประจำวันหรือในชีวิตลับที่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

ซ้ำร้ายยังถูกกระตุ้นด้วยเหตุการณ์บอบช้ำที่ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจนทำให้ความทรงจำ

ในวัยเด็กที่อยากลืมหวนกลับมา และเพราะเธอยืนอยู่ท่ามกลางแสงจากสปอร์ตไลท์

ที่ได้สาดส่องจากเบื้องบน บางครั้งเธอจึงจำเป็นต้องเสแสร้งว่าตัวเองมีความสุข

โดยไม่สามารถแสดงความรู้สึกที่กำลังทุกข์ระทมออกมาให้ทุกคนรู้ได้ในทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *