รีวิว เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้
ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ดูสบาย ๆ เบาสมอง คลายเครียดยามว่างล่ะก็ ขอแนะนำ “Clean with Passion for Now” เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ดราม่า ที่จะทำให้คนดูต้องอมยิ้มไปกับความน่ารักสดใสของพระเอกกับนางเอก เหมาะสำหรับคนที่
อยากพักจากการดูหนังแนวจริงจัง หรือ คนที่ชอบแนวรักหวาน ๆ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้มีต้นฉบับเป็นการ์ตูนจาก Webtoon (แอพพลิเคชั่นสำหรับคนอ่านการ์ตูน) ดังนั้นเนื้อเรื่องจะยังคงคอนเซปท์และเค้าโครงของเรื่องไว้อยู่ แต่ในซีรีส์จะมีการปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมตัวละครกับฉากบ้างเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อเรื่องให้น่าดูยิ่งขึ้น ดูหนังฟรี
เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากพระเอก (จางซอนกยอล รับบทโดย ยุนคยุนซัง) ที่เป็นประธานบริษัททำความสะอาดแห่งหนึ่ง อยู่ในตระกูลที่ร่ำรวย เป็นคนเจ้าระเบียบ สุขุม ที่สำคัญเป็นคนรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ อีกนัยหนึ่งก็คือเกลียดพวกสิ่งสกปรกแบบเข้าไส้
ทำให้พระเอกไม่ชอบอยู่ในที่คนพลุกพล่าน หรือ สถานที่ที่คิดว่ายังสะอาดเนี๊ยบ ไม่มากพอ ถ้าพระเอกเผลอไปโดนตัวคนอื่น แม้แต่ปลายเล็บก็ตาม พระเอกจะรีบทำความสะอาดตัวหรือไม่ก็ทิ้งเสื้อตัวนั้นไปเลยทันที เวลาพระเอกจะจับสิ่งของอะไรจะ
สวมถุงมือยางทุกครั้ง พร้อมกับมีสเปรย์ฆ่าเชื้อติดตัวอยู่ตลอดเวลา (พระเอกหยิบมาใช้ทีไรต้องมีฮาแน่นอน) คือพระเอกเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำนั่นเอง จึงต้องทำความสะอาดอยู่เรื่อย ๆ แต่จะมีอยู่อย่างหนึ่งที่ทำให้พระเอกเปลี่ยนแปลงไปทีละนิด นั้นก็คือ
นางเอก (กิลโอซอล รับบทโดย คิม ยู จ็อง) ของเรานั้นเอง ซึ่งนางเอกจะมีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกับพระเอกอย่างสุดขั้ว ทั้งฐานะ การกิน ที่อยู่อาศัย การดูแลรักษาความสะอาด นางเอกชอบกินเลอะเทอะ มูมมาม ใส่เสื้อผ้าเปื้อน ๆ ขาด ๆ สระผมนานครั้ง ตัวมอมแมม ด้วยความที่นางเอกทำงานจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง จึงทำให้มีสภาพที่ว่ามา
ซึ่งจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้พระเอกกับนางเอกเจอกันโดยบังเอิญ และนางเอกก็ได้เป็นพนักงานของบริษัทพระเอก ในตอนแรกพระเอกกลัวนางเอกมากเป็นพิเศษ แทบไม่อยากจะอยู่ใกล้ ๆ เลย แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป มีอยู่ตอนนึงที่นางเอกทำ
ให้พระเอกเป็นลมสลบไป (ทำได้ยังไงนั้นไปดูกันเอาเอง) นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้พระเอกเกลียดนางเอกเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าในใจลึก ๆ จะไม่ใช่อย่างนั้นก็ตาม แล้วพระเอกก็เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นมา ตัวละครอีกตัวที่หลงรักนางเอก คือ จิตแพทย์อายุน้อยที่สุดในเกาหลี อาศัยอยู่บนดาดฟ้าตึกเดียวกับนางเอกและเป็นลูกศิษย์ของหมอที่เคยรักษาพระเอกตอนอยู่อเมริกาฯ ที่นางเอกชอบเรียกว่า “รูฟท็อป” ตัวละครนี้จะทำให้พระเอกได้รู้ใจของตัวเองมากขึ้นว่าจริง ๆ แล้วตนนั้นรู้สึกอย่างไรกับนางเอก
ช่วงแรกของเนื้อเรื่องก็จะมีความจิกกัดระหว่างคู่พระนางตามสไตล์ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ แล้วเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อย ๆ จนถึงกลางเรื่อง จะมีนายรูฟท็อป ที่กลับมาเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระนางชัดเจนมากขึ้น
เนื้อเรื่องหนัง รีวิว เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้
พอมาเริ่มเข้าใกล้ช่วงท้ายเรื่อง จะมีอุปสรรค (คุณตาของพระเอกเนี่ยตัวดีเลย) ที่มาขัดขวางความรักของทั้งสองตัวเอก ช่วงท้ายจะเป็นช่วงที่เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นมากขึ้น แล้วค่อย ๆ คลายปัญหาไปเรื่อย ๆ ส่วนตอนจบเป็นยังไงนั้นต้องไปตามดูกันเอง ดูหนังใหม่
พูดถึงฉากอารมณ์ต่าง ๆ ภายในเรื่องกันบ้าง ฉากเลิฟซีนต้องยกนิ้วโป้งให้เลย รู้สึกได้ถึงความแอบชอบและอยากอยู่ใกล้ชิดกัน แสดงความเป็นห่วงซึ่งกันและกัน มีมุมน่ารัก ๆ ชวนให้เขินจนตัวบิดเลยทีเดียว ฉากฮา ๆ ก็ใช่ย่อย คู่ที่เก็บแต้มฉากฮาได้ดีสุด ๆ
ก็คู่พระนางนี้แหละ อยู่ด้วยกันทีไรต้องมีเรื่องที่ชวนให้คนดูหัวเราะได้ตลอด ความฮามีตั้งแต่ยิ้มอ่อน ๆ ยันขำก๊ากเลยนะ ส่วนซีนดราม่าไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก อาจจะไม่เข้าถึงอารมณ์ในบางฉาก ไม่ถึงกับน้ำตาไหลเป็นสายน้ำ แต่ก็ยังมีฉากที่ทำให้เรา
น้ำตาคลอได้เช่นกัน ความดราม่าจะออกแนวปมปัญหาที่แต่ละตัวละครมีมาตั้งแต่อดีตซะมากกว่า การดำเนินเรื่องอาจจะมีช่วงยืดทำให้รูสึกเหนื่อยนิดหน่อย แต่ถ้าถัดจากฉากนั้นไปจะเป็นฉากที่ดึงอารมณ์ร่วมของคนดูกลับมาอีกครั้ง ดูเหมือนเป็นเทคนิคอีกอย่างของเรื่องเลยก็ว่าได้
ตัวนักแสดงอย่าง ยุนคยุนซัง ที่เป็นพระเอกเป็นคนตัวสูง หุ่นกับหน้าออกอวบ ๆ หน่อย มีความน่ารักจิ้มลิ้มแบบเด็ก เป็นเสน่ห์ที่สื่อให้เห็นภาพของผู้ชายอบอุ่น โรแมนติก ฉากฮา ๆ ต้องยกให้พระเอกเลย ส่วนนางเอก คิม ยู จ็อง นางตัวเล็ก หุ่นดี หน้าตา
ออกแนวน่ารัก ๆ ยิ่งถ้าเข้าฉากแสดงเมื่อไรจะยิ่งมีเสน่ห์มาก น่ารักคูณสิบ เรียกได้ว่าเคมีของคู่นี้เข้ากันสุด ๆ และที่พลาดไม่ได้ คือ เพลงประกอบที่ส่งเสริมให้ฉากอารมณ์มันเข้าถึงใจคนดูอย่างเราเข้าไปอีก เพลงของเรื่องนี้เพราะจริง ๆ นะ ลองหาฟังกันได้ใน Youtube
ขอย้ำอีกครั้งสำหรับสายซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ ดราม่า คุณไม่ควรพลาด เอาไว้ดูเพลิน ๆ สบาย ๆ เบาสมองในยามว่าง จำนวนตอนทั้งหมด 16 ตอน สามารถรับชมได้ทางเว็บดูหนังของเราได้เลย “จาง ซอนคยอล” ซีอีโอบริษัทรับทำความสะอาด “Cleaning Fairy” เป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ แต่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคกลัวความสกปรกและเชื้อโรค (Mysophobia) สำหรับเขาแล้วการรักษาความสะอาดคือสิ่งที่
มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องทำ ที่สำคัญ…มันคือการกระทำอันน่ายกย่องที่ต้องถือเป็นภารกิจของมวลมนุษยชาติเพื่อที่โลกใบนี้จะได้สะอาดขึ้น ด้วยความที่เป็นซีอีโอตั้งแต่ยังหนุ่มซ้ำยังรูปร่างหน้าตาดี เขาจึงเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและมักถูกเชิญให้ไปเป็นวิทยากรในการบรรยายและงานสัมมนาต่างๆ
แม้ยังไม่อาจระบุแน่ชัดว่าอาการย้ำทำ (เช่น ล้างมือบ่อยๆ) จากโรคกลัวความสกปรกและเชื้อโรคเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ซอนคยอลอนามัยจัดตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเจ็ดปีก่อน (ขณะเรียนหนังสือที่อเมริกา) เขาถูก “ประธานชา” ผู้เป็นตา ส่งตัวไปรักษาที่มาโย
สรุปหนังเรื่องนี้ รีวิว เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้
คลินิกและได้พบหมอฟอร์ที่นั่น หลังได้ฟังวิธีควบคุมอาการ ตลอดจนการรับมือโรคกลัวความสกปรกและเชื้อโรคในเชิงบวก เขาก็เปิดบริษัทรับทำความสะอาดทันทีที่กลับเกาหลี แต่ทว่านิสัยคนเราใช่จะเปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับอาการย้ำทำที่ ไม่หายง่ายๆ เช่นกัน เขาสู้อุตส่าห์เปิดบริษัทหมายบำบัดอาการคลั่งความสะอาดของตน แต่ยิ่งทำงานมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งโหยหาความสะอาดหนักขึ้น เขาจึงก้มหน้าก้มตาทำงานโดยคิดว่าอย่างน้อยก็มีส่วนช่วยให้โลกนี้สะอาดขึ้น
ซอนคยอลกลัวความสกปรกและเชื้อโรคถึงขั้นไม่ยอมให้ใครมาสัมผัสหรือแตะเนื้อต้องตัว ไอเทมคู่กายที่เขาขาดไม่ได้โดยเด็ดขาดคือถุงมือและสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่เคยมีความรักและไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับใครแม้กระทั่ง…คนใน
ครอบครัว แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับผู้หญิงที่เหมือนอยู่คนละโลกกับเขา เธอไม่เพียงซกมกและชอบทำเลอะเทอะ แต่ยังกล้าแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ ทุกสิ่งที่เธอทำล้วนชวนยี้และน่าพะอืดพะอมในสายตาเขา แต่แล้วเธอกลับเริ่มเปิดใจซอนคยอลโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว และเธอคนนั้นก็คือสาวน้อยสู้ชีวิต “กิล โอซล” รีวิวหนัง
“กิล โอซล” เป็นสาวน้อยที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงพอๆ กับชีวิตของเธอ ที่เธอไม่ดูแลความสะอาดของตน (ไม่อาบน้ำ ซักผ้า สระผม ฯลฯ) ไม่ได้เป็นเพราะเธอขี้เกียจ แต่การดูแลสุขอนามัยเป็นเรื่องที่เกินกำลังและเปลืองแรงสำหรับชีวิตที่ต้องดิ้นรน สำหรับเธอแล้วการ
รักษาความสะอาดไม่ต่างจากการที่ต้องเดินลงเขาหลังเพิ่งไต่เขาเสร็จ มันเป็นงานที่เสียแรงเปล่าเพราะหลังทำความสะอาดเสร็จแล้วก็สกปรกอยู่ดี ด้วยเหตุนี้เธอจึงปล่อยให้ผมเผ้าเป็นกระเซิง สวมกางเกงทรงหลวมตัวเดิมซ้ำๆ ทุกวัน กับเสื้อยืดที่มีคราบน้ำซุปราเม็งและ กิมจิ เธอยังคงว่างงาน และ กำลังดิ้นรนหางานประจำทำจึงปล่อยวางความเป็นผู้หญิง ไม่สิ…ความเป็นมนุษย์เลยด้วยซ้ำ
ในขณะที่เพื่อนๆ ของโอซลเตรียมตัวสมัครงาน และ ซื้อคอร์สเตรียมสอบราคาแพง โอซลกลับต้องทำงานงกๆ เพื่อจะได้ประหยัดเงินค่าห้องสมุด (เธออ่านหนังสือเตรียมสอบสัมภาษณ์ และ สอบข้อเขียนเอง) แถมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เธอยังต้องวิ่งรอก
ทำงานพาร์ทไทม์ ครั้นพอกลับถึงบ้านเธอจึงหมดสภาพ และ ไม่มีแรงแม้กระทั่งกระดิกนิ้ว ด้วยเหตุนี้การอาบน้ำ ซักผ้า สระผม และ ทำความสะอาดบ้าน จึงกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งสำหรับเธอ สมัยเรียนชั้นประถม และ มัธยมต้นโอซลเป็นนักกีฬาวิ่งข้ามรั้ว
แต่หลังจากแม่เสียชีวิตขณะที่เธอเรียนมัธยมปลาย เธอจึงเลิกเป็นนักกรีฑา ถึงกระนั้นก็มีหลายครั้งที่ชีวิตเธอไม่ต่างจากการวิ่งข้ามรั้ว 400 เมตร ถึงแม้เธอจะกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังคงมีสิ่งกีดขวางอันอื่นๆ รออยู่เบื้องหน้าเสมอ ทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเลยด้วยซ้ำ