รีวิว what did you eat yesterday
รีวิว what did you eat yesterday เรื่องราว
เรื่องราวมุมมองความรักของคู่รักเกย์วัย 40+ What Did You Eat Yesterday ? เป็นอีกหนึ่งซีรี่ส์ที่ทำให้หัวใจของเราเบิกบานดีเหลือเกิน What Did you Eat Yesterday ? หรือ Kinou Nani Tabeta? สร้างจากมังงะชื่อดังที่มีฉบับแปลภาษาไทยในชื่อว่า “เมื่อวานเจ๊ทานอะไร ? ” ซึ่งตีพิมพ์มาเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ปี 2007 แล้วในเวอร์ชั่นซีรี่ส์ก็ถอดแบบมาจากมังงะได้ดีมากๆ โดยเฉพาะบรรยากาศเบาสบาย อบอุ่น และฉากสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ที่ทำให้เราต้องจดสูตรไว้ทำตามแทบทุก EP แล้วนี่ก็ร้องหน้าจอว่า “น่ากินจังเลยยยยย” ทุกเมนูไป!
เรื่องราวของคู่รักเกย์วัย 40 ปีที่อาศัยอยู่ด้วยกันภายในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ชิโระ คาเคย์ เป็นทนาย บุคลิกดี เคร่งขรึม ไม่เปิดเผยเพศสภาพให้ใครทราบทั้งนั้น ในขณะที่คู่ชีวิตของเขา เคนจิ ยาบุกิ ช่างตัดผมอารมณ์ดี กลับเมาท์มอยชีวิตส่วนตัวให้ลูกค้าฟังตลอดเวลา แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงดูหนัง,
การ์ตูนวายชายไม่ใช่เรื่องใหม่ในญี่ปุ่น ถึงกระนั้นซีรีส์วายในญี่ปุ่นก็ยังน้อยนัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเนื้อเรื่องมักชวนฝัน ฟุ้งเฟ้อ มีความเป็นการ์ตูนสูง และมีโมเมนต์น่ารักๆ ให้คนดูเขิน และจิกหมอนตลอดเวลา แต่สำหรับ What Did You Eat Yesterday? กลับตัดทอนสิ่งเหล่านั้นออก เหลือเพียงแต่ความเรียบง่าย อบอุ่น ทว่านัยหนึ่งก็ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของชาวเพศทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน ผลกระทบต่องาน รวมถึงปัจจัยปลีกย่อยอื่นๆ ที่สามารถสั่นคลอนความสัมพันธ์ของพวกเขาได้
สำหรับในเวอร์ชั่นเรื่องนี้ก็ยังได้ผู้กำกับ “นากาเอะ คาซุฮิโตะ” และนักเขียนบท “อาดะชิ นาโอโกะ” กลับมาผนึกกำลังสร้างสรรค์ด้วยกันอีกครั้ง ซึ่งทั้งคู่ก็คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังในเวอร์ชั่นซีรีส์นั่นเอง ดังนั้นจึงแทบไม่มีปัญหาใด ๆ ที่พวกเขาจะหยิบจับเอาวัตถุดิบดั้งเดิมมาตีความและขยายโจทย์เดิมออกมาในรูปแบบที่เต็มไปด้วยประเด็นที่ชีวิตใกล้ตัว และสังคมรอบที่ค่อนข้างแตะต้องได้ไปตลอดทั้งเรื่องนี้ดูหนังออนไลน์
ต้องขอบคุณความเป็นมืออาชีพของ 2 นักแสดงนำของเรื่องนี้เป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็น “นิชิจิมะ ฮิเดะโตชิ” หรือ “อูชิโนะ เซย์โย” พวกเขาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ โดยที่ไม่มีอะไรจะมาเทียบเคียงได้ การแสดงอันเป็นธรรมชาติของเขานั้น ทำให้คนที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรมาก่อนอย่างผู้เขียนเข้าถึงและเข้าใจในตัวละครได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องปูพื้นเพอะไรมาเลยก็ได้
นิชิจิมะ ฮิเดะโตชิ คือนักแสดงญี่ปุ่นที่เสมือนเพชรแท้มาก ๆ ยิ่งมาในสายหนังชีวิตด้วย ยิ่งเหมาะกับเขาเป็นที่สุด จากที่เพิ่งได้เห็นเขาวาดลวยลายขั้นเทพใน Drive My Car มาสู่ What Did You Eat Yesterday? ที่ต้องปรับกลายมาเป็นชายรักร่วมเพศ ที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ เขาสามารถถ่ายทอดคาแรกเตอร์นี้ออกมาได้อย่างน่าอบอุ่น และเต็มไปด้วยเสน่ห์ ในแบบฉบับของชายญี่ปุ่นวัยกลางคนที่มีตำแหน่งหน้าที่มั่นคงในการงานได้ออกมาชัดเจนดูหนังออนไลน์
ในขณะที่ อูชิโนะ เซย์โย ก็คือนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ตีบทแตกกระจุย เขาสามารถสวมองก์เป็นเคนจิได้อย่างเป็นธรรมชาติจากอินเนอร์ แทบจะไม่เห็นความพยายามที่จะแสดงออก ในคาแรกเตอร์นี้ออกมาจากเขาเลย ทุกอย่างดูน่าเชื่อถือ และสามารถปั้นคาแรกเตอร์ออกมาได้ชัดเจน ทั้งภายในและภายนอกของตัวละคร เมื่อนักแสดงชายทั้งคู่นี้มาอยู่บนจอด้วยกัน มันกลายเป็นกำไรของผู้ชมที่ได้ดูการแสดงเลิศ ๆ อยู่ตรงหน้าแบบนี้
ข้อคิดที่ได้ จากเรื่อง
ในแต่ละตอนจะสอดแทรกความตลกมาพร้อมกับประเด็นต่าง ๆ ที่เห็นได้จริงในสังคม ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจผิดของคนทั่วไปต่อเพศที่สามแบบเล็ก ๆ เช่น คนที่เป็นเพศที่สามจะต้องแบ่งเป็นหญิงชาย หรืออย่าทำดีกับเพศที่สามที่เพิ่งพบกันครั้งแรกด้วยเพราะเขาจะตกหลุมรักกับคนที่ดีด้วยง่าย ขยายไปจนถึงเรื่องที่เป็นประเด็นสังคม เช่น ประเด็นทางกฎหมายที่คู่รักที่เป็นผู้ชายไม่สามารถมีสิทธิในมรดกที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงร่วมกับอีกฝ่ายได้ ทว่าการนำเสนอกลับไม่ทำให้ผู้ชมอย่างเรา ๆ รู้สึกเครียด แต่กลับเพลิดเพลินไปกับตัวละครพลางลุ้นว่าแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ตัวละครในเรื่องมีความรู้สึกต่อเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร สามารถแก้ไขให้จบได้อย่างไร และเข้าใจกันและกันได้อย่างไรดูหนัง
ในแต่ละตอน ชิโระ คาเคย์ จะต้องรีบวิ่งไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อจับจ่ายของถูก เนื่องจากเขาประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการประกอบอาหารด้วยงบไม่เกิน 25,000 เยนต่อเดือน หลังจากนั้นจึงนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาทำมื้อเย็น ต้อนรับการกลับของ เคนจิ ยาบุกิ กล่าวคือ ชิโระ คาเคย์ คือตัวแทนของแม่บ้านพ่อบ้านชาวญี่ปุ่น หนังถ่ายทอดฉากขั้นตอนการทำอย่างละเอียด ชนิดที่ว่าผู้ชมทางบ้านสามารถนำไปทำได้จริงๆ ( สำหรับใครที่ชอบอาหาร ซีรีส์อาจสร้างความหิวโหยให้คุณตลอดเวลา และอาจปลุกความฮึดถึงขนาดออกไปซื้อวัตถุดิบมาปรุงตามตัวเอกเลยก็ได้ )
พอดูจนจบแล้ว สิ่งที่ทุกคนอาจจะรู้สึกเหมือน ๆ กัน ก็คือ ชีวิตคนเราแท้จริงแล้วก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอเพียงแค่มีใครสักคนที่ยอมรับในสิ่งที่เป็น “ตัวเรา” คอยจับมือรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา กลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ ก็ได้ทานอาหารอร่อยด้วยกัน เท่านั้นก็มีความสุขเพียงพอ
ถ้ามองผ่านบรรทัดฐานความรักต่างเพศก็อาจจะมองว่าชิโระน่าจะเป็นสามีด้วยบุคลิกภูมิฐาน และเก็บซ่อนความเป็นเกย์ของตัวเอง ในขณะที่เคนจิเป็นคนเปิดเผย ร่าเริง สดใส และบางครั้งก็เปล่งประกายมงกุฎแว่บๆ ออกมา แต่ในอีพีแรกก็เผยว่าจริงๆ แล้วรสนิยมทางเพศคืออะไรกันแน่
ความจริงแล้วเรื่องรสนิยมทางเพศของคู่รักเกย์ไม่สามารถใช้บรรทัดฐานของคู่รักต่างเพศมานิยามได้ (และจริงๆ ก็ไม่ควรจะนิยามด้วย) เพราะทุกอย่างลื่นไหลไม่เกี่ยวกับบุคลิกหรือการแสดงออก รวมทั้งบทบาทหน้าที่ในครอบครัว เพราะหากวิเคราะห์ที่ตัวเคนจิ แม้จะมีหน้าที่ทำอาหารคล้ายเป็นแม่บ้าน ขณะเดียวกันก็มีความเป็นผู้นำ แถมยังมีแนวคิดแบบสังคมปิตาธิปไตยในแบบที่พ่อบ้านญี่ปุ่นมักจะเป็นกัน อย่างเรื่องการแสดงออกที่ต้องเป็นชายสมชาย จนกลายเป็นความพารานอยด์สร้างมุกตลกตลอดทั้งเรื่อง หรือการไม่แสดงความรักจนบางครั้งดูเหมือนเย็นชา อีกทั้งยังมีแนวคิดเก่าๆ อย่างเช่นการมีลูกหลานเพื่อให้เลี้ยงดูตัวเองในอนาคตแบบสังคมเอเชีย เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์เลยประหยัด ใช้เงินค่าอาหารไม่เกิน 25,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 7,500 บาท) ขนาดจ่ายกับข้าวแพงกว่าแค่ 2 บาทก็อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา แสดงถึงความจุกจิกเกินความเป็นชายที่เจ้าตัวซ่อนเอาไว้ภายใต้บุคลิกแมนๆ ที่สังคมเข้าใจ
ในขณะที่เคนจิมีลักษณะของผู้ตาม และมักเปิดเผยตัวตนให้คนรอบข้างได้เห็น เขามองว่าความรักของเขาเป็นเรื่องปกติ และอยากให้คนอื่นมองว่าปกติด้วย อย่างที่เราได้รู้เหตุผลว่าที่เขาเอาเรื่องของชิโระไปเล่าให้คนอื่นฟังก็เพราะเห็นเพื่อนร่วมงานพูดถึงครอบครัว จึงอยากเล่าเรื่องแฟนของตัวเองบ้าง สิ่งเหล่านี้เป็นมุมมองแตกต่างที่คนหนึ่งซ่อนตัวตนให้ลื่นไหลไปกับสังคม แต่อีกคนพร้อมเปิดเผยเพื่อให้สังคมยอมรับในสิ่งที่เป็น นี่คือความขัดแย้งที่ทำให้ความสัมพันธ์นี้ลงตัวและไม่จืดชืด
พยายามมองว่าปกติเท่ากับมองว่าไม่ปกติ
อีกเรื่องที่น่าสนใจของ What Did You Eat Yesterday? คือการเผยให้เห็นมุมมองของพ่อแม่ต่อลูกชายที่เป็นเกย์แบบไม่ต้องมีฉาก Come out สะเทือนอารมณ์ แต่แคปเจอร์ช่วงเวลาพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจวิถีชีวิตของลูก ถ้าลองวิเคราะห์ดูก็พอจะรู้ว่าแม่ของชิโระเพิ่งรู้ว่าลูกตัวเองเป็นเกย์ และพยายามศึกษาชีวิตผ่านกลุ่มคนรู้จักที่เป็นเกย์ จึงจำคำพูดต่างๆ มาใช้โดยที่ในใจก็ยังยอมรับไม่ได้ 100% อย่างเช่น “ทำไมไม่บอกคนที่ทำงาน การเป็นเกย์เป็นสิ่งพิเศษนะ” ในขณะเดียวกันก็หลุดบางประโยคที่ดูขัดแย้งกันเอง เช่น “แม่ยอมรับไม่ว่าลูกเป็นเกย์หรือฆาตกร” ซึ่งจริงๆ แล้วคนที่เป็นเกย์ไม่ได้ต้องการให้มองในแง่ดีจนเป็น ‘สิ่งพิเศษ’ หรือมองในแง่ร้ายขนาดไปเปรียบเทียบกับ ‘ฆาตกร’ แต่อยากให้มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แม้แต่ตัวชิโระเองก็มองว่าชีวิตรักของเขาไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ของครอบครัว จึงลำบากใจเมื่อพ่อแม่เรียกร้องให้พาเคนจิมาเจอในวันขึ้นปีใหม่ แต่เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นเรื่องปกติเหมือนคู่ชายหญิงตามที่พ่อแม่คาดหวัง เขาก็ยอมทำตามด้วยเหตุผลที่ว่า “กลัวว่าพ่อแม่ผิดหวัง คิดว่าลูกน่าสงสาร อยากให้ท่านเห็นว่าผมไม่ได้เกิดมาโชคร้าย”รีวิวหนังรัก
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง What Did You Eat Yesterday? เมื่อวานคุณทานอะไร
ประเภท: ดราม่า / ตลก
ผู้กำกับ: นากาเอะ คาซุฮิโตะ
นำแสดงโดย: นิชิจิมะ ฮิเดะโตชิ, อูชิโนะ เซย์โย
ความยาว: 120 นาที
กำหนดฉายในไทย: 21 กรกฎาคม 2022 (ในโรงภาพยนตร์)