รีวิว The Shape of Water
รีวิว The Shape of Water ทีมา
เป็นหนังที่พูดถึงเรื่อง LGBT ได้มีมิติที่สุดเรื่องหนึ่ง เป็นหนังที่เราอยากให้ทุกคนได้ดู และคิดว่านี่เป็นหนังที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่ง ” ภายใต้หน้าหนังที่ดูแฟนตาซี โลกนิยายความรักของสาวใบ้กับสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาด เผินๆ เหมือนพล็อตหนังการ์ตูนดิสนีย์โฉมงามกับเจ้าชายอสูร แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่กลับเต็มไปด้วยสิ่งที่ให้เรามาคิดต่อ และย้อนมองดูสังคมที่เราอยู่ดูหนัง,
หนังเรื่องนี้สร้างให้เกิดขึ้นในช่วง 1960s ที่สังคมหรือธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ถูก Shape ให้ชายเหนือกว่าหญิง คนผิวขาวเหนือกว่าผิวสี เกย์เลสเบี้ยนเป็นพวกแปลกแยก รวมถึงทวีปเอเชียที่เป็นรองยุโรป( และแน่นอนว่าอเมริกาย่อมดีที่สุด )
แต่น่าเศร้าเมื่อตัดภาพมาที่ปัจจุบัน การ Shape เหล่านี้ยังไม่ได้หายไปไหน จากตัวผู้กำกับเองก็ตั้งใจให้เรื่องนี้สะท้อนถึงสังคมปัจจุบันที่ตั้งแต่ยุค 1960 มาจน 2018 ทุกสิ่งยังคงเดิมและยังจะดำเนินต่อไปแบบนี้ ( ถึงการ Shape บางอย่างอาจเบาบางลงบ้าง แต่แน่นอนว่ายังคงอยู่ )ดูหนังออนไลน์
กิลเลอร์โม เดลโตโร ยังคงเนื้อหาหนังที่พัวพันกับสัตว์ประหลาดเช่นเคย สังเกตได้ว่าหนังของกิลเลอร์โม ถ้าตัวเอกของเรื่องไม่เป็นตัวประหลาดอย่าง Blade , Mimic , Hellboy ก็มักจะต้องมีตัวประหลาดอยู่ในเรื่องเช่น Pacific Rim , Pan’s Labyrinth และ มาถึง The Shape Of Water ที่เจ้ามนุษย์น้ำก็มีความละม้ายกับตัว “ เอบ ซาเปียน ” จาก Hellboy อยู่พอสมควร หนังไม่เล่าถึงที่ไปที่มาของมัน เพียงแต่เอ่ยถึงว่าถูกจับมาจากแม่น้ำในอเมริกาใต้ ซึ่งที่นั่นมันก็ถูกพวกคนป่าถือบูชาดังเช่นเทพเจ้า มนุษย์น้ำถูกจับมากักขังไว้ในสถานีทดลองทางวิทยาศาสตร์ อยู่ใต้การควบคุมดูแลของริชาร์ด หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่มีความจงเกลียดจงชังมันป็นทุนเดิม และยิ่งโดนกัดนิ้วขาดไป 2 นิ้ว ทำให้ริชาร์ดเพิ่มอาฆาตแค้น จึงยุยงให้ผู้บังคับบัญชาจับมันชำแหละเพื่อการชันสูตรทางวิทยาศาสตร์เสีย การข่มเหงรังแกจากริชาร์ด อยู่ในสายตาของเอไลซา สาวใบ้พนักงานทำความสะอาด ที่พยายามผูกมิตรกับมนุษย์น้ำจนสามารถสื่อสารกันได้ กลายเป็นความผูกพัน และริเริ่มกระทำการอุกอาจด้วยการขโมยตัวมนุษย์น้ำออกจากสถานีทดลองเพื่อไปปล่อยลงทะเลดูหนังออนไลน์
โทนของThe Shape Of Water ออกมาค่อนข้างหลากหลายอารมณ์ แต่หลักของเรื่องก็คือความรักของสองสายพันธุ์ที่บทสามารถเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ให้เข้าใจความรู้สึกของสองตัวละครหลักได้ เรื่องราวของทั้งคู่ก็ดำเนินไปบนฉากหลังของช่วงสงครามเย็นที่มีการแทรกแซงของสายลับรัสเซียและความตื่นเต้นในฉากขโมยตัวมนุษย์น้ำในครึ่งแรก ส่วนในครึ่งหลังก็เป็นการตามล่าตัวมนุษย์น้ำคืนของริชาร์ด สตริคแลนด์ บทของไมเคิล แชนนอน ที่มาในภาพลักษณ์ของตัวร้ายแบบร้ายมาตั้งแต่เกิด เป็นบทที่กิลเลอร์โมเขียนโดยมีภาพของไมเคิล แชนนอนอยู่ในหัวมาโดยตลอด เช่นเดียวกับบทเอไลซ่า ที่กิลเลอร์โม ก็จำเพาะเจาะจงให้เป็น แซลลี่ ฮอว์กกิ้น ตั้งแต่ตอนเขียนบท โดยวาดภาพลักษณ์ให้เอไลซ่า เป็นผู้หญิงแนวบ้าน ๆ แต่มีเสน่ห์ในตัวเอง ซึ่งแซลลี่ ก็แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าทุ่มเทให้กับบทเอไลซ่าแบบเต็มร้อย และไม่หวงตัวดูหนัง
ด้วยโจทย์หลักที่ว่าด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของคนและมนุษย์น้ำ หนังเลือกจะเล่าให้ออกมาสดใสไร้พิษภัยแบบ Beauty And The Beast ตามสไตล์ดิสนีย์ก็ได้ แต่กิลเลอร์โมก็เลือกจะเล่าในทิศทางที่ดิบและดาร์คเจาะเฉพาะกลุ่มคนดูผู้ใหญ่ หนังเลยออกมาเป็นเรต R เพราะมีทั้งฉากเปลือย ( บ่อย ) คำหยาบทั้งภาษาพูดและภาษามือ และฉากเซ็กส์ทั้งคนฟีเจอริ่งกันและฉากช่วยตัวเอง และฉากโหดที่มีเลือดให้เห็นมากพอดู ซึ่งการได้เห็นฉากเหล่านี้ก็รู้สึกผิดคาด ไม่นึกว่าจะเห็นอะไรมากขนาดนี้
บทภาพยนตร์ฝีมือของกิลเลอร์โม เดลโตโร เองที่เล่าเรื่องราวแบบง่าย ๆ ตรงไปตรงมา ดูผิดจากรูปแบบของหนังมากรางวัลที่มักจะมาแนวอึน ๆ เนิบ ๆ แทรกสัญญะมากมายให้ตีความ แต่กับ The Shape Of Water กิลเลอร์โม เลือกสร้างตัวละครทุกตัวให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ล้วนมีความผิดแผกในตัวเอง เอไลซา เอสโปซิโต หญิงสาวที่พูดไม่ได้ แต่หูได้ยินปกติ มีชีวิตในสังคมเล็ก ๆ ที่มีเพื่อนแค่ 2 คน , ไจลส์ คุณลุงศิลปินที่เก็บตัวทำงานเขียนรูปอยู่ในห้องไปวัน ๆ แต่เก็บงำความเป็นโฮโมไว้ในใจลึก ๆ และท้ายที่สุดก็คือมนุษย์น้ำ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่โดนจับมากักขังทรมานเพียงเพราะเป็นตัวประหลาดในสายตามนุษย์ , ทั้ง 3 ต่างมีความเหงาอยู่ในใจด้วยกัน โดยเฉพาะเอไลซากับมนุษย์น้ำ ที่ใช้ใจสื่อสารถึงกันและสัมผัสความรู้สึกกันได้ในช่วงระยะสั้น ๆ และพาให้คนดูเข้าถึงจิตใจของทั้งคู่ได้เช่นกัน)รีวิวหนังรัก
สิ่งที่เราอยากให้ไปดูใน The Shape of Water
1. ความสวยงามของความรัก ( The Shape of Love )
ถ้าเคยดู Beauty and the Beast ไม่ว่าจะการ์ตูนหรือเวอร์ชั่นคนแสดง เราจะได้เห็นถึงความรักที่ไม่เกี่ยวกับรูปร่างชาติพันธุ์ภายนอก เป็นความรักที่เกิดจากจิตใจ ซึ่งคล้ายกับเรื่อง The Shape of Water ที่ภารโรงหญิงใบ้ผู้ทำงานให้ห้องแล็บของรัฐบาลดันไปหลงรักกับอมนุษย์ใต้น้ำผู้ถูกคุมขังเพื่อศึกษาโดยมนุษย์ผู้วิเศษวิโส
เนื้อเรื่องดำเนินไปแบบนั้น ให้เราเห็นความสัมพันธ์แปลกประหลาดระหว่างมนุษย์ใบ้กับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ภาษามือที่ถูกใช้เพื่อการสื่อสาร และอาหารอย่างไข่ต้มธรรมดาๆ กลายเป็นสายใยของความรักครั้งนี้
2. ความแตกต่างทางชนชั้นและสิทธิ ( The Shape of Right )
ตั้งแต่เด็กเราจะได้ยินคำว่าสิทธิเสรีภาพกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศประชาธิปไตย ( ของบางประเทศ ) คำว่าสิทธิเสรีภาพลอยล่องอยู่กลางอากาศ ( แต่ดันจับต้องไม่ได้ ) เป็นนามธรรมที่พยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถออกมาเป็นรูปธรรม แม้กระทั่งอเมริกาเองที่ถึงจะเป็นประเทศประชาธิปไตยแต่ในยุคหนึ่งคนผิวสีก็ยังไม่สามารถลงเลือกตั้งได้ด้วยซ้ำ
กลับมาในแง่ของหนังที่เล่าถึงยุค 1960s ตำแหน่งใหญ่โตยังเป็นของเพศชายอยู่อย่างเห็นได้ชัด และชัดยิ่งกว่าก็คือเรื่องการกดขี่ ที่ยิ่งชนชั้นผู้น้อยลงไปแค่ไหน ก็มีโอกาสถูกเหยียดหยามได้มากเท่านั้น (จากที่เห็นในหนัง) หรือแม้แต่เรื่องสีผิวที่ในยุคนั้นคนผิวสียังไม่มีสิทธินั่งกินอาหารในร้านของคนขาว ( ทั้ง ๆ ที่นั่งก็ว่างทั้งร้าน! )
หนังไม่ได้เล่าประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องหลัก แต่ เพราะเรื่องสิทธิต่างๆ มันแทรกอยู่ในทั้งเนื้อเรื่องของหนัง เลยยิ่งทำให้มันดูเป็นความปกติธรรมดาที่เราต้องเผชิญ และยิ่งน่าคิดเข้าไปใหญ่ว่าเออแล้วตอนนี้ในปี 2018 เราอยู่กันแบบไหนกันนะ?
3. ความโคตรเพอร์เฟ็กต์ของการแสดง และโปรดักชั่น (The Shape of Movie )
ดูเครียดจังกับสองข้อที่ผ่านมา แต่จริงๆ แล้วหนังมันน่ารักมากเลย มันคือความสวยงามแฟนตาซีมากกกกกกกๆๆ ตลอดเวลาที่ดูเราจะได้อิ่มไปกับการแสดงของตัวละคร (ที่เล่นดีทุกตัวจนงง อยากให้ทุกคนในเรื่องได้ออสการ์ไปนอนกอด) นางเอก ( Sally Hawkins ) ที่เล่นเป็นคนใบ้ได้โคตรจะใบ้ หรือเพื่อนนางเอก ( Octavia Spencer ) ที่เห็นผลงานกันมาแล้วจากเรื่องอื่นๆ อย่าง The Help เป็นต้น ในเรื่องนี้ก็มาสร้างสีสันได้สนุกมันฮามากๆ
องค์ประกอบต่างๆ ของหนัง ทั้งแสงสีเสียง เพลงประกอบ อาร์ตไดเรกชั่น พร็อพต่าง ๆ เสื้อผ้า หน้าผม ลงตัวไปหมดเลยยย แม้กระทั่งการออกแบบตัวอมนุษย์ใต้น้ำ ก็ยังทำออกมาได้แบ๊วๆ มาพร้อมร่างกายกำยำแต่ดวงตาแบ๊วมาก เป็นต้น
ชื่อภาษาอังกฤษ : The Shape of Water
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : แฟนตาซี, ผจญภัย, ชีวิต
ผู้กำกับ : Guillermo del Toro
ผู้ผลิต : Fox Searchlight Pictures
กำหนดฉาย : 18 มกราคม ปี 2018