รีวิว Yumi s Cells (2021)
จบกันไปแล้วสำหรับซีรีส์สุดน่ารักแห่งปี 2021 Yumi’s cells นั่นเองค่า ใครยังไม่ได้ดูตามดูตอนนี้ยังทันนะ แอบกระซิบว่าเขามี ss2 ด้วยแหละ ตอนนี้กำลังถ่ายทำกันอย่างหนักกันเลยทีเดียว สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับ คิมโกอึน อันโบฮยอน และคุณพัคจินยองจากวง Got7 ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้จริง ๆ ดูหนังใหม่
สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ถูกสร้างมาจากต้นฉบับเว็บตูนเกาหลียอดฮิตเรื่อง Yumi’s cells การันตรีความสนุกแน่นอนเพราะแค่ในเว็บตูนยอดอ่านก็ปัง ปัง ปังแล้ว มาสร้างเป็นซีรีส์ยิ่งดี๊ดีเข้าไปใหญ่ และแน่นอนตัวละครนั้นถูกออกแบบมาได้เหมือนกับต้นฉบับมากเลยทีเดียว ทีมงานและนักแสดงเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจกันอย่างเต็มที่จริง ๆ
มาคุยเรื่องเนื้อเรื่องกันบ้างดีกว่า เรื่องราวบอกเล่าถึงพนักงานออฟฟิศธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ธรรมดา เพราะซีรีส์ได้เล่าเรื่องราวความรู้สึกนึกคิดของตัวละครผ่านเหล่าเซลล์น้อยสุดอลเวง ใช่แล้วซีรีส์เรื่องนี้ผสมผสานระหว่างคนแสดงกับแอนิเมชัน และนี่จึงเป็นจุดดึงดูดหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ซ้ำใคร
ยูมิสุดน่ารักของเรานั้นจะได้คบกับแฟน 3 คนด้วยกัน และจะได้แต่งงานกับแฟนคนสุดท้าย ซึ่งแฟนคนแรกของยูมิก็คือกูอุง ใน ss แรกนั่นเอง กูอุงเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก รักยูมิมากก เป็นคนดีมาก สุภาพบุรุษมาก แต่เสียอย่างเดียวเป็นคนไม่ชอบอธิบาย
ความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รู้เพราะคิดว่าคำอธิบายมันยาวเกินไป ตัดทิ้ง ๆ ดังนั้นมันเลยทำให้ยูมิไม่รู้ว่ากูอุงแท้ที่จริงแล้วกำลังคิดอะไรอยู่ และนั่นก็นำพามาซึ่งความไม่เข้าใจกัน แต่ทั้งคู่ก็ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มาด้วยกันจนถึงบทสรุปสุดท้ายได้ ซึ่งผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรอยากให้เพื่อน ๆ ไปติดตามชมดูกันนะ รับรองว่าทุกคนจะได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่และได้เติบโตไปพร้อม ๆ กับยูมิ ดูจบแล้วภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิตคู่ของเราอาจเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ค่า
ส่วนแฟนคนที่สองของยูมินั้นก็คือยูบาบิพนักงานสุดหล่อในออฟฟิศที่แอบโผล่มาตอนกลาง ๆ เรื่องนั่นเอง บาบิเป็นสุภาพบุรุษ ช่างเอาใจใส่และที่สำคัญคือหล่อมาก ทำเอาเราที่เชียร์กูอุงเผลอเทใจไปให้เลย (เหรอแต่ที่ตกให้เราเข้ามาดูก็เพราะนักแสดงที่จะรับบทยูบาบินะ) ซึ่งตลอด ss1นั้นจะเป็นเรื่องราวระหว่างยูมิกับกูอุงล้วน ๆ เลย บาบิเขาโผล่แว๊บ ๆ มาชั่วครั้งชั่วคราวให้เราได้ชื่นใจเพียงนิด ๆ หน่อยเท่านั้น (ทำใจกันเด้อสูใครที่ชอบเรือลำนี้) แต่อย่าพึ่งเสียใจไป ss2 เขาจะมาอย่างเต็มที่แน่นอน เพราะบาบิจะเป็นตัว
ละครหลักในการดำเนินเรื่อง ได้ยินมาแว่ว ๆ ด้วยว่าในเว็บตูนนั้น…คุณยูบาบิเขาแซ่บมว้าก ฉากเลิฟซีนนี่แบบ…ไม่พูดดีกว่าเอาไว้ลุ้นกันว่าซีรีส์เขาจะดีไซน์ออกมาอย่างไร แฟนคลับคุณพัคจินยองอย่างเราต้องเตรียมทำใจนิดนึง แต่ก็แอบเฝ้ารอคุคิ ๆ หรือใครจะรอลุ้นว่านักแสดงท่านใดจะมารับบทเป็นคุณแฟนคนที่ 3 ของยูมิก็ได้ค่า เรื่องนี้มีเรือหลายลำ
เรื่องย่อ รีวิว Yumi s Cells (2021)
มาสรุปกันดีกว่าค่า สำหรับเรานักดูซีรีส์คนหนึ่ง เรารู้สึกชอบซีรีส์เรื่องนี้มาก เหมือนเขาตีแผ่เรื่องราวชีวิตธรรมดา ๆ ที่เห็นกันปกติในชีวิตประจำวันให้น่าสนใจผ่านพวกเหล่าเซลล์ให้เราได้เห็นความรู้สึกนึกคิดได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น อย่างเวลาที่ยูมิเสียใจเซลล์อารมณ์ก็จะร้องไห้ ยูมิหิวเซลล์หิวก็จะออกอาระวาดหาของกิน เวลามีเรื่องที่ยากจะตัดสินใจก็จะให้เซลล์อารมณ์กับเซลล์เหตุผลโต้วาทีกัน หรือแม้กระทั่งเวลาที่มีคำว่า”เอ้อ! ฉันว่าละ” ขึ้นมาในหัว นั่นเป็นผลมาจากเซลล์มาช้าไปหนึ่งก้าวนะ ดูหนังฟรี
ทุกคน เนี่ย! เรารู้สึกว่ามันน่ารักมากเลย ถือว่าสอบผ่านเลยนะ เพราะเขาสามารถสื่อสารออกมาให้เรารู้สึกเพลิดเพลินและคล้อยตามไปตามเนื้อเรื่องได้ ดูแล้วฮีลลิ่งตัวเองได้จริง ๆ ด้วยความที่เราได้เห็นภาพเหล่าเซลล์คอยเอาใจช่วยยูมิ มันเลยทำให้เราฉุกคิดได้ว่า เอ้อ!
มันก็ยังมีร่างกายแหละวะที่คอยรักคอยอยู่เคียงข้างเราตลอด แล้วเราจะไม่รักตัวเองเลยหน่อยเหรอ ในส่วนของนักแสดงก็แสดงกันได้ดีมาก ๆ ดูแล้วอินไปกับชีวิตความรักของยูมิเลยค่ะ อินถึงขนาดเชียร์สุดชีวิต ทำอย่างกับเราเป็นหนึ่งในเซลล์สมองของยูมิไปแล้วอ่ะ ใครหลงเข้ามาดูแล้วเป็นแบบเรามั่งมาพูดคุยกันได้นะ อิอิ ส่วนใครที่กำลังจะไปตามดู
เพราะถูกบทความนี้ตกเข้าให้ ก็อยากจะขอให้ทำใจก่อนกดเข้าไปดูนะ เพราะว่าจะถูกความน่ารักนุ้บนั้บของซีรีส์เรื่องนี้ตกจนไปไหนไม่เป็น แล้วก็อย่าลืมเกียมทิชชู่ไว้นะคะสำหรับใครที่ใจบาง ท้ายเรื่องแอบน้ำตาซึมนิดนึง ไม่มาก ๆ เราการันตีได้ ฮือ ๆ ก่อนที่จะเข้าเรื่องต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้ ได้รับความสนใจตั้งแต่ก่อนที่จะผลิตเป็นซีรีส์ เพราะว่า Yumi’s Cells เป็นผลงานเว็บตูนที่ได้รับความรักอย่างล้นหลามจากแฟน ๆ เว็บตูนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งแฟน ๆ เว็บตูนชาวไทยรู้จักเรื่องนี้ในชื่อ ‘ยูมิกับ
เซลล์สมองสุดอลเวง’ ที่มียอดอ่านสะสมสูงถึง 3.2 พันล้านครั้ง ตอนที่ประกาศว่าจะทำ ตัวผู้เขียนเองสารภาพว่านึกไม่ออกเลยว่าเขาจะทำเรื่องนี้เป็นซีรีส์ออกมายังไง แต่พอได้ดูตอนออนแอร์ก็ถึงกับว้าวในเทคนิคที่เขาผสมผสานความเป็น Live-Action เข้ากับ Animation ได้อย่างลงตัว
และเป็นครั้งแรกของซีรีส์เกาหลีที่นำเสนอในรูปแบบนี้ด้วย ว่าด้วยตัวเรื่อง ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวชีวิตในแต่ละวัน ของ สาวออฟฟิศธรรมดา ๆ อายุ 32 ปีคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ‘คิมยูมี’ (รับบทโดย คิมโกอึน) ที่เธอใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาเป็นเวลากว่า 4 ปี และไม่มีแฟน หลังจากที่เจ็บปวดกับความรักครั้งล่าสุด เมื่อ 3 ปี
ก่อน อ่านมาถึงจุดนี้หลายคนอาจจะมองว่าธรรมดาใช่ไหมคะ แต่บอกเลยว่า ความที่ดูเหมือนจะธรรมดานี้ถูกถ่ายทอดออกมาให้ไม่ธรรมดา ด้วยการเล่าผ่าน ‘เซลล์’ ในสมองของยูมี ที่มีมากมายหลากหลายหน้าที่ด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น เซลล์เหตุผลเซลล์อารมณ์ เซลล์ความหิว เซลล์แฟชั่น เซลล์ลามก เซลล์กังวล ตลอดจน เซลล์ความรัก ซึ่งแต่ละเซลล์ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะช่วยให้ยูมีใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
รีวิว Yumi s Cells (2021)
โดยในซีรีส์เล่าว่า คนเราทุกคนต่างมีเซลล์มากมายอยู่ในตัว แต่ว่าแต่ละคนจะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ไพรม์เซลล์’ (Prime Cell) แปลง่าย ๆ ว่าเป็นเซลล์ที่เป็นหลักของคน ๆ นั้น และมีอิทธิพลเหนือเซลล์อื่น ๆ ซึ่งไพรม์เซลล์ของยูมี คือ ‘เซลล์ความรัก’ แต่ทว่าเซลล์ความรักของยูมี กลับตกอยู่ในอาการโคม่าไปตั้งแต่ที่เจ็บปวดจากความรักเมื่อ 3 ปีก่อน จนกระทั่งล่าสุด เซลล์ความรักก็ได้ฟื้นขึ้นมา จากความรู้สึกดี ๆ ที่เริ่มมีต่อหนุ่มรุ่นน้องในบริษัท อย่าง อูกี (รับบทโดย มินโฮ SHINee) ดังนั้นหนึ่งในความ
ปรารถนาของเหล่าบรรดาเซลล์ในตัวเธอ คือ การได้เห็นยูมีกลับมามีความรักอีกครั้ง และเอาใจช่วยไปกับความรักของเธอ จนกระทั่ง ยูมี ได้พบกับ กูอุง (รับบทโดย อันโบฮยอน) หนุ่มนักพัฒนาเกมที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง ดูเหมือนว่า ‘ความรัก’ ได้กลับมาเยือนชีวิตของเธออีกครั้งแล้วจริง ๆ รีวิวหนัง
ด้วยความที่ว่าซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงเรื่องราวมาจากเว็บตูนต้นฉบับ ก็เลยทำให้หลายคนรู้ว่ายังจะมีอีกตัวละครหนึ่งที่กำลังจะปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตของยูมี เขาคนนั้น คือ ยูบาบี (รับบทโดย จินยอง GOT7) หนุ่มจากฝ่ายการตลาด ต้องมาลุ้นเอาใจช่วยกับความรักของยูมีว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
และรอดูว่าเซลล์ต่าง ๆ ในสมองของเธอจะตอบสนองอย่างไร ต้องขอชื่นชมการดำเนินเรื่องของเรื่องนี้มาก ๆ ที่สามารถพาคนดูเพลินเพลินไปกับโลกของยูมี และทำให้คนดูรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับบรรดาน้องเซลล์มากมายที่พยายามที่จะทำเพื่อยูมี แถมคาแรคเตอร์ของเซลล์แต่ละตัวก็มีความนุบนิบ น่ารัก น่าเอ็นดู
และเรื่องราวชีวิตของตัวละครสามารถผูกโยงเข้ากับแต่ละเซลล์ โดยที่รู้สึกว่าคนเล่าเรื่องช่างครีเอทความสัมพันธ์ได้เก่งมาก ทำให้ดูแล้วรู้สึกเพลินใจไปหมด ยกตัวอย่าง เช่น ฉากที่ยูมีพยายามจะควบคุมสีหน้าของตัวเอง ก็จะให้เห็นว่าเซลล์ภายในตัวยูมี
พยายามที่จะรั้งคันโยกสีหน้าเอาไว้ให้เธอยังคงยิ้มอยู่ หรือว่า ฉากที่ยูมีทำงานอยู่แล้วเกิดอาการหิว เซลล์หิวในตัวเธอก็ร้องโวยวายและ ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หรือแม้กระทั่งยูมีท้องร้อง มาจากการที่เจ้าเซลล์หิวเป่าขลุ่ยกระเพาะ มันเป็นอะไรที่น่ารักเอามาก ๆ