รีวิว The Lost City

หากพูดถึงหนังผจญภัยในตำนานทั้ง ‘Indiana Jones’ หรือ ‘National Treasure’ ที่ยังคงมีโครงการสร้างภาคต่อไม่หยุดหย่อนหรือกระทั่ง ‘Romancing the stone’ ที่เป็นการเอา ‘Indiana Jones’ ไปยำรวมกับพลอตหนังโรแมนติกแบบสครูว์บอลคอมเมดี้ สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตได้ทันทีคือบทบาทฮีโรของหนัง เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี

 

มักไปตกอยู่ที่ผู้ชายเป็นใหญ่แต่กับ ‘The Lost City’ ที่เราจะรีวิวกันกลับเลือกตะแคงข้างตีลังกามอบหน้าที่ความแสนงอนและอาหารตาให้ผู้ชายแทนจนผลลัพธ์ออกมายิ่งกว่าน่าพอใจทั้งในความเป็นหนังผจญภัยยุคใหม่และความบันเทิงแบบหนังตลก ผจญภัยตรงปกสักเรื่องจะมอบให้คนดูได้

 

ลอเรตตา (รับบทโดย แซนดรา บูลล็อก Sandra Bullock) นักเขียนนิยายผจญภัยอีโรติกเพ้อฝันที่กำลังหมดไฟเพราะเธอทำใจกับการสูญเสียสามีสุดที่รักไปไม่ได้และแม้ในที่สุดเธอจะเข็นนิยายเล่มล่าสุดอย่าง ‘The Lost City of D’ แต่เธอก็ไม่ได้ภูมิใจ กับมันนักและยิ่งในงานเปิดตัวหนังสือเธอจำต้องร่วมงานกับ

 

รีวิว The Lost City

 

อดัม (รับบทโดย แชนนิง เททัม Channing Tatum) นายแบบปกนิยายของเธอที่มักโชว์ถอดเสื้อแย่งซีนตามคำเรียกร้องของแฟน ๆแต่คราวนี้ผลลัพธ์กลับพังไม่เป็นท่า มิหนำซ้ำเธอยังถูกเอบิเกล แฟร์แฟ็กซ์ (รับบทโดยแดเนียล แรดคลิฟ Daniel Radcliffe) ลักพาตัวไปเพื่อหวังขุมทรัพย์ในป่าลึก ด้วยความรู้สึกผิดปนอารมณ์โรแมนติกที่แอบมีใจให้ลอเรตตา นายแบบที่เคยถูกตราหน้า

 

ว่าขายภาพอย่าง อดัม เลยต้องตามไปปฏิบัติการช่วยเหลือนักเขียนสาวพร้อมความช่วยเหลือจากแจ็ก เทรนเนอร์ (รับบทโดย แบรด พิตต์ Brad Pitt) เทรนเนอร์สุดเก๋าที่เคยสอนเขานั่งสมาธิ !นอกจากเรื่องราวที่ได้ เซ็ธ กอร์ดอน (Seth Gordon) จากหนัง ‘Baywatch’ และ ‘Horrible Boses’ มาวางโครงเรื่องให้แล้ว การได้ แอรอนและอดัม นีส์ (Aaron and Adam Nees) หรือพี่น้องนีส์จาก ‘The Last Romantic’ และ ‘Band of Robbers’

 

หนังโรแมนติกและตลกอาชญากรรมมาเขียนบทและกำกับหนังก็ทำให้ ‘The Lost City’ ครบเครื่องเรื่องราวการผจญภัยปนโรแมนติกตามพิมพ์เขียวหลักอย่าง ‘Romancing the Stone’ ที่หนังแอบคารวะอะไรหลาย ๆ อย่างอยู่ตลอดทางแต่กระนั้นหัวใจหลักของเรื่องอย่างลอเรตตาซึ่งในทีมเขียนบทเองก็ได้ ดานา ฟ็อกซ์ (Dana Fox) จาก ‘Cruella’ มาเติมฮอร์โมนความโรแมนติกในหนังไปพร้อม ๆ กับฉากผจญภัยปนฮาปวดตับที่ได้ โอเรน อูซีล (Oren Uziel) จาก ’22 Jump

 

รีวิว The Lost City

 

Street’ มารังสรรค์ฉากวินาศสันตะโรให้สะใจคอหนังแอ็กชันเลยทำให้ ‘The Lost City’ สามารถสร้างสมดุลระหว่างตัวละครหญิง ความโรแมนติกและฉากแอ็กชันปนห่ามฮาได้บันเทิงครบรสจริง ๆและส่วนที่จะขาดไม่ได้เลยคือนักแสดงนำอย่างแม่แสงดาว บุญล้อม หรือ แซนดรา บูลล็อกที่สร้างเสน่ห์และเสียงฮาให้ตัวละครลอเรตตาได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าบทหนังจะเขียนมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะมุกตลกต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหลักของ

 

เรื่องอย่างการตามหาการผจญภัยที่ขาดหายและรักอดีตที่เป็นตัวขับเคลื่อนตัวละครนี้ให้ออกไปผจญภัยอีกครั้ง แต่บูลล็อกก็ยังทำให้คาแรกเตอร์ของลอเรตตามีมิติและช่วยให้ช่วงเปลี่ยนผ่านที่เธอเริ่มมีใจให้อดัมดูน่าเชื่อถือและตกเราให้รักเธอในวัย 58 ปีกันอีกครั้งจนได้แม้แต่แชนนิง เททัมเองก็ยังสามารถทำให้ตัวละครอดัมเป็นมากกว่าแค่อาหารตาของสาว ๆ และแม้ว่าในหนังเขาจะต้องโชว์เซ็กซี่อยู่ไม่น้อยแต่เป็นแววตาและจังหวะมุกตลกต่าง ๆ ที่เททัมพัฒนาฝีมือมาไกลมากจนทำให้อดัมน่าจะกลายเป็นตัวละครชายที่

 

รีวิว The Lost City

 

ถูกสวมบทประหนึ่งนางเอกในหนังผจญภัยยุคนี้ที่ถูกย้ายขั้วปมการโดนดูถูกว่าหล่อแต่ไม่มีสมองและพิสูจน์ตัวเองให้ลอเรตตาและคนดูได้เห็นว่าเขาก็เป็นพระเอกได้เมื่อคนรักถูกรังแก และแน่นอนว่าเราจะขาดตัวสีสันอย่างแดเนียล แรดคลิฟฟ์ ไปไม่ได้โดยพ่อหนุ่มอดีตแฮรี พอตเตอร์ของเราก็สวมบทแอบิเกล แฟร์แฟ็กซ์ได้อย่างโรคจิตปนติงต๊องสร้างเสียงหัวเราะให้คนดูได้อย่างไม่เกรงใจขาใหญ่อย่างป้าแสงดาวเลย ส่วนอีกตัวขโมยซีน

เรื่องย่อ รีวิว The Lost City

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือแบรด พิตต์ที่หนังเอามา “เซอร์ไพร์ส” คนดูได้สุดลิ่มทิ่มประตูมาก ๆ คือนอกจากเซอร์ไพร์สในหนังไม่พอ มีเซอร์ไพร์สต่อหลังหนังจบอีก แต่เราพูดอะไรมากไม่ได้ให้ไปดูกันเอาเอง และคนที่ไม่อยากให้มองข้ามคือ ดาไวน์ จอยแรนดอล์ฟ (Da’Vine Joy Randolph) ที่มารับบทเบธ ผู้จัดการของลอเรตตาที่เชื่อว่าใครได้ดูหนังก็ต้องรักในความห่ามฮาปนน่ารักของเธอแน่นอน หนังฟรี หนังใหม่

 

หนัง The Lost City หรือชื่อไทยว่า ผจญภัยนครสาบสูญ The Lost City ผจญภัยนครสาบสูญ เข้าฉายไทย 21 เมษายน ในโรงภาพยนตร์ ลอเร็ตตา เสจ (แซนดรา บุลล็อก) คือนักเขียนผู้เก่งกาจ แต่รักสันโดษ เธอได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับสถานที่แปลก ประหลาดในนิยายรักผจญภัยยอดนิยมของเธอ โดยมี อลัน (แชนนิง เททัม) มาเป็นนายแบบหน้าปกสุดหล่อ และทุ่มเทชีวิตเต็มที่ในการปรากฏตัวเป็น “แดช” ฮีโร่จากนิยาย ลอเร็ตตาและอลันออกทัวร์โปรโมตหนังสือเล่มใหม่ร่วมกัน และพวกเขาทั้งคู่

 

 

ถูกลักพาตัวโดยมหาเศรษฐีสุดประหลาด (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) ผู้ซึ่งหวังว่าเธอจะสามารถนำเขาไปสู่การพบสมบัติในเมืองโบราณที่สาบสูญในนิยายเรื่องล่าสุดของเธอ อลันต้องการพิสูจน์ว่าเขาสามารถเป็นฮีโร่ได้ในชีวิตจริงและไม่ใช่แค่ในหนังสือเท่านั้น เขาจึงออกเดินทางไปเพื่อช่วยเหลือเธอ เมื่อเข้าสู่การผจญภัยในป่าใหญ่ ชายหญิงต่างขั้วจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ต่างๆ และค้นหาสมบัติโบราณก่อนที่มันจะสูญหายไปตลอดกาล

 

เรื่องราวของ Loretta (รับบทโดย Sandra Bullock) นักเขียนนวนิยายชื่อดัง นิยายของเธอเป็นแนวโรแมนติก-ผจญภัย เธอเป็นคนรักสันโดษ เก็บตัวเขียนนิยายอยู่แต่ในห้อง อดีตนิยายของเธอขายดิบขายดีมีภาคต่อมาหลายเล่ม แต่ปัจจุบันความนิยมของนิยายเธอเริ่มลดลง และเธอก็คิดไอเดียใหม่ๆไม่ค่อยออก ซึ่งนิยายของเธอนั้นมีนายแบบสุดหล่อขาประจำอย่าง Alan (รับบทโดย Channing Tatum) ที่เป็นนายแบบขึ้นปกให้นิยายของเธอมาตลอด โดย Loretta และ Alan ได้ไปออกงานโปรโมต

 

 

หนังสือเล่มใหม่ด้วยกัน และหลังจากจบงาน จู่ๆ Loretta ก็ถูกจับตัวไปพบกับมหาเศรษฐีสุดเพี้ยนอย่าง Abigail Fairfax (รับบทโดย Daniel Radcliffe) เขาได้พบกับเมืองลึกลับที่อยุ่ในนิยายของ Loretta ซึ่งการจะหาสมบัติพบนั้นต้องแปลภาษาโบราณ และบังเอิญว่า Loretta เป็นเพียงคนเดียวในโลกที่อ่านภาษาโบราณนั่นออก เพราะอดีตสามีเธอเป็นนักโบราณคดีและได้สอนเธอมา จากนั้นเมื่อ Alan ได้รู้ว่า Loretta ถูกจับตัวไป เขาจึงตัดสินใจจะไปช่วยเธอกลับมา เพราะจริงๆแล้วเขาแอบ

 

ชอบเธอมาตลอด โดยเขาได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจาก Jack Trainer (รับบทโดย Brad Pitt) อดีตทหารหน่วยพิเศษ จากนั้น Alan และ Jack ก็ได้ออกเดินทางไปช่วย Loretta สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร พวกเขาจะช่วย Loretta กลับมาได้สำเร็จหรือไม่ และขุมทรัพย์ที่ Abigail ตามหามีอยู่จริงหรือไม่นั้น

 

 

ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง The Lost City ผจญภัยนครสาบสูญ วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ มาเริ่มกันที่เรื่องบทและการดำเนินเรื่องกันก่อนดีกว่า ในส่วนของบทถือว่าออกมาดีใช้ได้เลย ผมค่อนข้างชอบ แม้ว่าเรื่องราวจะไม่ได้แปลกใหม่มาก แต่การนำเสนอที่ออกมานั้นน่าสนใจและมีเอกลักษณ์พอสมควร ส่วนตัวผมชอบช่วงต้นเรื่องมากๆ ทั้งตลก

รีวิว The Lost City

ทั้งปั่น และดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะแบ่งบทค่อนข้างเป็นสัดส่วน ช่วงแรกของเรื่องคือการเกริ่นนำ ผสมกับการปล่อยมุขฮาๆ มาให้ผู้ชมได้อมยิ้มกันแบบไม่ขาดสาย พอมาช่วงกลางเรื่องคือการผจญภัย ที่เจอแต่เรื่องวายป่วง เพราะตัวละครหลักไม่ใช่พวกสายบู้สายลุยขึ้นเทพ เหมือนหนังผจญภัยทั่วไป แต่ตัวหลักเป็นแค่คนธรรมดา ที่ดันซวยต้องมาผจญภัย มันเลยทำให้มีแต่เรื่องตลกๆ และความวุ่นวายสุดฮาให้เราได้หัวเราะทั้งเรื่อง พอมาส่วนที่สามหรือท้ายเรื่อง มุขตลกก็ดูจะน้อยลง และไปเน้นที่ความสัมพันธ์ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

 

ของตัวละคร และความโรแมนติก เลยทำให้บทออกมาแบบครบรส และกลมกล่อม ต่อมาด้านการดำเนินเรื่องส่วนนี้ผมไม่มีอะไรจะติเลย เล่าเรื่องได้ดีและน่าติดตาม เข้าใจง่าย ไม่เล่ายืดเยื้อ ไม่มีส่วนไหนน่าเบื่อเลย สนุกมากๆ และด้วยบทที่เขียนมาดี กับนักแสดงที่เอาอยู่ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์และดูได้เพลินๆ รู้ตัวอีกทีหนังจบซะแล้ว ถือว่าทำได้ดีมากๆในส่วนนี้

 

 

ในส่วนนี้นี่ทำออกมาได้ดีมากๆ แค่รายชื่อนักแสดงแต่ละคนก็พอรับประกันได้แล้ว ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทุกคนแสดงได้ดีจริงๆ และฮาแตกมากๆ เนื่องจากด้วยหนังเรื่องนี้เน้นความฮา คอมเมดี้ นักแสดงจึงไม่ได้ถ่ายทอดอารมณ์อะไรมากมาย แต่

ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะง่าย เพราะการแสดงให้ตลกได้นั้น มันก็ยากเหมือนกัน ซึ่งตัวละครหลักอย่าง Loretta ที่รับบทโดย Sandra Bullock และ Alan ที่รับบทโดย Channing Tatum เป็นคู่หูที่โคตรฮา และเคมีเข้าขากันอย่างไม่น่าเชื่อ นักแสดงทั้งสองแสดง

 

 

ได้ดีมาก และด้วยบทที่เขียนมาดี มันยิ่งช่วยส่งให้ฮาเข้าไปใหญ่ ตอนผมนั่งดูนี่คนในโรงขำกันดังมาก โดยเฉพาะฉากตอนที่ Jack Trainer (รับบทโดย Brad Pitt) ไปช่วย Loretta นี่ฮาจริง ผมชอบฉากนี้มากที่สุดเลย ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็

เล่นได้ดีหมดทุกคนเลย ต่อมาเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม สำหรับผมถือว่าทำออกมาได้ดีใช้ได้เหมือนกัน แม้ไม่ได้ถึงกับดีมาก แต่ก็ดีอยู่ในระดับมาตรฐานทั่วไป เพราะหนังเน้นเอาฮา และชุดเดรสสีม่วงระยิบระยับของเจ๊ Sandra Bullock ก็เตะตาซะเหลือเกิน ชอบมากๆ รีวิวหนังรัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *