รีวิว The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไป
ได้ยินข่าวร่ำลือว่าเป็นหนังญี่ปุ่นที่สร้างรายได้สูงในบ้านตัวเอง ทั้งยังเป็นผลงานเรื่องล่าของนางเอกสาวแสนสวย นานะ โคมัตสึ ที่ร่วมเล่นกับพระเอกสุดฮอตอย่าง เคนทาโร่ ซาคากุจิ งานนี้ ถือว่าไม่ควรพลาดหนังอย่าง ‘The last 10 Years’ ที่มีชื่อไทยว่า ‘สุดท้ายและตลอดไป’ เป็นอย่างยิ่ง เมื่อหนังเข้าฉายในโรง เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี
ยังไงก็ต้องไปดูในโรงสิครับ หลังจากสร้างปรากฏการณ์ภาพยนตร์รักแห่งปีที่สร้างปรากฏการณ์น้ำตาท่วมโรงจนทำรายได้ทะลุ 2.8 พันล้านเยน สร้างสถิติภาพยนตร์คนแสดงทำรายได้สูงสุดในปีนี้ของญี่ปุ่น วันนี้ ก็ถึงเวลาที่จะมาสร้างปรากฏการณ์เช่นนั้นในบ้านเราบ้างแล้ว
หนังเรื่องนี้ เป็นผลงานการกำกับของ Michihito Fujii/มิชิฮิโตะ ฟูจิอิ ผู้กำกับรางวัลออสการ์ญี่ปุ่น ครั้งที่ 43 จากภาพยนตร์เรื่อง ‘The Journalist’ ถ้าใครอยากดูผลงานของเขาในเน็ตฟลิกซ์ เท่าที่พบก็มีภาพยนตร์เกี่ยวกับครอบครัวยากูซ่าอย่าง ‘A Family’, ซีรีส์เรื่อง ‘The Journalist’ และหนังแอนิเมชัน ‘Ghost in the Shell: SAC_2045 Sustainable War’ ลองไปดูกันสิครับ
มัตสึริ ทาคาบายาชิ (Nana Komatsu/นานะ โคมัตสึ จากหนังเรื่อง ‘Kids on the Slope’, ‘The World of Kanako’ และ ‘Farewell Song’) คือหญิงสาวที่ตอนอายุได้ 20 ปี เธอรู้ตัวว่าเป็นโรคร้ายที่ไม่มีหนทางรักษา พบเพียงหนึ่งในหลายหมื่นคนและหมอวินิจฉัยว่าตามสถิติแล้วคนที่ป่วยด้วยสาเหตุนี้จะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 10 ปี ทำให้เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า ชีวิตนี้เธอไม่ขอมีความรักอีก เพื่อจะได้ไม่ต้องยึดติดกับการมีชีวิตอยู่
แต่เพราะงานเลี้ยงรุ่นครั้งนั้น ทำให้เธอได้กลับมาพบกับ คาซึโตะ มานาเบะ (Kentaro Sakaguchi/เคนทาโร่ ซาคากุจิ จากหนังเรื่อง ‘Tonight at Romance Theatre’, ‘Brave Father Online’ และ ‘The 100th Love with You’) เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งที่เธอเองก็จำเขาไม่ได้ เขาเป็นชายหนุ่มผู้สับสนในชีวิตหมดเสียแรงจูงใจในการมีชีวิตอยู่ เพราะงานเลี้ยงรุ่นเนี่ยแหละที่ทำให้ชายหญิงต่างความคิดได้มาพบกัน…อีกครั้ง
เธอได้รับรู้ถึงความโศกเศร้าในใจของคาซึโตะ กำลังใจที่เธอส่งให้ทำให้เขาทั้งเกิดความประทับใจและเริ่มเปลี่ยนแปลงวิถีความคิด นับวัน ทั้งสองคนนี้ก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น ‘ชีวิต’ ประจำวันที่แสนธรรมดา ก็กลับมา ‘มีชีวิตชีวา’ อีกครั้ง แต่ในความสัมพันธ์นี้มีความลับซ่อนอยู่มันคือเรื่องราวจริงที่ถูกเรียงร้อยเป็นหนังสือ Ruka Kosaka ผู้เขียน ‘余命10年’ และเป็น Yoshikazu Okada และ Mako Watanabe ที่นำหนังสือมาสร้างเป็นบทหนังให้ Michihito Fujii เป็นคนกำกับ
หนังเรื่องนี้ว่าด้วย ชีวิตของคนสองคนที่เจออุปสรรคในชีวิตและรับมือกับมันคนละอย่าง แต่ต้องมาใกล้ชิดและเป็นแรงใจให้แก่กัน หนึ่งคือ มัตสึริ สาวสวยผู้เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาและอยู่ได้ไม่เกิน 10 ปี เธอจึงไม่คิดจะมีความรักอีก กับอีกหนึ่งคือ คาซึโตะ ชายหนุ่มที่หมดอาลัยตายอยาก ไม่เหลือแรงใจให้คิดอยู่ต่อ จนในที่สุด เขาก็ตัดสินใจทำร้ายตัวเองและเข้าโรงพยาบาล
วันที่มัตสึริมาเยี่ยม คาซึโตะเผลอพูดตัดพ้อว่า “ไม่รู้จะมีชีวิตต่อไปทำไม” เธอพลั้งพูดออกไปว่า “แบบนั้นมันขี้โกงชะมัด” คำพูดนั้นทำให้เขาได้คิด คนบางคน อยากมีชีวิตไปนาน ๆ แต่ไม่อาจทำได้ แล้วคนอย่างเขาที่ไม่ได้เป็นโรคอะไร ทำไมจึงคิดอยากตายล่ะ
การพบเจอกันอีกครั้งและอีกครั้ง ทำให้เธอรู้สึกอยากให้กำลังใจ กำชับบอกเขาไม่ให้คิดถึงเรื่องอยากตาย และเขาก็รับปากว่าจะเปลี่ยนแปลงความคิด กลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ส่วนเธอก็ได้พบสิ่งที่ทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่นั้นมีคุณค่า มีความหมาย และมีความสุข แต่ระหว่างทางเหมือนเธอต้องแลกไปกับอะไรบางอย่าง
มันเป็นความรักที่มองเห็นจุดจบตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว วันหนึ่งในอีกไม่กี่ปี เธอก็ต้องตายจากเขาไปโดยทิ้งให้เขาปวดร้าวอยู่คนเดียว เธอรู้แต่แรกแล้วว่า มันจะเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องเสียใจ เธอจึงหักห้ามใจไม่ให้ไปไกลเกินกว่าเพื่อนแม้รู้ว่าคงทำไมไหว แต่ก็พยายามมากเหลือเกินที่จะทำให้อีกไม่ต้องเสียใจ เฝ้าแต่โกหกปิดบังความจริงเพื่อกดเก็บความเศร้าโศกเสียใจไว้กับตัว เพื่อไม่ให้เขาต้องเศร้าไปด้วย
เรื่องย่อ รีวิว The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไป
ครึ่งหนึ่ง เรื่องราวในนั้นดูจะสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้คน ยังมีอะไรในโลกนี้ที่ทำให้เรามีความสุข รู้สึกสนุกไปกับมันได้ เพียงปรับเปลี่ยนมุมมองหรือหาแรงกระตุ้นนั้นให้พบ แต่อีกครึ่งหนึ่ง มันคือความเศร้าสะเทือนใจที่ได้มองเห็นความสัมพันธ์ที่สิ้นสุดอย่างรวดเร็ว และเหลือทิ้งไว้เพียงความทรงจำ หนังฟรี หนังใหม่
มันเป็นหนังที่ต้องยอมรับว่าเสียน้ำตาไปให้อย่างมากมาย มันอาจเริ่มต้นในฉากใดฉากหนึ่ง แล้วหลังจากนั้น ทุกฉากก็ล้วนแล้วแต่พาน้ำตาให้เอ่อออกมาได้ตลอด บางฉากอาจถึงขั้นฟูมฟายเลยด้วยซ้ำ สำหรับคนที่อ่อนไหว หรือคนที่อยากร้องไห้ นี่คือแรงผลักดันชั้นดี หนังไม่ได้บิ๊วหรือบีบเค้น แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาพร้อมจะทำให้สะเทือนใจได้ทุกเมื่อ ร้องกันจนน้ำตาเปียกแมสก์ นอกเหนือจากเรื่องราวที่ชวนเศร้าสะเทือนใจแล้ว งานด้านอื่น ๆ ของหนังก็นับว่าดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นงานภาพที่จัดองค์ประกอบได้ยอดเยี่ยม มองเห็นความรู้สึกแปลกแยกของตัวละครอย่างมัตสึริได้ดี เธอเป็นคนที่รู้ตัวว่าเหลือเวลาอีกไม่นาน
เธอจึงได้แต่ใช้เวลาเฝ้ามองทุกชีวิตรอบตัวอย่างรู้สึกเสียดาย ภาพมุมกว้างที่เธอเป็นแค่คนยืนดู นอกจากนี้ ในหนังก็ยังมีฉากซากุระบานอยู่เยอะมาก สร้างความรู้สึกอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งขึ้นมาในทันทีดนตรีประกอบก็ดีและสำคัญไม่น้อย ใช้สกอร์ที่เรียบเรียงจากเสียงเปียโนเป็นหลัก เคล้าคลอด้วยเสียงเครื่องสาย ส่งเสริมอารมณ์ของตัวละคร ส่งต่อมาถึงคนดู น้ำตาจึงเอ่อไหลได้ทุกช่วงทุกฉาก
ด้านการแสดงของสองตัวนำก็เช่นกัน สื่อสารได้ดีทั้งสายตาและน้ำเสียง ขณะที่นักแสดงประกอบก็เลือกคนได้ถูก ผมชื่นชอบการแสดงของ Lily Franky (จากหนังเรื่อง ‘Bakuman’, ‘Shoplifters’ และซีรีส์เรื่อง ‘The Naked Director’) มาแต่ไหนแต่ไร เรื่องนี้ เขาได้รับบทเจ้าของร้านเหล้าที่คาซึโตะขอเป็นผู้ช่วย เป็นชายผู้ทำให้คาซึโตะเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา และทำให้เขามองเห็นว่าชีวิตจะดำเนินไปยังไงต่อ แม้ไม่รู้ว่าอีกไม่นานมัตสึริจะไม่อยู่เห็นชีวิตที่เหลือของเขา
การรู้ตัวว่าจะต้องตายในอีกไม่ช้าไม่นาน ทำให้มัตสึริเลือกจะไม่รักใครเพราะไม่อยากให้คนที่ยังอยู่ต้องปวดร้าว แต่ในเมื่อไม่อาจรั้งความรู้สึกของตนเอาไว้ได้ เธอก็เลือกจะเก็บน้ำตาและความเสียใจไว้เพียงคนเดียว สะเทือนใจคนอ่อนไหวอย่างนายแพทยิ่งนัก
มันอาจเป็นเรื่องความรัก แต่ ‘The last 10 Years’ เป็นหนังดราม่าของสองชีวิต หนังทั้งอบอุ่นและโศกเศร้า น้ำตาร่วงหล่นตลอดทาง เป็นจริงอย่างที่เธอพูดเลยแหละ “ฉันไม่รู้ควรจะสงสารใครดี” ทั้งคนในครอบครัวที่พยายามยื้อทุกหนทางเพื่อทำให้เธอได้อยู่ต่อแม้จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทั้งตัวเธอพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องรู้สึก “ไม่อยากจากโลกนี้ไป” แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
The Last 10 Years – สุดท้ายและตลอดไป คือหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายที่สร้างมาจากเรื่องจริงของ รุกะ โคซากะ เกี่ยวกับหญิงสาวที่พบว่าตัวเองเป็นโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษา เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 10 ปี จนเธอได้มาพบกับเพื่อนเก่า ชายผู้หมดกำลังใจในการใช้ชีวิตจนอยากฆ่าตัวตาย ทั้งเขาและเธอกลายเป็นแรงใจ กำลังใจ ให้กันและกันจนอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป สิ่งแรกที่น่าชื่นชมคือการถ่ายทำ เพราะหนังเรื่องนี้ใช้เวลา 1 ปีเต็มในการถ่ายทำกันเลยทีเดียว เพราะทีมงานอยากเก็บบรรยากาศทั้ง 4 ฤดูกาลเพื่อถ่ายทอดวันเวลาที่สองพระ-นางได้อาศัยอยู่ด้วยกัน เราจะได้เห็นทั้งดอกซากุระบานอย่างงดาม
รีวิว The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไป
งานเทศกาลหน้าร้อน ใบไม้สีส้มที่ร่วงโปรยปราย และหิมะตก ที่แต่ละฤดูถูกบอกเล่าผ่านเรื่องราว สื่อสารห้วงอารมณ์ผ่านสีและแสงในแต่ละฤดูได้อย่างดี ผ่านงานภาพที่งดงามทางด้านของเนื้อเรื่อง มันจะมีความเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ตามสไตล์หนังญี่ปุ่น แน่นอนว่าหลายจุดใช้คำว่าน่าเบื่อได้เลย และมีเรื่องราวบางอย่างที่ยังรู้สึกว่ามันยังไม่กลมกล่อมสักเท่าไหร่ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นมันถูกร้อยเรียงมาอย่างวิเศษ มันทำให้เราได้
เข้าใจ เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ของตัวละครได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ได้เห็นช่วงเวลาทั้งสุข ทั้งเศร้่า แบบไม่เร่งเร้า เลยทำให้เราผูกพันกับสองตัวละครอย่างไม่รู้ตัวแน่นอนว่าหนังเรื่องราวความรักในข้อจำกัดของเวลามีมามากมายหลายเรื่อง และมักจะเรียกน้ำตาได้อยู่เสมอ และเช่นกันว่าเรื่องนี้ก็เรียกน้ำตาได้แต่มันไม่มากเท่าที่คาดหวัง อาจเพราะตัวหนังมันเหมือนบอกกับเราอยู่แล้วว่าปลายทางมันจะเป็นยังไง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
มันจึงตกไปว่าระหว่างทางมันจะทำงานส่งอารมณ์ให้กับเราได้มากน้อยแค่ไหน และมันก็ทำได้ไม่ถึงกับไหลพรากตับแตกสะอื้นขนาดนั้น แค่ทำให้พอน้ำตาซึม ๆ คลอเบ้าได้บ้าง และฉากที่เราอินจนน้ำตาคลอกับมันมากที่สุดกลับไม่ใช่ความสัมพันธ์ของพระ-นาง แต่กลับเป็นความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกกับครอบครัวต่างหาก จนเรารู้สึกแบบเดียวกับที่ตัวนางเอกพูดเอาไว้เลยว่า “ไม่รู้ว่าควรจะสงสารใครดี”
การแสดงของนานะ โคมัตสึ และ เคนทาโร่ ซาคากุจิ เคมีเข้ากันได้เป็นอย่างดี เชื่อในการกระทำ ความรู้สึก การแสดงของทั้งสองจริง ๆ โดยเฉพาะ นานะ ที่ทำได้ดีมาก ๆ และต้องบอกว่าเธอสวยน่ารักแบบสุด ๆ บทจะยิ้มก็พาเรายิ้มตามได้อย่างง่ายดาย
บทดราม่าก็ทำให้เรารู้สึกสงสารเห็นอกเห็นใจแบบสุด ๆ ส่วนนักแสดงสมทบอื่น ๆ ก็ทำได้ดีมาก ๆ ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญกับเรื่องราวทั้งสิ้นและที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเพลงประกอบ ที่ได้วง RADWIMPS มาทำเพลงประกอบให้ กับเพลง Mr. Phenomenal ที่ยังคงความเพราะตามสไตล์ของวง เสียงร้องเคล้าเสียงเปียโนที่โคตรจะลงคัสและไพเราะสุด ๆ
สรุปแล้ว The Last 10 Years – สุดท้ายและตลอดไป เป็นหนังที่ดูได้แบบเพลิน ๆ สุข ๆ เศร้า ๆ ซึม ๆ เคล้ากันไป ไม่ถึงกับเศร้าตับแตกหรือหน่วงจนซึมเศร้าขนาดนั้น มันค่อนข้างจะเรื่อย ๆ แต่พอดูทั้งเรื่องก็จะเข้าใจความเฉื่อยของหนังเรื่องนี้ หากใครชอบนานะ โคมัตสึ และเคนทาโร่ ซาคากุจิ เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็จะชอบทั้งคู่มากเข้าไปอีกจากการแสดงของพวกเขาที่เข้ากันได้อย่างดี รีวิวหนังรัก