รีวิว THE IN BETWEEN (2022)
หนังรักหวานๆ พระเอกนางเอกเจาะกลุ่มสาววัยรุ่นตรงๆ ให้ชวนเคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องราวแฟนตาซีนิดๆ ติดน้ำเน่ากับฉากรักเยอะ หนังสนุกถ้าคุณเป็นกลุ่มผู้ชมที่ชื่นชอบแนวนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ลองเปิดดูก่อนก็ได้ หนังไม่ได้แย่ แต่อาจจะไม่คลิกกับคุณเท่านั้น เว็บหนัง
The In Between หนังรักวัยรุ่นกึ่งแฟนตาซี ด้วยเรื่องราวความรักและการสูญเสียคนที่รักไปจากอุบัติเหตุ แต่กลับพบว่ามีสัญญาณว่าเขากลับหาเธอในรูปแบบของวิญญาณ ที่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะจิตใจจมทุกข์ไม่ปล่อยวางความรักนี้หรือไม่
หนังของนางเอก Joey King จาก The Kissing Booth 3 ภาคของเน็ตฟลิกซ์ แต่เรื่องนี้ที่จริงไม่ใช่งานสร้างของเน็ตฟลิกซ์ เป็นงานสร้างจาก Paramount+.สตรีมมิ่งน้องใหม่ค่ายพาราเมาท์ และก็ฉายไปตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2022 แต่ด้วยความที่
พาราเมาท์พลัสเองยังใหม่มาก ไม่ได้เปิดตัวทั่วโลก เน็ตฟลิกซ์ก็เลยไปช้อนซื้อมาฉายนอกอเมริกาแยกต่างหาก ซึ่งเสียงรีวิวก่อนนี้ก็อยู่ในเกณฑ์มิกซ์คละกันมีทั้งดีสุดๆ กับแย่ไปเลยจากผู้ชม ก็ต้องบอกว่าด้วยพล็อตกับแนวหนังเรื่องนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็น หนังขายกลุ่มวัยรุ่นหญิงที่เน้นนักแสดงกับฉากหวานๆ ไปในแนวน้ำเน่าโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบแนวเรื่องแบบนี้ก็ผ่านไปได้เลย เว็บดูหนัง
หนังมีพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างหนังคลาสสิคเก่าอย่าง Ghost (1990) วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก ค่อนข้างมาก พล็อตว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาววัยรุ่นที่ประสบอุบัติเหตุพร้อมกับแฟนหนุ่ม เธอรอดมาได้แต่เขาเสียชีวิต ด้วยความโหยหาคนรักที่ตายไป ทำให้เธอเริ่มซึมเศร้าอมทุกข์ ก่อนที่จะมีสัญญาณบางอย่างแสดงให้เห็นว่าแฟนของเธออาจจะกลับมาในรูปแบบของวิญญาณ ที่พยายามบอกอะไรเธอบางอย่าง แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเป็นจิตปรุงแต่งจากอาการซึมเศร้าของเธอหรือไม่
ซึ่งพล็อตเรื่องแบบนี้ของ Ghost จะเป็นแนวรักแบบแฟนตาซีเต็มตัว มีผีพี่เลี้ยงมาสอนแฟนให้ใช้พลังของผีกลับมาหาคนรักได้ เรื่องราวในโกสจะเป็นมุมมองของคนที่ตายไปพยายามกลับมามากกว่ามุมมองจากคนที่รอดอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ก็เหมือนกลับกัน บท
จะโฟกัสที่ตัวนางเอกที่รอดมากกว่า ว่าสิ่งที่เธอเชื่อว่าวิญญาณของแฟนติดต่อมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยมีผู้ช่วยทางวิญญาณเป็นคนไข้ที่เคยโคม่ามาชี้นำเธอแทน ซึ่งเรื่องจะดำเนินไปแบบทำให้คนดูเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าเรื่องดูแฟนตาซีก็จริง แต่ก็อาจจะหักมุมในตอนจบแบบเศร้าๆ เลยก็ได้ เพราะตัวเรื่องเองทั้งพระเอกนางเอกก็เป็นคนชอบดูหนังรัก นางเอกเชื่อว่าเรื่องราวความรักมักจะจบลงด้วยความเศร้าเสมอ โดยจุดนี้มีการอิงกับปมชีวิตที่ผ่านมาของนางเอกตั้งแต่เด็ก ซึ่งเรื่องราวจะมีแฟลชแบ็ค เว็บดูหนังฟรี
กลับไปมาตลอดเวลา โดยเป็นการเล่าแบบนับถอยหลังตั้งแต่วันที่ทั้งคู่เจอกันไล่มาจนถึงวันที่ประสบอุบัติเหตุ โดยมีปมเล็ก ๆ ที่สำคัญว่านางเอกสูญเสียความทรงจำจากเหตุการณ์นั้น ทำให้เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในตอนนั้น ซึ่งหนังจะใช้จุดนี้เป็นแฟลชแบ็คไคลแม็กซ์คลายปมเรื่องราวที่ซ่อนอยู่
เนื้อเรื่องหนัง รีวิว THE IN BETWEEN (2022)
ด้วยความที่หนังเน้นย้อนเรื่องราวการคบกันของทั้งคู่ เพื่อบอกเล่าที่มาของทั้งสองให้เข้าใจ ตัวเรื่องจึงไม่ได้เป็นแนวแฟนตาซีอะไรมาก สิ่งที่นางเอกเห็นเป็นสัญญาณก็มาในรูปแบบสิ่งของเคลื่อนไหวเอง มีภาพฟิล์มที่นางเอกไม่ได้ถ่ายโผล่ขึ้นมา ซึ่งใครที่ต้องการดูแนวเรื่องแบบแฟนตาซีมากๆ แบบ Ghost ก็คงต้องผิดหวัง แล้วหนังก็ยังเน้นย้อนเรื่องราวมากกว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันที่แต่ละฉากสั้นกว่ามาก จนดูเหมือนเป็นหนังรักวัยรุ่นตามปกติดีๆ เน้นฉากรักหวานเยอะๆ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบไม่คลิ๊กกับแนวแบบนี้ก็จะกลายเป็นหนังน่าเบื่อสุดๆ ทันที แต่ถ้าใครคลิ๊กกับแนวรักหวานๆ ชอบดารานำทั้งคู่ก็น่าจะชอบหนังเรื่องนี้มากแน่นอน เว็บหนังฟรี
ตัวนางเอก Joey King อาจจะไม่มีเสน่ห์มาก แต่ก็มักจะได้รับบทแนวนี้ประจำติดต่อกัน ซึ่งบทของเธอก็แอบคล้ายคิสซิ่งบูธไปอีก คือเป็นสาววัยรุ่นเก่ง ๆ แต่ขาดความมั่นใจ แล้วก็มีนิสัยแย่ ๆ เอาแต่ใจติดตัว มักผลักคนรอบข้างที่หวังดีเสมอ ตั้งแต่พ่อแม่บุญธรรมที่พยายามจะสนิทกับเธอ จนเธอมาเจอกับสกายล่า พระเอกหนุ่มรูปหล่อพูดได้หลายภาษา ชอบดูหนัง เป็นนักกีฬาพายเรือหุ่นล่ำ เขาก็ปิ๊งเธอแต่แรก ความสัมพันธ์หวาน ๆ จึงเกิดขึ้น แต่แล้วปมเดิม ๆ ก็กลับมาทำให้ทั้งคู่มีปัญหากัน
ซึ่งบทแบบนี้ของเธอเองค่อนข้างงี่เง่ามาก ๆ ตั้งแต่เรื่องก่อนแล้ว แต่ก็เหมือนเป็นสูตรสำเร็จที่สาววัยรุ่นชอบ เพราะมันเหมือนแทนตัวเองที่ฝันอยากเจอแฟนแบบนี้ แล้วถึงทำตัวแย่แค่ไหนเขาก็ยังรักเราสุดๆ ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จหนังรักวัยรุ่นอเมริกันช่วงหลังแทบทุกเรื่อง
ตัวพระเอกสกายล่า รับบทโดย Kyle Allen หลายคนอาจจะไม่คุ้นหน้ามาก เพราะเขาก็ยังเป็นนักแสดงนำได้ไม่นาน โดยก่อนหน้านี้คือหนังวัยรุ่นแฟนตาซีเช่นกันจากเรื่อง The Map of Tiny Perfect Things ของ Amazon prime พล็อตเป็นหนังรักวัยรุ่นวนลูปเวลา ซึ่งทำออกมาได้เก๋มากๆ (อ่านรีวิวกับดูตัวอย่างคลิกที่นี่) ซึ่งในเรื่องนี้บทก็จะแตกต่างไปเลย
เป็นบทแนวผู้ชายเปอร์เฟ็กต์ต่างกับเรื่องก่อนที่เป็นผู้ชายแหย ๆ ไม่เอาไหน แม้บทอาจจะไม่ได้มีความลึกอะไรมาก แต่เสน่ห์ของนักแสดงมีสูงมาก เชื่อเลยว่าถ้ามีโอกาสได้เลือกบทดี ๆ เขาน่าจะมีอนาคตเป็นดารานำชื่อดังได้แน่ ๆ ตัวหนังมีงานโปรดักชั่นสวย ด้วยความที่นางเอกเป็นนักถ่ายภาพโดยใช้กล้องฟิล์มด้วย ทำให้หลายฉากออกมาเป็นแนวอาร์ทๆ ดูดี มีฉากแฟนตาซีสวย ๆ ออกมาในช่วงหลัง แต่กลับไม่มีเพลงประกอบเพราะๆ ติดหูเลย ซึ่งน่าเสียดายมาก
“The In Between” เป็นหนังเข้าใหม่จากทาง Netflix ที่ติดท็อปรวมถึงถูกพูดถึงในหลากหลายประเทศ ด้วยความที่พล็อตเรื่องมีความสนุกเข้มข้นชนิดที่ว่าแค่ปล่อยทีเซอร์ออกมาก็ต้องร้องว้าว! รวมถึงบทบาทของนักแสดงนำอย่างJoey King และ Kyle Allen ที่มีความเคมีเข้ากั๊นเข้ากัน แถมในเรื่องของการแสดงนี่การันตีว่าสุดยอดด้วยผลงานที่ผ่านมาของพวกเขา วันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มารับชมหนังเรื่องนี้กันใน ‘รีวิว The In Between (Netflix) หนังรักวัยรุ่นสุดโรแมนติกกึ่งแฟนซี’ หากพร้อมแล้วนั้นก็ตามมาดูกันได้เลย
The In Between เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสาวน้อย ‘เทสซ่า (แสดงโดย Joey King)’ ที่เธอนั้นเป็นสาวน้อยธรรมดาที่ชื่นชอบการถ่ายภาพฟิล์ม แต่เธอนั้นเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเองมาก แถมยังมีปมทำให้ต่อต้านคนอื่น แม้กระทั่งครอบครัวบุญธรรมของเธอ จนวันหนึ่งเธอได้เจอกับ ‘สกายล่า (แสดงโดย Kyle Allen)’ หนุ่มหล่อร่างฟิตที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงและเติมเต็มความรักในหัวใจของเธอ ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เหมือนกับวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กทั่วไป จนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้เกิด
เหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเทสซ่าและสกายล่าได้เกิดอุบัติเหตุและสกายล่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่พีคขึ้นไปอีก! เมื่อสกายล่าได้กลายเป็นวิญญาณมาสื่อสารบอกอะไรบางอย่างกับเทสซ่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปติดตามรับชมได้ที่ The In Between
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง รีวิว THE IN BETWEEN (2022)
THE IN BETWEEN เป็นภาพยนตร์ที่หากคุณอ่านเรื่องย่อแล้วจะต้องนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง GHOST อย่างแน่นอน เพราะมันมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่คนรักจากไปและกลับมาในรูปแบบของวิญญาณ เรื่องนี้จะเล่าถึงมุมมองที่สลับกันนั่นก็คือเล่าถึงเรื่องราวของคนเป็นที่ยังโหยหาคนตายและสามารถสัมผัสได้ว่าวิญญาณของคนรักยังวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ ตลอดการรับชมภาพยนตร์ไม่ได้ชี้นำให้เรารู้สึกว่าวิญญาณของแฟนหนุ่มของนางเอกกลับมาแต่อย่างใด แต่จะนำเสนอให้เรารู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รีวิวหนัง
ภาพยนตร์มีการสอดแทรกตรงสำคัญเข้ามาว่าเธอสูญเสียความทรงจำจากอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้เธอไม่รู้เลยว่าในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ซึ่งจุดนี้จะกลายมาเป็นไคล์แม็กที่คลายปมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าสามารถขมวดปม
ออกมาได้ค่อนข้างดี แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความหลังความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากกว่าดังนั้นมันจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับความแฟนตาซีอะไรมากมายเนื่องจากเรื่องราวที่เล่าในไทม์ไลน์ปัจจุบันมีไม่เยอะเท่าเรื่องราวในอดีต
ต้องยอมรับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกหวานฉ่ำผสมผสานกับความดราม่าและแฟนตาซีเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วก็เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกน้ำเน่าธรรมดาทั่วไปที่หักคุณชอบภาพยนตร์แนวนี้จะสนุกไปกับมันอย่างแน่นอน นางเอกอาจจะไม่ได้มีเสน่ห์อะไรมากมายแต่เธอก็สามารถแสดงบทบาทออกมาได้เป็นอย่างดี ในขณะที่พระเอกออร่าพุ่งเป็นอย่างมาก เป็นการเล่าเรื่องราวสลับระหว่างปัจจุบันและอดีต งานภาพสามารถทำออกมาได้ดีมีความเป็นศิลปะ
แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือภาพยนตร์เล่าเรื่องราวย้อนหลังในอดีตมากเกินไปทำให้ผู้รับชมรู้สึกว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันไม่ได้คืบหน้าไปสักเท่าไหร่ ภาพยนตร์ความยาวเกือบ 2 ชั่วโมงดูเหมือนว่าจะมากเกินพอดีสำหรับภาพยนตร์แนวโรแมนติกทำให้เรา เห็นฉากรักเยอะมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีความสูตรสำเร็จด้วยการใส่ความงี่เง่าให้กับนางเอกเหมือนกับภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นที่เราเคยรับชม
เด็กชายตกหลุมรักหญิงสาว เด็กชายเสียชีวิตในอุบัติเหตุที่น่ากลัว หญิงสาวเสียใจจนเด็กชายเอื้อมมือออกไปหาเธอจากหลุมศพ เด็กชายและเด็กหญิงเชื่อมต่อใหม่ เสียงคุ้นเคย? โดยพื้นฐานแล้วนี่คือโครงเรื่องของภาพยนตร์ Ghost ในปี 1990 ของ Robert Zemeckis ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศซึ่งทำให้ผู้ชมภาพยนตร์หลายคนต้องหลั่งน้ำตาก่อนเข้าเรียนวิชาเครื่องปั้นดินเผา
นอกจากนี้ยังเป็นโครงเรื่องของ The In Between ภาพยนตร์โรแมนติกเรื่องใหม่ทาง Netflix มันสมควรได้รับตำแหน่งในรายการเฝ้าดูของคุณหรือไม่? หรือคุณควรฝังมันทิ้งไปตลอดกาล? นั่นขึ้นอยู่กับ ถ้าคุณไม่ชอบอะไรมากไปกว่าการใช้เวลาในยามเย็น นั่งบนโซฟาพร้อมกับกล่องผ้าเช็ดหน้าข้าง ๆ คุณและร้องไห้บนทีวี คุณอาจจะมีความสุขจากสิ่งนี้ แต่ถ้าคุณกำลังมองหาเรื่องราวความรักที่มีงานเขียนที่มีคุณภาพและพล็อตเรื่องที่น่าประหลาดใจแล้วล่ะก็ ลืมมันไปซะ!
ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ Tessa (Joey King) และ Skylar (Kyle Allen) ที่พบกันที่โรงละครท้องถิ่นขณะชม Betty Blue สุดคลาสสิกในงานศิลปะปี 1986 พวกเขาตีกันทันที แม้ว่าเมื่อพวกเขาแยกทางกันหลังจากดูหนังแล้ว พวกเขาต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเจอกันอีกครั้ง เมื่อพวกเขากลับมาพบกันอีกครั้ง กระบวนการเชื่อมสัมพันธ์เริ่มต้นขึ้น และไม่นานเกินรอ พวกเขาตกหลุมรักกันและกัน