รีวิว Monte Carlo (2011) เจ้าหญิงไฮโซ โอละพ่อ
จะเกิดอะไรขึ้น! เมื่อเด็กสาวแสนธรรมดากลายเป็นเจ้าหญิงเพียงชั่วข้ามคืน ในสุดยอดภาพยนตร์ปี 2011 ที่ครองใจคอหนังโรแมนติก-คอมเมดี้มานาน กับ “เจ้าหญิงไฮโซ… โอละพ่อ (Monte Carlo)” ผลงานการแสดงของนักร้องสาวสุดป๊อปผู้โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง “เซลีนา โกเมซ” ที่ทั้งผลงานเพลง และผลงานการแสดงของเธอโดนใจผู้ชมเป็นจำนวนมาก และเมื่อไม่นานมานี้เธอได้ร่วมงานกับ BLACKPINK ปล่อยผลงานเพลง Ice Cream ออกมา เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่ฮิตติดหูคนฟังไปทั่วหน้าเลยทีเดียว ดูหนังใหม่
และในเรื่อง “เจ้าหญิงไฮโซ… โอละพ่อ (Monte Carlo)” นี้ เธอก็ได้ปล่อยความน่ารักผ่านการแสดงบทบาท “เกรซ” ทำให้คอหนังต่างชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากนี้ที่ทำให้เรื่องนี้โดนใจคอหนังมากกว่าเดิมก็คือ การมีสองนักแสดงสาวสุดสวยมากฝีมืออย่าง “เลห์ตัน มีสเตอร์” และ “เคธี่ แคสสิดี้” มาร่วมขบวนการสุดป่วนในครั้งนี้ด้วย ทำให้เรื่องนี้ได้ทั้งความน่ารักของสามสาว และได้ความฮาไปอย่างเต็มเปี่ยม
เรื่องราวของ “เจ้าหญิงไฮโซ… โอละพ่อ (Monte Carlo)” เกิดขึ้นเมื่อ เกรซ เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง หลังจากเรียนจบเธออยากทำตามความฝันโดยการไปเที่ยวฝรั่งเศส แต่แล้วเธอพลาดกับกรุ๊ปทัวร์จนต้องไปหลบฝนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ผู้ดูแลโรงแรมเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นเจ้าหญิงของ Monte Carlo
เธอจึงกลายเป็นเจ้าหญิงโดยบังเอิญ ส่วนเจ้าหญิงตัวจริงก็แสนจะเอาแต่ใจ ผู้ติดตามเจ้าหญิงจึงผลักดันให้ เกรซ ต้องเดินทางไปร่วมงานประมูลเพชรเพื่อเด็กกำพร้าตามเจตนารมณ์ของคุณป้า แล้วเธอก็ถูกจับได้ว่าเป็นตัวปลอม เธอจึงสารภาพว่าที่เธอมาครั้งนี้เพราะเจ้าหญิงตัวจริงไม่ยอมมาร่วมงาน
โดยพี่สาวของ เกรซ ได้พบรักกับชายหนุ่มฝรั่งเศส ด้วยความไม่ใส่ใจในสร้อยเพชร เธอจึงใส่สร้อยไว้ในกระเป๋าของแฟนหนุ่ม และแล้วเธอก็ต้องตกใจที่แฟนหนุ่มคนนั้น นำสร้อยมาคืน เพราะเป็นของสำคัญที่จะต้องนำไปประมูล พร้อมกันนั้นเจ้าหญิงตัวจริงกลับมาปรากฏตัวที่โรงแรม
งานนี้เพื่อนสนิทของ เกรซ จึงต้องเฝ้าเจ้าหญิงตัวจริงไว้ เพื่อให้พี่สาวและ เกรซ ไปงานประมูลเพชรเพื่อการกุศลในครั้งนี้ให้สำเร็จ ทุกคนต่างสมหวังในความรัก ยกเว้น เกรซ ที่ต้องสูญเสียคนรักที่เป็นเจ้าของงานการกุศลครั้งนี้ เธอตัดสินใจกลับอเมริกา แต่ในที่สุดเธอก็ได้พบกับเขาอีกครั้ง ในฐานะคนธรรมดา
แต่สุดท้ายทั้งสามสาวก็ต้องจำใจไปเที่ยวด้วยกัน แต่ความโชคร้ายจากการจองทริปเที่ยวกับทัวร์นรกที่ไม่ค่อยมีคุณภาพนักทำให้พวกเขานั้นกลับที่พักไม่ทันจึงพากันไปหลบฝนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แต่พนักงานโรงแรมได้เข้าใจผิดว่า “เกรซ” นั้นคือ “คลอลิเดีย” คุณหนูไฮโซที่กำลังจะมาพักที่นี่เพื่อออกเดินทางไปงานประมูลเครื่องเพชรเพื่อการกุศล ทำให้ทั้งสามสาวได้รับการปฏิบัติอย่างดีและได้พักในห้องของคลอลีเดีย
โดยมากไปกว่านั้นคือพวกเธอได้มีโอกาสยืมชุดสวย ๆ และเครื่องเพชรของคุณหนูไฮโซมาใส่อย่างถือวิสาสะ แน่นอนว่าพวกเธอเริ่มรู้สึกว่านี่มันชักจะมากเกินไปแล้วแต่ด้วยเพราะว่าสถานการณ์มันพาไป จึงทำให้พวกเธอต้องแกล้วตีเนียนต่อ แต่เรื่องราวมันไม่ได้จบลงอย่างสวยงามน่ะสิ เพราะว่าในที่สุดคลอลิเดียตัวจริงก็ปรากฏตัวและกำลังโมโหที่เธอนั้นถูกแอบอ้างตัว
หนังเรื่อง Monte Carlo เจ้าหญิงไฮโซ…โอละพ่อ นี้มีการใส่มุกเกี่ยวกับเพื่อนสาวได้อย่างดีไม่มากไปไม่น้อยไป แต่พล็อตค่อนข้างน่าเบื่อและไม่มีอะไรให้ลุ้นนัก การเล่าเรื่องค่อนข้างเป็นเส้นตรงไม่มีอะไรให้ระทึกแม้แต่เล็กน้อย อีกทั้งยังมีการใส่ใจเรื่องรักมากเกินไป แถมยังปูตัวละครมาไม่ค่อยดีนักทำให้เราไม่รู้สึกอินกับบทบาทของสาว ๆ แต่ต้องยอมรับว่าความน่ารักสดใสของพวกเธอก็ทำให้หนังเรื่องนี้น่าดูขึ้นมาไม่น้อยเลย
หลังจากจบการศึกษาเกรซกับเอ็มมาตั้งจะไปเที่ยวปารีส แม่เกรซแต่งงานกับพ่อของเม็ก พ่อของเม็กเสนออัพเกรดที่นั่งให้แต่ต้องพาเม็กที่มีศักดิ์พี่สาวไปด้วย เม็กกับเอ็มมาเรียนรุ่นเดียวกันแต่เอ็มมาเรียนไม่จบออกไปทำงานเป็นสาวเสริฟร้านเดียวกับที่เกรซทำพาร์ทไทม์ทั้งคู่เลยสนิทกัน
เกรซกับเม็กเข้ากันไม่ค่อยได้ พอไปถึงปารีสทั้งสามคนโดนหลอก ห้องโรงแรมก็กลายเป็นห้องโทรมๆไม่เหมือนในโบรชัวร์ตอนซื้อทัวร์แถมยังถูกรถบัสของคณะทัวร์ทิ้งเพราะมัวแต่ดูวิวกันเพลินแถมใส่ส้นสูงวิ่งตามไม่ทัน เม็กเจอกับไรลีย์นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียที่เป็นอดีตนักกีฬาที่บาดเจ็บเพิ่งรักษาตัวหายเล่นต่อไม่ได้เลยออกเดินทางท่องเที่ยว
เรื่องย่อ รีวิว Monte Carlo (2011) เจ้าหญิงไฮโซ โอละพ่อ
พวกเกรซเจอฝนตกเลยเข้าไปหลบฝนที่โรงแรมหรู เกรซถูกปาปาราสซีถ่ายรูป ระหว่าเกรซเข้าห้องน้ำ เม็กกับเอ็มมาเจอคอร์ดีเลีย สก็อตไฮโซชื่อดังหน้าตาเหมือนเกรซเป๊ะกำลังคุยโทรศัพท์เรื่องไม่อยากไปออกงานการกุศลและกำลังจะหนีไปเที่ยวกับเพื่อนแทน เอ็มมาจับเกรซรวบผมออกมาเหมือนคอร์ดีเลียจนพนักงานโรงแรมจำผิด ทั้งสามคนสวมรอยเข้าพักในนามของคอร์ดี ดูหนังฟรี
เลีย สก็อตตั้งใจว่าจะพักแค่คืนเดียว เช้าวันรุ่งขึ้นมีรถมารับคอร์ดีเลียต่อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวไปที่มอนติคาร์โลสถานที่จัดงานการกุศล ป้าของคอร์ดีเลียแต่งงานกับพ่อของเทโอที่ได้รับมอบหมายให้คอยดูแลเกรซ คืนนั้นทั้งสามคนต้องไปร่วมงานบอลที่จัดเลี้ยงในงานมีเจ้าชายและพวกไฮโซเต็มไปหมด เกรซเจอสร้อยเพชรในกระเป๋าสัมภาระของคอร์ดีเลียเป็นสร้อยที่จะนำมาประมูลเพื่อหาเงินช่วยเหลือเด็กยากจน
โอเวนโทรหาเอ็มมาแต่กระเป๋าของเอ็มมาอยู่ที่โรงแรมเดิม เจ้าของโรงแรมเป็นคนรับ โอเวนตามเอ็มมาไปที่ฝรั่งเศส เจ้าชายขอเอ็มมาเต้นรำ ป้าของคอร์ดีเลียเริ่มสงสัยเพราะคอร์ดีเลียดูไม่ค่อยเหมือนเดิม เม็กเจอไรลีย์อีกครั้งและออกไปเที่ยวด้วยกัน เทโอมารับเกรซไปที่บ้านและเกรซต้องลงแข่งโปโล ป้าของคอร์ดีเลียจับได้ว่าเกรซเป็นตัวปลอมแต่ติดต่อคอร์ดีเลียตัวจริงไม่ได้เลยเข้าใจว่าคอร์ดีเลียจ้างคนหน้าเหมือนมางานแทน ป้าบอกจะช่วยปิดเป็นความลับและห้ามเกรซก่อเรื่องพอติดต่อคอร์ดีเลียได้
ค่อยว่ากัน เกรซเริ่มเข้ากับเทโอได้ดี เจ้าชายส่งดอกไม้มาให้และชวนเอ็มมาออกเดท เอ็มมาใส่สร้อยคอที่จะใช้ประมูลไปด้วย ระหว่างทางเอ็มมาสวนทางกับเม็กที่อยู่กับไรลีย์ เม็กให้เอ็มมาถอดสร้อยคืน เม็กเอาสร้อยใส่ไว้ในเป้ของไรลีย์ คืนนั้นเอ็มมาไม่มีความสุขอย่างที่คิดเลยแยกตัวออกมานั่งเงียบๆคนเดียว เกรซจะบอกความจริงกับเทโอแต่ไม่กล้า
เกรซกลับไปที่โรงแรม เอ็มมายอมรับกับเกรซว่าจริงๆแล้วเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้ต้องการบ้านหรูๆแค่ต้องการโอเวน เม็กกลับมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ไรลีย์ชวนเม็กไปเที่ยวต่อแต่เม็กปฏิเสธ หนังสือพิมพ์ลงข่าวทั้งสามคนโอเวนเลยตามไปที่โรงแรม เม็กนึกได้ว่าสร้อยอยู่ในเป้ของไรลีย์ตอนนั้นคอร์ดีเลียตัวจริงมาถึงโรงแรมพอดี เทโอมาทักทายแล้วพบว่าคอร์ดีเลียเปลี่ยนไป ทั้งสามคนรีบจัดห้องให้
เหมือนเดิมแล้วหนีออกทางระเบียง คอร์ดีเลียเห็นข่าวและพบว่าสร้อยคอหายไปเลยโทรแจ้งตำรวจ พวกเกรซไปถึงสถานีรถไฟแต่ไม่ทันเลยตั้งใจจะกลับไปสารภาพความจริง ไรลีย์ยังไม่ได้ขึ้นรถไฟเพราะเจอสร้อยเลยเอากลับไปคืนเม็กที่โรงแรม ไรลีย์มาถึงโรงแรมคืนสร้อยให้เม็ก เม็กบอกให้รอที่ล็อบบี โอเวนมาถึงโรงแรมรอที่ล็อบบีเหมือนกัน
พวกเกรซจับตัวคอร์ดีเลียตัวจริงไว้เพราะคอร์ดีเลียยืนยันจะแจ้งความ ตำรวจมาถึงพอดีเกรซออกมารับหน้าพร้อมกับสร้อย เกรซไปที่งานประมูลพร้อมกับเม็กและเทโอให้เอ็มมาเฝ้าคอร์ดีเลียไว้ โอเวนรู้จากไรลีย์เลยตามไปที่ห้อง เอ็มมามัวแต่ดีใจที่เจอโอเวนคอร์ดีเลียหนีออกไปได้ ในงานเกรซสารภาพเรื่องที่ตัวเองไม่ใช่คอร์ดีเลียตัวจริง เทโอโกรธเดินออกจากงานไป คอร์ดีเลีย
ตัวจริงเข้ามาแสดงตัว เกรซขอร้องให้ทุกคนในงานช่วยกันประมูลต่อเพื่อช่วยเด็ก ป้าของคอร์ดีเลียเป็นคนประมูลสร้อยไป คอร์ดีเลียสั่งให้ตำรวจจับพวกเกรซแต่ตำรวจไม่ยอมจับเพราะเห็นว่าเกรซเองก็ไม่ใช่คนร้าย เม็กออกเดินทางไปเที่ยวต่อกับไรลีย์ โอเวนกลับพร้อมเอ็มมาเหลือเกรซคนเดียวที่ไม่มีคู่ เกรซเดินทางไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือโรงเรียนในโรมาเนีย เทโอเดินทางไป
ในครั้งนี้คุณป้าจับได้ว่าเธอเป็นตัวปลอมเธอจึงสารภาพว่าเจ้าหญิงตัวจริงไม่ยอมมาร่วมงานและไม่ยอมนำเพชรมาประมูลด้วยเธอไม่สนงานการกุศลสนแต่ชีวิตเลิศหรูและชีวิตอันเสเพลของเธอเท่านั้น เธอเองไม่มีเจตนาหลอกลวงแต่อย่างใด เเต่ขอแค่งานจบเธอก็จะไป
ในที่สุดคุณป้าก็ร่วมช่วยให้งานสำเร็จ แต่ด้วยความไม่ใส่ใจในสร้อยเพชรเส้นสำคัญของเธอ ทำให้เพื่อนสนิทนำสร้อยเพชรเส้นนี้ไปใช้เมื่อเจ้าชายของ Monte Carloคนหนึ่งได้เชิญไปDinnerบนเรือสำราญอันเลิศหรูตามชีวิตมหาเศรษฐีทั่ว ๆ ๆไป ในครั้งนี้เธอก็ตะหนักดีว่าเธอแค่สาวอเมริกันคนหนึ่งต้องการแค่บ้านหลังเล็กๆๆและชายคนหนึ่งซึ่งเป็นสามีที่อบอุ่นร่วมกันช่วยสร้างอนาคตแค่นั้น
รีวิว Monte Carlo (2011) เจ้าหญิงไฮโซ โอละพ่อ
ก่อนมาเธอได้ทะเลาะกับแฟนหนุ่มของเธอถึงขั้นแตกหักและตัดสัมพันธ์ของการขอแต่งงานของเขาเพื่อหวังเจอเศรษฐีในยุโรปและใช้ชีวิตเลิศหรู พอเธอเจอคนที่พร้อมและสมใจในฝัน แต่เธอก็ทนกับการหลอกลวงการสวมหน้ากากของพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ จึงมานั่งเงียบ ๆ ๆบนหัวเรือ พร้อมกับดูดาวบนฟากฟ้า …เมื่อเธอกลับมาจากการDinner พี่สาวในอนาคตของเกรซได้ขอสร้อย รีวิวหนัง
คืนจากเธอเพราะเป็นของสำคัญที่จะต้องนำไปประมูลเพื่อการกุศลในวันพรุ่งนี้ และพี่สาวของเกรซก็ได้พบชายหนุ่มผู้สดใสคนหนึ่งจากฝรั่งเศสที่นี่โดยบังเอิญ เธอจึงตามหัวใจตนเองไปกับเขา และ ใส่สร้อยไว้ในกระเป๋าของเขา เมื่อเธอกลับมาจากการพบกับแฟนหนุ่ม เธอก็ต้องตกใจที่สร้อยเส้นสำคัญนั้นอยู่ในกระเป๋าแฟนหนุ่มซึ่งจะต้องออกเดินทางไปประเทศอื่นพอดี …และแล้ว
เธอก็ต้องตกใจที่แฟนหนุ่มคนนั้นซื่อสัตย์ต่อการไม่ต้องการเอาของคนอื่น ได้มาหาเธอที่โรงแรม กับสร้อยเพชรที่มีมูลค่าสูงอย่างมากเส้นนั้น พร้อมกับเจ้าหญิงองค์จริง งานนี้เพื่อนสนิทของเกรซจึงต้องเฝ้าเจ้าหญิงตัวจริง ไว้และให้พี่สาวและเกรซไปงานประมูลเพชรเพื่อการกุศลในครั้งนี้ และแล้วเมื่อแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิทเกรซได้ติดตามเธอมาขอโทษต่อเธอและยืนยันที่จะขอเธอแต่งงาน และทั้งสองก็สมหวังเข้าใจในกันและกัน ทำให้เจ้าหญิงตัวจริงได้หลุดจากพันธนาการและได้ติดตามไปที่งานประมูลสร้อยเพชรเพื่อการกุศล แต่
เดชะบุญที่ คุณป้าตัวแสปได้จัดการหลานสาวที่สุดแสนจะร้ายให้งานดำเนินไปได้ ด้วยดี งานนี้ทั้งพี่สาวและเพื่อนสนิทได้แฮปปี้กับความรัก ทั้งคู่แต่ตัวเธอกลับสูญเสียคนรักซึ่งก็คือเจ้าของงานการกุศลในครั้งนี้ เพื่อสร้างโรงเรียนให้เด็ก ๆ ๆกำพร้า…เธอกลับสหรัฐอเมริกาอย่างเหงา ๆ ๆ และตกลงใจจะมาเป็นครูที่โรงเรียนแห่งนี้
เมื่อเอ็มม่าปฏิเสธคำขอแต่งงานในวินาทีสุดท้ายจากแฟนหนุ่มขี้กังวล โอเวน (คอรี มอนเตธ) ทั้งสามคนก็บินไปที่เมืองแห่งแสง ซึ่งไกด์ของพวกเขาจัดทัวร์เร่งอย่างน่าหัวเราะเสียจนความอัศจรรย์ของปารีสได้รับการเสนอให้เหมือนกับอาหารจานด่วนมากมาย ทั้งหมดนี้ทำให้คุณต้องการดู Midnight in Paris เป็นครั้งที่สองแทนที่จะเป็นเรื่องนี้
แต่ก็มีความโล่งใจสำหรับสาวๆ ถ้าไม่ได้มากสำหรับผู้ชม เมื่อเกรซถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเศรษฐีพันล้าน คอร์เดเลีย วินธรอป สก็อตต์ บริตเจ้าชู้ฟุ่มเฟือย ซึ่งกำลังจะเป็นประธานในงานการกุศลในโมนาโก เกรซและผู้ติดตามที่เต็มใจของเธอจึงบินโฉบไปที่เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของบุคคลที่มีลักษณะเหมือนกันโดยปราศจากการทักท้วง และติดตั้งในห้องชุด Grimaldi ที่ Hotel de Paris ที่หรูหราอย่างไม่มีที่ติ ซึ่งมอนติคาร์โลก็กลายเป็นหอยนางรมในทันใด
เกรซได้รับความสนใจจากชาวฝรั่งเศสผู้น่ารัก (ปิแอร์ บูลังเงร์) ซึ่งครอบครัวของเขาได้ให้ยืมชื่อไปในการประมูล ซึ่งส่งผลต่อสำเนียงอังกฤษอันหรูหรา เครื่องประดับอื่นๆ ของเธอคือสร้อยคอที่วิจิตรบรรจง ซึ่งการหายตัวไปของเรื่องราวก็มีให้เห็นอย่างเด่นชัดในโครงเรื่อง สำหรับส่วนของพวกเขา เอ็มมาได้รับเหตุผลที่จะตั้งคำถามถึงความภักดีของเธอต่อโอเว่นโดยหนุ่มชาวอิตาลีที่หน้าตาดี (Giulio Berruti) ที่หล่อเหลาจนมองไม่เห็น และเม็กก็หลุดจากอาการมึนงงของเธอโดยไรลีย์
(ลุค เบรซีย์) แบ็คแพ็คเกอร์ชาวออสซี่ผู้สมบุกสมบัน ที่นั่นเหมือนกันเพราะเป็นโครงการของมูลนิธิพ่อเทโอ เทโอสวนกับเกรซออกไปทำธุระข้างนอกเทโอเห็นเกรซจากบนหน้าต่างเลยรีบวิ่งตาม เทโอเป่าปากเรียก(ทำตามที่เกรซเคยสอน)แล้วต่างคนต่างแนะนำตัวกันใหม่อย่างเป็นทางการ…จบแบบแฮปปี