รีวิว Match Point แมทช์พ้อยท์ เกมรัก เสน่ห์มรณะ

รีวิว Match Point แมทช์พ้อยท์ เกมรัก เสน่ห์มรณะ

คริส อดีตนักเทนนิสดาวรุ่งฝีมือดี ที่ผันตัวมาเป็นครูสอนเทนนิสแทน วันหนึ่งเขาได้มาเจอกับ ทอม ลูกชายของมหาเศรษฐีที่มาเรียนเทนนิสกับเขา จนเกิดมิตรภาพขึ้นจนสนิทกันมาก และทอมก็ได้ชวนคริสไปที่บ้าน จนได้พบกับ โคลอี้ น้องสาวของเขา ทั้งคู่ นั้นตกหลุมรักกันจนไปถึงขั้นแต่งแต่งงาน ดูหนังใหม่

 

ทำให้คริสตกอยู่ในสถานะตกถังข้าวสารแบบสบายๆ จนเรียกว่าประสบความสำเร็จไปในทุกด้าน แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับ โนล่า สำหรับ Match Point นั้น เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่เป็นแฟนหนัง Woody Allen อยู่แล้ว เพราะนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำได้เหนือขึ้นมากกว่ามาตรฐานหนังของเขาอยู่เล็กน้อย ทั้งจังหวะการเล่าเรื่องหรืออะไรก็เข้าเป้าเป๊ะหมด และทำออกมาได้ดูดีมี

 

 

สุนทรียภาพเหมือนการเสพงานศิลปะมากๆ แม้ว่าหนังจะมีพล็อตเรื่องแบบง่ายๆ ไม่ต่างจากละครไทยก็ตาม แต่มันก็ยกระดับขึ้นมาได้เป็นอย่างดี ใครที่ขอบหนังแนวชู้รัก ๆ ที่ชวน ๆ ลุ้นหน่อย แบบ Unfaithful หรือ Femme Fatale แล้ว ขอแนะนำหนังปู่ Woody Allen เรื่องนี้กันไว้ด้วยเลย จัดว่าเป็นหนังที่ไปสุดเรื่องนึงของลุงวู้ดดี้ อัลเลน เลย เพิ่งมาดูเรื่องนี้หลังจากที่ดูงานลุงโดยรวมมาประมาณ 8-9 เรื่อง ซึ่งตั้งแต่ดูมาเรื่องนี้ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างแปลกจากเรื่องอื่นๆพอสมควร รู้สึกว่ามันเป็นหนังโรแมนติคดราม่าที่มีบรรยากาศทริลเลอร์

 

ปะปนอยู่แทบตลอดทั้งเรื่อง และจังหวะการดำเนินเรื่องมันรุกมาก คงเพราะลุงเล่นเดินเรื่องแบบจั๊มพ์เวลา แบบ ตัดภาพไปอีกทีคือผ่านไปเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนแล้ว แต่จะมีชั้นเชิงการเล่าให้คนดูรับรู้ได้ว่ามันผ่านช่วงเวลามาแล้วระยะหนึ่งโดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดในการบอกเล่า

 

 

หรือถ้าเป็นไดอะล็อกก็จะเป็นการบอกอ้อมๆ ฉลาดๆ สไตล์ลุงวู้ดดี้ เป็นอย่างงี้ไปตลอดทั้งเรื่อง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังคงเอกลักษณ์บางอย่างให้แฟนลุงวู้ดดี้สามารถจับได้ว่านี่คือหนังของ วู้ดดี้ อัลเลน หากเราไม่เคยดูหรือรู้จักมาก่อน อย่างเทคนิคการจับภาพบรรยากาศของเมือง การเลือกมุมภาพเมื่อตัวละครต้องเดินเล่นในเมืองด้วยภาพแบบ

 

Extremely Long Shot แต่เอาจริงๆก็ค่อนข้างยากเลยแหละ ส่วนตัวเราก็เป็นแฟนหนังลุงวู้ดดี้มากๆ ยังรู้สึกว่าสไตล์เรื่องนี้ค่อนข้างแตกต่างจากเรื่องอื่น(เท่าที่เคยดูมา) อีกอย่างที่พอจะเป็นข้อสังเกตได้ก็คงเป็นการใช้สกอร์คลอไปเกือบตลอดทั้งเรื่อง โดยเรื่องนี้จะเป็นเพลงแบบโอเปร่า

 

 

ซึ่งเป็นแนวเพลงที่ตัวพระเอกชื่นชอบ เพราะแน่นอนว่าหนังของลุงวู้ดดี้แทบทุกเรื่องจะมีการใช้สกอร์คลออย่างโฉ่งฉ่างอยู่แล้ว มาว่ากันที่ตัวเนื้อเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของนักเทนนิสหนุ่มดาวรุ่งรูปหล่อฝีมือดีนามว่า คริส ที่ผันตัวจากการแข่งขันอาชีพมาเป็นครูสอนเทนนิสที่คอร์ทแทน การปรากฏตัวของคริสให้คนดูเห็นเพียงแวบแรกก็สามารถบอกได้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนที่มี

เรื่องย่อ รีวิว Match Point แมทช์พ้อยท์ เกมรัก เสน่ห์มรณะ

ความสุขกับชีวิตเท่าไหร่นัก ด้วยใบหน้าเหนื่อยหน่ายแววตาหม่นๆ เหมือนคนไม่มีเป้าหมายชีวิต ทั้งที่เขาเป็นนักเทนนิสฝีมือดีคู่คี่มากับนักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่ง ณ ขณะนั้นแท้ๆ แต่กลับทอดทิ้งอนาคตอันรุ่งโรจน์เพียงเพราะเป็นคนไม่ชอบการแข่งขันและความกดดัน แม้จริงๆแล้วการสอนก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบด้วยเช่นกัน และดูแล้วฐานะก็ไม่ได้ล่ำซำอะไร ดูหนังฟรี

 

เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อเขาได้พบกับ ทอม หนุ่มหล่อไฮโซสูงยาวเข่าดีลูกชายมหาเศรษฐีที่มาเรียนเทนนิสกับคริส ทั้งคู่เข้ากันได้ดีตั้งแต่แรกเจอ และด้วยความที่มีจุดเชื่อมโยงคือโอเปร่า หลังจากนั้นเป็นต้นมา คริสก็แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของทอม และเริ่มคบหาดูใจกับโคลอี้ น้องสาวของทอม ส่วนเรื่องจริงๆมันเริ่มจากการที่คริสได้เจอกับ โนล่า แสดงโดย สการ์เลตต์ โจฮันสัน สาวสวยเซ็กซี่คู่หมั้นของทอม ต้องยอมรับจริงๆว่าสการ์เลตต์ในเรื่องนี้สวยหยาดเยิ้มทรงเสน่ห์มาก ขนาดนี่เป็นผู้หญิงยัง

 

ต้านไม่ไหว นับประสาอะไรกับผู้ชาย แวบแรกที่ได้เจอกับโนล่า คริสผู้ซึมเซา ท่าทางเนือยๆเบื่อโลกที่เป็นมาตลอดก็หายกลับกลายเป็นคนละคน เขารุกเข้าประชิดตัวโนล่าเพียงแค่ไม่กี่นาทีหลังจากเจอ ไม่มีแววตาเหนื่อยหน่ายอีกต่อไป มีเพียงแววตาลุ่มหลง จนกระทั่งได้รู้ว่าโนล่าเป็นคู่หมั้นของทอม ก็กลับไปหงอยแดกเหมือนเดิม

 

 

เรื่องราวต่อจากนี้ก็คงจะพอเดากันได้ หนังลุงวู้ดดี้ก็มักจะหนีไม่พ้นเรื่องชู้รัก สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะชีวิตของพระเอกหลังจากคบหาจนกระทั่งแต่งงานกับโคลอี้ก็มีแต่จะดีไต่ระดับสู่สังคมชั้นสูงและความมั่งคั่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยแทบไม่ต้องใช้

 

ความพยายาม เพราะจริงๆก็คือพระเอกก็ไม่ตั้งใจจะจับคนรวย ไม่ได้อยากก้าวเข้าสู่สังคมชั้นสูงอะไร แต่เหมือนตกกระไดพลอยโจน เพราะโคลอี้เป็นฝ่ายชอบคริสก่อน แถมนางยังเป็นผู้หญิงน่ารักอ่อนหวาน ครอบครัวก็ชอบ เลยถูกดันเข้ามาทำงานในบริษัทพ่อตา ยิ่งกว่านั้นคือดันทำงานเก่งอีก แหม ช่างเป็นชีวิตที่เลิศเลอเพอร์เฟคซะเหลือเกิน มีงานดี เงินดี เมียดี ครอบครัวดี โคตรสุขสบาย แต่ถ้ามันดีอย่างงี้ไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ใช่หนังอีก

 

ตั้งแต่เจอกับโนล่าคริสก็หลงใหลในตัวเธอและพยายามหาโอกาสอยู่ใกล้มาโดยตลอด แต่ก็ยังสานสัมพันธ์กับโคลอี้จนกระทั่งแต่งงาน หลังจากแต่งงานได้ไม่นานเขาก็ดันมารู้ว่าทอมเลิกกับโนล่าแล้ว หลังจากนั้นเธอก็หายไปจากชีวิตเขาพักใหญ่ ๆ แม้เขาจะยังคิดถึงเธออยู่ จนกระทั่งได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง

 

 

แน่นอนว่าความสัมพันธ์ชู้รักจึงเริ่มขึ้นนับแต่นี้เป็นต้นไป สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคริสก็คือ เขาออกจะชอบพอชีวิตที่โคตรจะแสนสุขสบายอย่างที่เป็น แต่ก็อดใจไม่ได้ที่จะคิดถึงโนล่าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ว่าจะด้วยเพราะความรักหรือความหลงก็ตาม เขาคงไม่ยอมทิ้งความสุขสบายกลับไปกัดก้อน

 

เกลือกินกับนักแสดงสาวที่ไม่รุ่งในอาชีพการงานอย่างโนล่าแน่ๆ แต่อย่างว่า การลักลอบเล่นชู้กันก็มักจะนำความชิบหายมาให้สักวัน และวันนั้นก็มาถึงเมื่อโนล่าพลาดตั้งท้อง ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ที่ส่วนตัวว่าไปสุดในแบบที่ไม่ค่อยเห็นในหนังลุงวู้ดดี้(หรืออาจเพราะเราไม่เคยดูหนังลุงที่เป็นแบบนี้ก็ได้ ก็ลุงแม่งเล่นทำหนังมาสี่ห้าสิบเรื่องแล้ว) ซึ่งไม่สปอยล์ละกัน ไปหาดูกันเองเนาะ (แหมมึงก็เล่ามาเกือบทั้งเรื่องละมั้ง)

 

สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นหนังที่โอเคเรื่องนึงเลย แม้จะแปลกหูแปลกตาไปนิดสำหรับหนังลุงวู้ดดี้ แต่ชอบที่ขยี้ธีมเรื่องที่ว่าด้วย Match Point ของการแข่งขันเทนนิสในตอนท้าย ซึ่งได้เกริ่นมาแล้วในตอนต้นเรื่อง ในเรื่องของการหวดลูกชนขอบเน็ต ซึ่งโอกาสที่ลูกจะตกในฝั่งของคู่แข่งหรือของตนนั้นเท่ากับ 50 : 50

 

 

และผลลัพธ์นั้นมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตเราไปเลยก็ได้ เราชอบที่หนังมันจบอย่างงี้ เหมือนจะดีแต่มันทิ้งความอึดอัดเอาไว้อย่างล้นหลาม ในฐานะคนดูเราแทบจะบอกไม่ถูกด้วยซ้ำว่าเราเอาใจช่วยใคร และที่ชอบเสมอมาในหนังทุกๆเรื่องของลุงคือการกำกับการแสดง เราว่าลุงวู้ดดี้เป็นผู้กำกับที่ดึงพลังการ

รีวิว Match Point แมทช์พ้อยท์ เกมรัก เสน่ห์มรณะ

แสดงของนักแสดงออกมาได้เก่งมาก ดูมีชีวิต มีตัวตน มีเสน่ห์ การแสดงสามารถบอกความเป็นมาบอกตัวตนของตัวละครได้ เราชอบและนับถือมากๆ และในหนังลุงเกือบทุกเรื่องมักจะมีตัวละครแบบลุงวู้ดดี้(ที่ปกติแกมักจะแสดงเอง) อย่างตัวละคร กิลเพนเดอร์ พระเอก Midnight in Paris ที่แทบจะเป็นตัวตายตัวแทนการแสดงของวู้ดดี้ อัลเลนเลยก็ว่าได้ การแสดงมันวู้ดดี้ อัลเลนมาก ๆ ส่วนในเรื่องนี้เราว่าน่าจะเป็นตัวละครนักสืบที่ฝันถึงคดีของคริส เล่นได้วู้ดดี้ อัลเลนมาก เราว่าน่าจะเป็นตัวแทนของ

 

แกที่เป็นคนเขียนบทและผู้กำกับแหละ ที่เหมือนจะเป็นผู้ไขปริศนาได้ แต่สุดท้ายก็ต้องเลยตามเลย เพราะลูกเทนนิสลูกนั้นดันหล่นลงในฝั่งของคู่แข่งจริงๆ แล้วแก่นหลักของเรื่องก็เล่าถึงความเป็นมนุษย์ที่ไม่รู้จักพอแหละ เมื่อโอกาสอะไรที่สูงกว่าก็มักที่จะไขว่คว้าเอาไว้เสมอ โดยที่ไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาให้ดีนัก อย่างตัวเอกเองที่ตอนแรกก็มาเป็นแค่นักเทนนิสธรรมดา แต่เมื่อมีโอกาสตกถังข้าวสาร รีวิวหนัง

 

แต่งเข้าบ้านคนรวยก็มองเป็นโอกาสที่รีบคว้าเอาไว้ โดยที่ไม่ได้นึกถึงอนาคตชีวิตรักมากนัก ว่าใช่คนนี้หรือเปล่า จนกระทั่งเมื่อเขาได้พบกับโนล่า สาวสวยสุดเซ็กซี่ที่เข้ามาในชีวิต เขาก็ยังเลือกที่จะลองเสี่ยงที่จะเล่นกับไฟ แม้ว่าตัวเขาเองจะมีชีวิตที่ดีอยู่

 

 

แล้วในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน การเข้าสังคมชั้นสูง ภรรยาที่แสนดี แต่ด้วยการความมีเสน่ห์ของ Scarlett Johansson ก็ทำให้คนดูเองก็อาจจะรู้สึกได้ไม่แพ้กัน ว่ามันเป็นแรงปรารถนาที่ยากเกินกว่าจะต้านทานได้แม้ว่าหนังในช่วงแรกจะค่อยๆ ถ่ายทอดความสัมพันธ์ไปเรื่อย ๆ ได้อย่างน่าสนใจ ที่ทำให้เราเห็นพาร์ทโรแมนติกต่าง ๆ แต่ในช่วงครึ่งหลังนั้น หนังกลับเปลี่ยนโทนในทันที ด้วยสถานการณ์บางอย่าง จะกลายเป็นโทนระทึกขวัญที่ชวนอึดอัดและบีบคั้น

 

หัวใจได้เป็นอย่างมาก จนกลายเป็นว่า หนังเล่าเรื่องที่เรียบง่ายให้กลายเป็นหนังชั้นดีขึ้นมาได้เฉย ด้วยความที่หนังเอาทั้งกีฬาอย่างเทนนิสมาใช้ และเอาศิลปะอย่างโอเปร่าเข้ามาผสาน มันจึงเป็นสุนทรียภาพที่ดีเป็นอย่างมากกับการได้ดูหนังที่กำกับให้เสมือนกำลังเล่นดนตรีเช่นนี้

 

ภายหลังที่คริส วิลตัน ย้ายมาอยู่ลอนดอนและเริ่มงานเป็นครูฝึกสอนให้กลับคลับเทนนิสหรูหราแห่งหนึ่ง ด้วยความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว จนได้สนิทกับทอม ฮิววิทนักเรียนประจำคลับ และมีโอกาสไปดูโอเปร่าพร้อมกับทอม,โคลอี้และครอบครัวของเขา ต่อมาก็ได้รับเชิญให้ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ภายในครอบครัวอีกครั้ง จนได้มาพบกับโนล่า ไรค์นักแสดงสาวแฟนของทอม คริสก็หลงใหลเธอทันที ขณะที่เขาก็เริ่มคบกับโคลอี้แล้ว

 

 

และสุดท้ายคริสก็สามารถถีบตัวเองให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้สำเร็จด้วยการแต่งงานกับโคลอี้ แต่เขาก็ยังไม่หยุดหลงใหลตัวโนล่าเช่นกัน และภายหลังที่โนล่าเลิกกับทอม เขาเจอกับเธออีกครั้งและเริ่มคบกับหล่อนอย่างลับๆ ก่อนเข้าเรื่องใครที่ดูจบแล้ว ไม่ต้องกังวลกลับข้อคิด ส่วนใครที่ยังไม่ดู จึงขอเริ่มด้วยทำไมเรื่องนี้จึงน่าสนใจ หากตัดฉากติดเรทของดาราสาวรุ่นใหญ่อย่างเอมิลี่ มอร์ติเมอร์(โคลอี้)หรือสการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน(โนล่า ไรท์)ออกไป ซึ่งก็คือ ประเด็นของเนื้อเรื่อง

 

นี้ไม่ใช่หนังเชิงศีลธรรม หรือจริยธรรมที่เข้าใจกัน ในมุมกลับกันหนังเรื่องนี้ทำให้เห็นว่า ชีวิตก็เหมือนลูกเทนนิสตอนชนขอบเน็ต โดยเราไม่รู้จะตรงฝั่งไหน หรือคนเราต้องอาศัยดวงบ้าง แม้ในสถานการณ์ที่คิดว่าควบคุมได้ นี้คือแก่นความคิดของหนัง ประการต่อมาก็คือ เมื่อมีท้องเรื่องเช่นนั้น การสร้างคาแร็กเตอร์ของเรื่อง ตัวละครอย่างคริส วิลตัน และโนล่า ไรท์ จึงดูโด่ดเด่นมากยิ่งเฉพาะคริสแล้วด้วย เมื่อดูผ่านไปได้ครึ่งเรื่อง แม้เราจะรู้สึกไม่ชอบตัวละครตัวนี้ แต่หนังสามารถตรึงให้เราอยู่กับมันได้จนจบ

 

ด้วยปมปัญหาของตัวละคร ซึ่งดูเข้มข้นมาก อีกทั้งการคลี่คลายของเนื้อเรื่องยังไปในทิศทาง ที่ทำให้เรารู้สึกว่า เห่ยอะไรนี่ และรู้สึกเคอะเขินกลับเรื่องจริยธรรมซะอีก ซึ่งนี้ไม่ใช่เรื่องสอนธรรมะแน่นอน เพียงแค่หนังผูกเรื่องและเดินเรื่องที่ส่อไปในทิศทางจริยธรรมอย่างจงใจ และนำเสนอแก่นความคิดของเรื่องโชคดี-ร้าย หรือดวง(Luck in Life) ซะ หนังเรื่องนี้จึงดูสนุกตั้งแต่ต้นยันจบ และมีฉากติดเรทเป็นของแถมให้ตาลุกว่าวอีกด้วย