รีวิว Fast and Feel Love
นับเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก สำหรับการตั้งคำถาม ในภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ของผู้กำกับ ที่มีสไตล์เอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในวงการภาพยนตร์ไทย อย่าง เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ โดย หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ได้นักแสดงระดับ A-List อย่าง ญาญ่า อุรัสยา มาประกบกับ นัท ณัฏฐ์ กิจจริต พระเอกที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองในฝีมือการแสดงซึ่ง ฉายแสงความ
เฉียบมาหลายต่อหลายเรื่องแล้ว อาทิ ในหนัง อาชีวะยุค 90s ในเรื่อง 4Kings หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ นั้น ถือเป็นหนังเรื่องเล่าที่เฉพาะกลุ่มมากๆ ผู้คนเล็กๆ อย่างชีวิตของตัวละคร เกา (แสดงโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต ) ซึ่งรับบทในเรื่อง เป็น แชมป์ Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือแชมป์กีฬาเรียงแก้ว ซึ่งมัน ดูหนัง ดูหนังออนไลน์
ไม่ได้ Mass เลยในสังคมไทย แต่หนังก็ชี้ประเด็นว่า กีฬาเฉพาะกลุ่มแบบนี้ มันมีความหมาย มันมีคุณค่าในตัวของมันเองเสมอๆ มันไม่สนเพศ มันไม่สนวัย แต่มันสนแค่ “สถิติ สถิติ และสถิติ” แค่นั้น ซึ่งหากมองให้ชัด ทุกการกระทำเล็กๆ ของทุกอย่างในสังคม แม้ว่ามันจะไม่มีผลกระทบในวงกว้าง แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มีความหมายกับคนบางกลุ่ม และมันได้รับความนิยมจากคนบางกลุ่ม อย่างเช่นกีฬา Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือ กีฬาเรียงแก้ว นั่นเอง …ทุกอย่างย่อมมีคุณค่าในตัวเอง
ตัวรสชาติของภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ เต็มไปด้วย การยั่วล้อ ตลกร้าย เสียดสีหนังดังต่างๆ แต่อีกนัยหนึ่ง มันก็เหมือนกับการ “คาราวะ” หนังเหล่านั้นที่ เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เอามาล้อเลียนด้วย ทั้งหนังตระกูลFast & Furious ,The Dark Knight รวมถึงการ ตัดต่อย้ำๆ ซ้ำๆ ขยี้ แบบย้อนไทม์ไลน์แบบหนัง Doctor Strange ในฉากเช็ดม่านมูลี่
การที่ ตัวละคร เกา (แสดงโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต ) มุ่งมั่นทำสิ่งที่ตัวเองรัก อย่างเล่นกีฬาเรียงแก้ว บางทีมันอาจไม่เหมาะกับค่านิยมสังคมไทยเลย ที่กรอบสังคมเอาแต่มุ่งมั่นให้แทบทุกคนเดินไปตามแป้นพิมพ์ เบ้าหลอมสังคมไทย ที่ต้องมีอาชีพที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม ชีวิตจะต้องการอะไรไปมากกว่า
การได้ทำสิ่งที่รัก พร้อมๆทั้งเป็นอาชีพได้อีกล่ะ… ในระหว่างที่ ตัวละคร เกา มุ่งมั่นเพื่อจะเป็นแชมป์โลกกีฬาเรียงแก้วนั้น ต้องบอกว่า เขาโชคดีที่มี แฟน(ภรรยา) อย่าง เจ (รับบทโดย ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์) ที่คอยสนับสนุนทุกอย่างในชีวิต , คอยทำงานบ้านให้ , คอยใช้ สกิลต่างๆในการจัดการ
ชีวิตประจำวัน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซ่อมปั้มน้ำ เป็นต้น โดยที่ เกา ไม่ต้องจัดการเรื่องต่างๆในชีวิตเลย ขอแค่โฟกัสแค่การเล่น Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือ กีฬาเรียงแก้ว เท่านั้นก็พอ แต่ในขณะเดียวกัน ตัวละคร เจ ก็มีความฝันกับเขาเหมือนกันนั่นคือ การเป็นแม่คน การมีลูก ซึ่งมันอาจจะดูเหมือนไม่ใช่ความฝันยิ่งใหญ่อะไร แต่เราทุกคนก็ไม่ควรไปปรามาส ความฝันของใครก็ตาม (จริงไหม?) …แต่ดูเหมือนว่า เกา จะตอบสนองความฝันของเจ ไม่ได้เลย
เรื่องย่อ รีวิว Fast and Feel Love
เรื่องราวความรัก และ การไล่ล่าความฝันของคนเนิร์ดๆ แบบตัวละคร เกา และคนธรรมดาๆ แบบตัวละคร เจ ซึ่งคอยจะสนับสนุนคู่รักทุกอย่าง ต้องเดินมาถึงจุดทางแยก ที่เป็นปมสำคัญของเรื่อง และมันสามารถนำพาผู้ชม ให้เห็นภาพของ ตัวละคร เกา ชีวิตคนเนิร์ดๆ ที่จะค่อยๆเติบโตเป็น “ผู้ใหญ่” ที่ต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ดูหนัง ดูหนังออนไลน์
.
เมื่อ หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ดำเนินเรื่องเดินทางมาถึงจุดทางแยกของเรื่อง มันช่างเป็นการตั้งประเด็นคำถามว่า ความสำเร็จของใครสักคนนั้น มันอาจจะต้องมาพร้อมกับปัจจัยและสิ่งแวดล้อมที่จะสนับสนุนให้บุคลากรสักคนสามารถพัฒนาตัวเองและเดินไปถึงเส้นชัยที่วางเอาไว้ ใช่หรือไม่ ? ความสำเร็จของคนเรา บางทีมันอาจจะต้อง “แลก” ด้วยอะไรบางอย่าง อย่างเช่นในเรื่องนี้ มันอาจจะต้องแลกตัว “เวลา”ในชีวิตของคนดูแลเกาอย่างเจ ใช่ไหม ?
นอกจากนี้ ภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ยังพูดถึงการอัพเลเวล การเติบโตเป็น “ผู้ใหญ่” แบบเร็วที่สุด และไวที่สุดด้วย นั่นคือ การจะเติบโตได้ มันอาจจะต้องผ่านการเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด และ มันอาจจะต้องเสียอะไรบางอย่างไป
ส่วนเรื่อง ความรัก แม้มันจะมีกลิ่นและรสแบบโรแมนติกเล็กๆ แต่ มันก็สะท้อนความจริง ที่เกิดขึ้นกับทุกคน ว่าแท้จริงแล้ว บางทีคู่รักกัน มันอาจไม่หอมหวาน ไม่ได้เป็นความรักไร้เงื่อนไข ใดๆ อย่างที่ใครๆฝันหา … แต่ระหว่างตัวละคร เกา กับ เจ
มันไม่ใช่รักแบบไร้เหตุผล แต่มันคือรัก ที่เป็นรูปแบบความรักแบบผู้ใหญ่จริงๆ ที่มี “เงื่อนไข” ชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้อง – ความรักที่แท้จริงในชีวิตคนจริงๆ มันคือการ ดีลบางอย่างของคนสองคนที่สมประโยชน์ต่อกัน…ใช่ไหม
และที่สำคัญที่สุด ที่หนัง ภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ถ่ายทอดประเด็นคำถามได้ดี นั่นคือ ชีวิตคนเราจะฝันธรรมดาไม่ได้เลยหรือ ? การเป็นแบบคนธรรมดาๆ แบบเจ ไม่ได้เลยหรือ…ซึ่งในความเป็นจริง ชีวิตใครก็ชีวิตมัน ใครฝันอะไรก็ทำได้ตามใจอยู่แล้ว อย่าไปกังวลกับกรอบของสังคมที่คอยขีด คอยเป็นแส้โบยตีว่า ถึงอายุเท่านั้น เท่านี้ ต้องมีนู้น มีนี้…
.
ตัวหนัง เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ พาคนดูให้ไป ทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆในชีวิตมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ ความฝันที่เราเคยมีและทุ่มเทเวลาให้กับมันอย่างเต็มเปี่ยม …แต่ในทางกลับกัน ในเวลาเดียวกัน บางครั้ง เราอาจจะต้องเจียดเวลาที่เคยมี ไปให้กับสิ่งอื่นๆบ้าง…เพื่อให้ชีวิตมัน สมดุล…
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์รสชาติใหม่ของเต๋อ นวพลซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์เป็นหนังคำคมของเหล่าสายเฮิร์ต ผสมผสานการเปิดโลกกีฬาสแต็ก ที่วัดกันด้วยความเร็วแบบวิต่อวิ และคราวนี้หนังของเขาก็ ’แรง’ ขึ้นกว่าเดิมมากจริง ๆ จนมีสปีดพอ ๆ กับหนังแอ็กชันเลยล่ะ
รีวิว Fast and Feel Love
หากใครเป็นคอหนังคงปลื้มปริ่มไม่น้อยเพราะทั้งเรื่องนั้นอุดมไปด้วยการล้อภาพยนตร์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งหนังตัวเองหรือคนอื่นก็ตาม ซึ่งนวพลก็ล้อกันแบบจัดเต็ม ชนิดที่ว่าหยิบไดอะล็อกมาใช้แบบไม่ต้องแคร์อะไรทั้งสิ้น ด้านนักแสดงก็ได้ณัฏฐ์
กิจจริตมารับบทเป็น ‘เกา’ ชายหนุ่มวัย 30 ผู้ไม่รู้จักโต ที่คราวนี้สลัดลุคเด็กอาชีวะจาก ‘4 King’ ออกมาได้อย่างฉีกขาด แถมมีลูกบ้าอันเดือดดาลชนิดที่ว่า นวพลดึงศักยภาพของณัฏฐ์ออกมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือตัวละครอย่าง ‘เจ’ ซึ่งรับบทโดย ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ผู้สลัดคราบสาวหวานกลายร่างเป็นหญิงแกร่ง Working Woman อย่างเต็มตัว ซึ่งเคมีของทั้งณัฏฐ์และญาญ่าก็เข้าคู่กันได้ดีมาก ชนิดว่าเมื่อ 2 คนนี้เริ่มเปิดฉากต่อทะเลาะกันเมื่อไหร่ สายตาของเราแทบจะถูกสะกดไว้ที่จอหนังเลยล่ะ
อีกหนึ่งคนสุดแย่งซีนที่โผล่มาทีไรก็สะกดคนดูตลอดก็คือแม่บ้านอย่าง ‘เมทัล’ รับบทโดย โปเต้-อนุสรา กอสัมพันธ์ ผู้กำกับจาก Salmon House ซึ่งเดบิวท์งานแสดงครั้งแรกกับเต๋อ นวพล ในเรื่องนี้ ถือได้ว่าเธอฉายแววโดดเด่นเป็นอย่างมาก เรียกเสียงฮาให้ผู้ชมในโรงไม่ขาดสาย สมกับที่มี DNA ความตลกร้าย จาก Salmon House อยู่ในตัวจริง ๆ
และคนที่ออกมาน้อยแต่ต่อยหนักทุกฉากคือ ‘น้องไผ่หลิว’ ซึ่งรับบทโดย น้องเพลง-คีตภัทร ป้องเรือ ตัวละครผู้เป็นอาวุธลับ ที่จะทำให้เกาสามารถเอาชนะการแข่งขันในครั้งนี้ และน้องไผ่หลิวก็เอาอยู่แทบทุกฉาก จนเราก็อยากเห็นเลยว่าอนาคตน้องอาจมีสิทธิ์โตไปเป็นนักแสดงที่เก่งมาก ๆ ได้เลย
แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีความฉีกจากแนวเดิมที่นวพลเคยทำมา แต่หนังก็ยังคง DNA ความเป็นนวพลไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องราวของการเติบโตของชีวิตและความสัมพันธ์ที่เป็นดั่งแก้วอันเปราะบาง เพราะเมื่อไหร่ที่มันแตกสลาย ก็จะไม่มีวันกลับไปเป็นแก้วได้ดังเดิมอีก
รวมไปถึงเรื่องราวความหลังสุดบีบหัวใจ ที่นวพลได้ซ่อนการจิกกัดสังคมไทยไว้ภายใต้ความเป็น ‘หนังกวนส้นตีน’ ของเขา ซึ่งสะท้อนมุมมองให้เราต้องฉุกคิดอยู่ตลอด ที่แม้ว่าโลกของเราในยุคนี้จะเร็วเพียงใด แต่กรอบบางอย่างก็ยังคงถูกฝังรากไว้ไม่เปลี่ยนแปลง รีวิวหนังรัก