รีวิว Bewitched (2005) แม่มดเจ้าเสน่ห์
ณ เมืองซานเฟอร์นันโด วัลเล่ย์ ในแคลิฟอร์เนีย อิซาเบล (นิโคล คิดแมน) กำลังหาหนทางที่จะสร้างภาพตัวเองขึ้นมาใหม่ อิซาเบลซึ่งเป็นแม่มดใสซื่อนิสัยดี มุ่งมั่นตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงการใช้พลังเหนือธรรมชาติของเธอ และหันมาใช้ชีวิตปกติแบบคนธรรมดา ขณะเดียวกันนั้น ในอีกฝั่งของเมือง แจ็ค ไวแอ็ตต์ (วิลล์ เฟอร์เรลล์) นักแสดงหนุ่มเจ้าเสน่ห์หุ่นสูง กำลังหาหนทางที่จะสร้างความสำเร็จให้ตัวเองอีกครั้ง
เชื่อว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนตอนเด็ก ๆ น่าจะมีความฝันอยากเป็นแม่มด ด้วยความที่แม่มดถูกสื่อสมัยใหม่ปั้นแต่งให้ดูน่ารัก ทันสมัย มีเวทมนตร์ใช้ ไม่ได้ดูน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนแม่มดในเทพนิยายหรือนิทานเก่าๆ ที่เคยได้ยินกัน อย่างเราก็ชอบวัฒนธรรมแม่มดสมัยใหม่เหมือนกัน ถ้าใครเกิดทันรุ่นเราก็จะต้องเคยผ่านตาแม่มดน้อยโดเรมีแน่ๆ นั่นการ์ตูนเรื่องโปรดเราตอนเด็ก ๆ เลย
พอกลับมาที่ฝั่งภาพยนตร์ตะวันตก ทุกคนก็ต้องรู้จักแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ที่ผสมความดาร์กเข้ามานิดหน่อย แต่ก็ยังเข้าถึงง่ายอยู่ แต่วันนี้จะขอมารีวิวถึงหนังเก่าเรื่องนึงที่เป็นการรีเมคมาจากซีรีส์ชื่อเดียวกัน ชื่อ Bewitched ซึ่งเรายังไม่เคยดูเลย แต่เห็นหน้าปกหนังแล้วรู้สึกว่าน่าจะเป็นหนังหวาน ๆ ที่น่ารักกุ๊กกิ๊กดี
Bewitched เล่าเรื่องของ อิซาเบล (Nicole Kidman) แม่มดที่อยากจะเป็นคนธรรมดา เธอเบื่อหน่ายกับการที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วยเวทมนตร์ อยากจะลองลำบาก ลองเจอปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ดู ๆ ไปแล้วก็เหมือนคนรวยที่อยากขึ้นรถเมล์บ้าง อะไรเทือกนั้น อิซาเบลพยายามที่จะไม่ใช้เวทมนตร์แก้ปัญหา แต่สุดท้ายก็มักจะเผลอลืมตัวทุกที
อีกฟากฝั่งหนึ่ง เราจะได้รู้จักกับ แจ็ค (Will Ferrell) พระเอกหนังที่กำลังถึงคราวตกอับ เขาจึงมีแผนที่จะแสดงหนังซีรีส์รีเมคชื่อ Bewitched โดยตัวเขารับบทเป็นดาร์เรล พระเอกของเรื่องซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดา แจ็คต้องการให้นางเอกเป็นคนไม่มีชื่อเสียง
เพื่อที่ตัวเขาจะได้เด่นกว่า วันหนึ่งแจ็คไปเจออิซาเบลโดยบังเอิญ เขารู้สึกเตะตาต้องใจวิธีการขยับจมูกไป ๆ มา ๆ ของอิซาเบลมาก ดูแล้วรู้สึกเป็นธรรมชาติ ตรงกับคาแรคเตอร์ตัวละคร แจ็คจึงโน้มน้าวเกลี้ยกล่อมให้อิซาเบลรับงานแสดงเป็นซาแมนธา แม่มดสาวนางเอกของเรื่อง
อิซาเบลเจอแจ็คแล้วรู้สึกว่า นี่แหละคือมนุษย์ธรรมดาที่เธออยากจะเป็น อยากจะใช้ชีวิตด้วย เธอเริ่มหลงใหลความสามัญชนของแจ็ค เลยตกลงรับงานแสดง เพราะคิดว่า แจ็คต้องการเธอจริงๆ แต่เธอไม่รู้เลยว่าจิตใจเธอกำลังจะเจอความท้าทายครั้งใหม่ ที่แม้แต่เวทมนตร์ก็แก้ไขไม่ได้
เรื่องย่อ รีวิว Bewitched (2005) แม่มดเจ้าเสน่ห์
หนังเรื่องนี้เป็นแนว Romantic Comedy แบบชัดเจน มีความแฟนตาซีเล็กน้อยเพราะมีเวทมนตร์ของเหล่าพ่อมดแม่มดในเรื่องมาช่วยด้วย แต่ก็ไม่ได้หลุดโลกจนเกินไป ตัวหนังมีความกุ๊กกิ๊ก หวานแหวว พ่อแง่แม่งอน น่าจะถูกใจสาวๆ สายหนังรักหลายคน ตัวนางเอกก็มีความเป็นผู้หญิงในอุดมคติ ทั้งสวยหุ่นดีแถมมีเวทมนตร์ ดีไปหมดทุกอย่าง ขาดก็แค่สติปัญญาที่ป้ำ ๆ เป๋อๆ ไปบ้างตามสไตล์แม่มดที่ไม่คุ้นชินกับวิถีของมนุษย์ ดูหนังใหม่
ว่ากันที่ตัวละครของอิซาเบล ในฐานะที่เราไม่เคยดู Bewitched เวอร์ชั่นเก่าๆ มาก่อน พอมาดูหนังเรื่องนี้ เราเกิดอาการงง ๆ เล็กน้อยว่าอิซาเบลมาจากไหน ตอนต้นเรื่องเรารู้แค่ว่าเธอย้ายมาอยู่บ้านที่ลอส แองเจอลิส แล้วก่อนหน้านั้นล่ะ? เมืองเวท มนตร์รึเปล่า? เราคาดเดาว่าอาจจะไม่ใช่ถิ่นมนุษย์
เพราะดูเธองง ๆ มึน ๆ กับการใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์มาก ทำนู่นทำนี่ไม่เป็น แม้กระทั่งตอนไปแคสต์บทหนัง เธอก็เผลอโชว์เปิ่นออกมาจนทีมงานแอบด่า ว่าง่าย ๆ คือ ทักษะแบบมนุษย์ทั่วไปนั้นเธอไม่มีเลย ยังไม่นับถึงจังหวะการพูดจาที่ดูจะติดความเป็นเทพนิยายโลกสวย ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูหนังการ์ตูนเจ้าหญิง
อีกสิ่งที่ขาดไปของอิซาเบลคือ เหตุผลที่มารองรับความคิดของเธอที่ไม่อยากเป็นแม่มดแล้ว อยากเป็นคนธรรมดามากกว่า ตรงนี้เรารู้สึกว่าน้ำหนักยังเบาไปมาก เรายังเกิดความสงสัยอยู่ว่า ทำไมจะต้องอยากมาลำบากอะ? ชีวิตก็สุขสบายดีอยู่แล้วนี่ แถมเวลาเธอเจอปัญหา สุดท้ายก็อดใจใช้เวทมนตร์ช่วยไม่ได้ตลอดเวลา ถ้าจะบอกว่าอยากมีความรักที่ยั่งยืน ไม่ใช่ประเดี๋ยวประด๋าวเหมือนพ่อมดแม่มดที่แค่ร่ายเสน่ห์ก็ได้กัน มันก็ดูไม่ค่อนชวนอินเท่าไร เหมือนบทพยายามยัดเยียดให้เราเชื่อว่าอิซา
เบลอยากเป็นคนธรรมดา ก็เชื่อไปสิ ไม่ต้องตั้งคำถาม ตรงนี้เราเลยรู้สึกไม่บายไอเดียที่นางเอกอยากเป็นมนุษย์ธรรมดาเท่าไร เราชอบคาแรคเตอร์ฝั่งพระเอกมากกว่า แจ็คดูมีความเป็นมนุษย์หลงตัวเอง ใฝ่หาความทะเยอทะยาน บางทีก็มากเกินไปจนเรา
หมั่นไส้และแอบสมน้ำหน้าอยู่ในใจ แจ็คดูมี drive ที่ชัดเจนดี คือเรตติ้งตัวเองตก ก็อยากจะกอบกู้ ทำยังไง? อ้อ งั้นไปแสดงหนังประกบกับคนโนเนมละกัน มันดูแบบขี้โกงๆ ชั่วร้ายดี จะมีขัดใจก็ตอนที่โดนนางเอกด่าแล้วเริ่มสนใจนางเอกนี่ละ ขอเถอะมุกนี้ ไอ้ประเภทเริ่มปิ๊งใครเพราะเขาด่า ไม่เคยมีใครด่าแบบเขาเนี่ย มันเก่ากึกแล้ว แต่หนังมันก็เก่าแล้วจริง ๆ แหละ สมัยนั้นอาจจะมองว่าใหม่ก็ได้
จริงๆ จะมาคิดมากกับหนังแนวนี้ก็กระไรอยู่ มันไม่ใช่หนังที่สร้างมาให้เราคิดวิเคราะห์มาก แค่ดูสนุก ๆ บันเทิง ๆ ไป ซึ่งถามว่าสนุกไหมมันก็สนุกแหละ ดูได้เพลิน ๆ แต่อย่างที่บอก มันก็จะมีไอ้จุดข้างต้นมากระตุกๆ ความคิดเรื่อย ๆ ทีนี้ถ้าเราลองมองข้ามไป มันก็เป็นหนังรักคอมเมดี้ที่กุ๊กกิ๊กดี
รีวิว Bewitched (2005) แม่มดเจ้าเสน่ห์
มีความตลกตอนนางเอกใช้เวทมนตร์แกล้งคน เหมาะที่จะดูคลายเครียดมากกว่า จะว่าไป มีประเด็นนึงที่เราชอบ ก็ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกรึเปล่านะ ตรงที่หนังพยายามจะสื่อว่า พอเกิดความรู้สึกขึ้นมาจริงๆ เช่น อิซาเบลเกิดรักแจ็คขึ้นมาจริงๆ มันไม่มีเวทมนตร์อะไรจะเปลี่ยนใจได้ พออิซาเบลเศร้า ก็ไม่มีเวทมนตร์ที่เสกให้หยุดร้องไห้ได้ ตรงนี้ รีวิวหนัง
แสดงให้เห็นว่าเวทมนตร์มันก็มีลิมิตเหมือนกัน สุดท้ายแล้วอารมณ์ความรู้สึกที่มาจากใจจริงก็เป็นอะไรที่บังคับกันไม่ได้ หากมีฐานที่มั่นคง มีบ่อกำเนิดที่ลึกซึ้ง อารมณ์ความรู้สึกนั้นไม่สามารถถูกถอนออกได้ง่ายๆ เพียงใช้คาถา ก็เหมือนในชีวิตจริง หากเศร้าแค่ไหน ถ้าใจมันยังเศร้าอยู่ ต่อให้มีสิ่งเร้าภายนอกแค่นั้น จิตใจก็ไม่รื้อฟื้นขึ้นมาได้ง่าย ๆ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา ต้องค่อย ๆ เยียวยากันไป
โดยสรุปแล้ว Bewitched ถือเป็นหนังเพื่อความบันเทิงที่แท้จริง ดูไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดมาก มองผ่านจุดบกพร่องต่าง ๆ ไป ก็น่าจะบันเทิงกันอยู่ อย่างน้อยลีลาการแสดงของนิโคล คิดแมน กับ วิลล์ เฟอร์เรล และเวทมนตร์ป่วน ๆ ทั้งหลายก็น่าจะเว่อร์วังพอให้เรารู้สึกเอ็นจอยไปกับมันได้ละ
หนึ่งในหลาย ๆ ด้านที่ฉันไม่มีข้อมูลอย่างน่าทึ่งคือโทรทัศน์ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ คุณจะทึ่งกับจำนวนซิทคอมที่ฉันไม่เคยเห็นแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อคุณดูหนัง 500 เรื่องต่อปี คุณจะไม่เหลืออะไรให้อยากดูทีวีอีกต่อไป ในตอนเย็น คุณเข้าไปพัวพันกับการ
แสวงหาความเป็นมนุษย์มากขึ้น ในทีวี คุณดูข่าว รายการทอล์คโชว์ หรือภาพยนตร์เก่า คุณไม่ดูกีฬาเว้นแต่ทีมของคุณจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ คุณสามารถสัมผัสได้ว่าฉันกำลังเข้าใกล้การยอมรับว่าฉันไม่เคยเห็นตอนเดียวของ “Bewitched” ฉันรู้ว่ามันมีอยู่
แต่เนื่องจากการอ่านของฉัน นั่นทำให้ฉันพร้อมแล้วที่จะทบทวนภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Bewitched” เพราะฉันไม่มีอะไรจะเปรียบเทียบและต้องพิจารณาในแง่ของตัวเอง เป็นความบันเทิงที่พอทนได้ ชิ้นส่วนหลายชิ้นทำงานได้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม วิลล์ เฟอร์เรลและนิโคล
คิดแมนทั้งตลกและน่าดึงดูด แต่พวกเขาอยู่ในเนื้อเรื่องที่ไม่ยอมให้ทั้งคู่ตั้งเป้าในตอนจบแบบเดียวกันด้วยเหตุผลเดียวกัน เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่คุณยิ้มและหัวเราะและได้รับความบันเทิงพอสมควร แต่คุณไม่ได้รู้สึกถึงองค์กรอันยิ่งใหญ่ที่กวาดล้างคุณไปพร้อมกับความตลกขบขัน
ที่นี่ไม่มีหนัง ฉากเดียวที่ตามหา เรื่องตลกคือ: Will Ferrell รับบทเป็น Jack Wyatt ดาราภาพยนตร์ที่มีอาชีพการงานถึงจุดต่ำสุด ยอดขายดีวีดีล่าสุดของเขา: 0 ด้วยความสิ้นหวัง เขาหันไปดูโทรทัศน์และพบว่าตัวเองถูกพิจารณาให้รับบทนำในการฟื้นคืนชีพของ “Bewitched” เขาจะ
เล่นบทบาทของดาร์ริน อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ทุกคนพูด ฉันถือว่าดาร์รินเป็นตัวละครในรายการดั้งเดิม ฉันรู้ (จากการอ่านของฉัน) ว่าความสนใจของรายการมีศูนย์กลางอยู่ที่ซาแมนธา ซึ่งแสดงโดยเอลิซาเบธ มอนต์โกเมอรี่ ฉันรู้จากภาพยนตร์ว่าซาแมนธามีวิธีทำให้จมูกของเธอกระตุกซึ่งพิเศษมาก และพวกเขาหานักแสดงที่มีอาการกระตุกไม่ได้จนกว่าแจ็คจะพบอิซาเบล บิเกโลว์ (นิโคล คิดแมน) ใน Book Soup on Sunset