รีวิว About Time
รีวิว About Time เรื่องย่อ
“ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีต คุณอยากกลับไปแก้ไขเรื่องอะไร หรืออยากกลับไปทำให้อะไรมันเกิดขึ้นกับชีวิตคุณบ้าง?”
คำถามที่ดูน่าสนใจ แต่การพัฒนามันออกมาเป็นหนังในยุคสมัยนี้ มันต้องสร้างสรรค์คำตอบที่เป็นยิ่งกว่าคำตอบ หนังเรื่องหนึ่งที่สร้างมาจากชีวิตทั้งชีวิตของคนกำกับ หนังที่เขาเชื่อว่าจะบ่งบอกเรื่องราวของการใช้ชีวิตให้กับคนดูได้ ‘ About Time ย้อนเวลาให้เธอ( ปิ๊ง )รัก’ ผลงานสุดท้ายของ Richard Curtis รีวิวหนังรักดราม่า
เขาคือคนที่ทั้งเขียนบท และกำกับ เมื่อดูหนังจบก็พบว่า หนังมันถูกกลั่นกรองมาจากชีวิตทั้งชีวิตของคนจริงๆ คนที่จะเขียนมันขึ้นมาได้ ต้องดำเนินชีวิตมาจนถึงจุดที่จะเข้าใจชีวิตได้อย่างถ้วนถี่ และเมื่อเขาเอาสิ่งที่เขาได้จากการใช้ชีวิตมาสร้างเป็นหนัง มันจึงเป็นอะไรที่เข้าถึงคนดูอย่างมากๆดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
Richard Curtis มีเครดิตมามากมายทั้งในมุมของการเป็นมือเขียนบท ผู้กำกับหนัง และโปรดิวเซอร์ แทบจะเรียกได้ว่า ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งเรื่องที่เคยผ่านตาคุณมาก่อน ไม่ว่าจะ ‘Love Actually’, ‘Notting Hill’, ‘Bridget Jones’s Diary’, ‘War Horse’, ‘Four Weddings and a Funeral’ และอีกมากมายเลยเชียวแหละ
About Time เป็นเรื่องราวของ ทิม เลค ที่ค้นพบว่าตัวเองสามารถเดินทางย้อนเวลาได้… ในคืนหลังจากงานปาร์ตี้ที่ห่วยแตกในนิวยอร์ก พ่อของทิม ได้เล่าให้ลูกชายของเขาฟังว่า ผู้ชายในตระกูลเขามีความสามารถในการเดินทางย้อนเวลาเสมอ ทิม ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นและเคยเกิดขึ้นมาแล้วในชีวิตของเขาได้ เขาก็เลยตัดสินใจจะทำให้โลกนี้สวยงามขึ้น ด้วยการหาแฟนซักคน น่าเศร้า ที่มันอาจไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คุณคิด
ซึ่งเนื้อเรื่องในช่วงแรก เราจะได้บรรยากาศของหนังรักโรแมนติกแบบเต็มที่ เพราะทิมได้ใช้ความสามารถย้อนเวลานี้ไปกับการจีบสาว หาแฟน จนมาเจอแมรี่ที่เป็นคนรักเก่า ทั้งคู่ได้กลับมาสานสัมพันธ์กันใหม่ในแบบฉบับที่สมบูรณ์แบบ เพราะอะไรที่ผิดดพลาด นายทิมเล่นย้อนเวลาตามแก้ไปหมด เพื่อให้เหตุการณ์ออกมาดีที่สุด (ขนาดคืนที่มีอะไรกันครั้งแรกยังต้องขอย้อน) จนถึงวันแต่งงาน ซึ่งเป็นฉากที่น่าประทับใจอีกตอนหนึ่ง เพราะวันที่ทั้งคู่แต่งงานกลับมีพายุฝนถล่มลงมาในงานจนเหมือนจะล่มไม่เป็นท่า ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านั้น ทิมคงจะย้อนเวลาเพื่อกลับไปเปลี่ยนวันจัดงาน หรือไม่ก็ไปจัดงานที่อื่น แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ย้อนเวลากลับ และหันมามีความสุขกับวันแสนประทับใจที่สุดของเขาอีกวันหนึ่งในชีวิต
หลังจากที่ย้ายจากคอร์นวอล ไปสู่ลอนดอน เพื่อฝึกฝนการเป็นทนายความ ในที่สุด ทิม ก็ได้พบกับ แมรี่ สาวสวยที่ไม่มั่นใจในตัวเอง พวกเขาตกหลุมรักกัน แต่การเดินทางย้อนเวลาที่ผิดพลาดก็หมายความว่าเขาไม่เคยได้พบเธอเลย ดังนั้น พวกเขาก็เลยได้พบกันเป็นครั้งแรกอีกครั้ง และก็อีกครั้ง และท้ายที่สุด หลังจากการเดินทางข้ามเวลาหลายครั้งหลายหนอย่างชาญฉลาด เขาก็เอาชนะใจเธอได้สำเร็จ
หลังจากนั้น ทิม ก็ใช้พลังของตัวเองในการสร้างสรรค์ความโรแมนซ์ และมาค้นพบว่าพรสวรรค์พิเศษนี้ของเขาไม่สามารถช่วยเขาไม่ให้เจอกับความโศกเศร้าและเรื่องราวดีและร้ายที่ส่งผลกระทบต่อทุกครอบครัว ทุกหนทุกแห่งได้ มันมีข้อจำกัดในสิ่งที่การเดินทางย้อนเวลาสามารถทำได้ และมันก็เป็นเรื่องอันตรายด้วยเช่นกัน
สำหรับหนังเรื่อง About Time ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2013 นำแสดงโดย Domhnall Gleeson รับบทเป็น ทิม พระเอกของเรื่อง, Bill Nighy รับบท พ่อของพระเอก และ Rachel McAdams รับบท แมร์รี่ นางเอกของเรื่อง โดยเนื้อเรื่องย่อเกี่ยวกับหนุ่มทิม ทนายความฝึกหัดที่เติบโตมาในครอบครัวอบอุ่น มีทั้งพ่อ แม่ น้องสาว ลุง แต่แล้ววันหนึ่งพ่อของเขาก็ได้บอกความลับถึงมรดกตกทอดประจำตระกูล ที่มีไว้ให้กับลูกชายเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม นั่นก็คือ พลังพิเศษที่จะย้อนเวลากลับไปอดีตในที่ที่เคยรู้จักได้ (Time Traveler)
จุดเด่นของหนัง About Time
การเล่าเรื่องราวที่น่าติดตามและน่าประทับใจ
หนังเต็มไปด้วยมุขตลกๆ ที่เป็นเรื่องจริงของชีวิต ฉากกุ๊กกิ๊กๆ ของคู่รักมันช่างน่ารักจนต้องยิ้มและขำตาม ขณะที่ช่วงหลังๆ ของหนัง เริ่มจะเข้าสู่โหมดหนังชีวิตมากขึ้น ซึ่งก็พบว่าน้ำตาซึมไปหลายช่วงทีเดียว
มันคือความจริงของชีวิตที่เอาพล็อตแฟนตาซีมาเกี่ยวกระหวัดเอาไว้ และอธิบายมันออกมาได้อย่างมีพลังและน่าเชื่อถือ
หากเรามีพลังในการย้อนกลับไปแก้ไขอดีต นั่นหมายถึงเรามีโอกาสที่สองให้ได้แก้ตัว สิ่งที่เราเห็นว่ามันผิดพลาด เรายังมีอีกครั้ง (หรืออีกหลายๆ ครั้ง) ให้แก้ไข ชีวิตนี้เราคงไม่ต้องกดดันอะไร ไม่ต้องห่วงว่าจะตัดสินใจผิดหรือไม่ และในโลกความจริง เราต่างก็รู้ว่าเราไม่มีพลังจะไปแก้ไขอดีต ทุกสิ่งที่เราทำคือปัจจุบันที่เพียงจะมีผลต่อนาคต ผิดแล้วผิดเลย พลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีให้แก้ไข ไม่มีให้เริ่มใหม่ แต่ก็อีก ในหนังก็บอกให้เรารู้ว่า ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราจะเปลี่ยนแปลงได้ บางอย่างถึงพยายามจะเปลี่ยนแปลงมันก็ใช่จะได้ผลอย่างที่หวังไว้
การกลับไปแก้ไขอาจจะเปลี่ยนบางอย่างได้ แต่บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นกัน
แม้จะดูเป็นหนังรักโรแมนติคธรรมดา ซึ่งต้องชม Richard Curtis ที่เป็นทั้งคนเขียนบทและผู้กำกับ ทำให้หนังธรรมดาเรื่องนี้ เล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ โดยการใส่ความเป็น Sci-fi นิดๆ จากการย้อนเวลาได้ของพระเอก และที่สำคัญยังแฝงไปด้วยคุณค่าของการใช้ชีวิต ที่เป็นเหมือนสิ่งที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์การใช้ชีวิตของคน ๆ หนึ่ง จึงทำให้เป็นสิ่งที่สามารถเข้าถึงคนดู และสะกดไว้ได้อย่างดี (ซึ่ง Richard Curtis ยังเป็นคนเขียนบทให้กับหนังที่คุณน่าจะคุ้นตาทั้ง Love Actually, Notting Hill, Bridget Jones’s Diary เป็นต้น)
คู่พระนาง
Domhnall Gleeson และ Rachel McAdams บอกเลยว่าเป็นคู่ที่เคมีเข้ากันมาก ๆ แม้หนังเรื่องนี้จะมีนายทิม ที่เป็นตัวดำเนินเรื่องบอกเล่าเรื่องราวเป็นหลัก แต่เรากลับไม่ได้รู้สึกว่าบทแมรี่ จะดูด้อยลงไป เพราะการที่ทั้งคู่เล่นกันได้เป็นธรรมชาติและเป็นส่วนช่วยผลักดันอารมณ์น่ารักๆ อบอุ่น ๆ ของหนังเรื่องนี้ ทำให้ใครต่างก็ต้องเทใจทุกครั้งที่เห็นทั้งสองคนในทุกฉาก โดยเฉพาะกับ Rachel McAdams ที่เล่นเรื่องนี้ได้อย่างสดใสมากๆ ทำให้ผมจะรู้สึกเป็นนายทิมไปแล้ว
เพลงประกอบ
เพลง How Long Will I Love You ซึ่งเป็นเพลงเก่าที่ใครหลายคนน่าจะเคยฟัง ผมเองก็เคยได้ยินมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่เมื่อมาฟังเพลงนี้อีกครั้งในหนังเรื่องนี้ กลับช่วยเสริมอารมณ์ให้การดูหนังเรื่องนี้มีความลงตัวมากขึ้น
สำหรับหนังเรื่อง About Time ที่เป็นทั้งหนังรักโรแมนติก หนังครอบครัว แต่ก็แฝงมาด้วยข้อคิดในเรื่องเวลาได้เป็นอย่างดี เพราะท้ายที่สุดแล้วคงไม่มีเวลาไหนที่มีคุณค่ามากที่สุด เท่ากับเวลาที่เรามีอยู่ในตอนนี้ ดังนั้น จงมีความสุขกับปัจจุบัน และให้คิดอยู่เสมอว่าเวลาที่ยังมีคนที่รักอยู่เคียงข้าง เป็นช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดียวที่เราไม่มีทางหาจากไหนได้อีกแล้ว
ชื่อภาพยนตร์: About Time / ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Richard Curtis
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Richard Curtis
นักแสดงนำ: Domhnall Gleeson, Rachel McAdams, Bill Nighy, Lydia Wilson, Lindsay Duncan, Richard Cordery
แนว: Comedy, Drama, Sci-Fi
เรท: USA/R
ความยาว: 123 นาที
สตูดิโอ/ผู้จัดจำหน่าย: Translux, Working Title Films, ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์ อีสต์)
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 10 ตุลาคม 2556 (รอบพิเศษ 3-9 ตุลาคม 2556)