รีวิว ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ (SuckSeed)
เป็นเวลา 10 ปีแล้วที่ผู้ชมชาวไทยได้รู้จักกับ คุ้ง, เป็ด และเอ็กซ์ สามเด็กหนุ่มจากเชียงใหม่ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่ อยากพาวงดนตรีเล็กๆ ของตัวเองไปขึ้นเวที Hotwave Music Awards ที่กรุงเทพมหานคร และพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า พวกเขาไม่ใช่แค่ตัวห่วยอย่างที่ทุกคนเข้าใจ เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี
แม้สุดท้ายความตั้งใจของพวกเขาจะล่มสลายไปกลางคัน หากแต่มิตรภาพ เสียงดนตรี และความบ้าบิ่นที่เหนือคำบรรยาย ได้กลายเป็นพลังส่งต่อไปยังวัยรุ่นไทยอีกไม่น้อยให้กล้าฝัน กล้าทำอะไรที่ฉีกแนวออกไป จนเกิดวงดนตรีมัธยมตามมาอีกเพียบ และนำมาสู่ปรากฏการณ์ความห่วยที่ดังไกลไปถึงเมืองนอก
ในวาระครบรอบทศวรรษของภาพยนตร์ร็อกวัยรุ่น SuckSeed ห่วยขั้นเทพ ยอดมนุษย์..คนธรรมดา จึงชักชวนห้าหนุ่มผู้เปรียบเสมือนสารตั้งต้นของหนัง หมู-ชยนพ บุญประกอบ, เป็ด-ทศพล ทิพย์ทินกร, ไก่-ณฐพล บุญประกอบ, เยเมนส์-ศิววุฒิเสวตานนท์ และ ใหม่-ปนายุ คุณวัลลี มาร่วมทบทวนความทรงจำ ถึงเรื่องราวที่ทำให้ผลงานเล็กๆ เรื่องนี้ยังคงทุ้มอยู่ในใจของใครหลายคนมาจนถึงวันนี้
ก่อนจะเป็นหนังใหญ่ที่ทุกคนคุ้นเคย ครั้งหนึ่ง SuckSeed เคยเป็นชื่อของวงดนตรีสุดห่วยในหนังสั้นที่หมูสร้างขึ้น เพื่อฉายในเทศกาลหนังกางจอ เมื่อ พ.ศ. 2550 เทศกาลหนังกลางจอ ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมากว่า 10 รุ่นของนักเรียนหนังจากนิเทศ จุฬาฯ โดยแต่ละคนจะทำหนังสั้นของตัวเองก่อนเรียนจบ จากนั้นก็นำมาฉายให้บรรดานักวิจารณ์ อาจารย์ เพื่อนฝูง รวมถึงผู้สนใจ เข้าชม
ด้วยความหลงใหลเสียงเพลงมาตลอด เพราะสมัยเด็กๆ เคยมีวัยรุ่นแถวบ้านมาชวนไปห้องซ้อม พอเข้าโรงเรียนก็มีวงของตัวเอง แถมตอนเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเป็นแกนหลักทำเพลงละครเวทีของคณะ หมูจึงรู้สึกอินและอยากทำหนังเกี่ยวกับประเด็นนี้มากเป็นพิเศษ ครั้งนั้นเขาวางพล็อตหนังให้เป็นเหมือนเป็นสารคดีตามติดชีวิตของ ซ้ง, ชัย, ขวด และอุ๋ย สี่นักดนตรีร็อกสุดห่วยจากวง The SuckSeed ที่โด่งดังขึ้นมาจากกระแสในโลกออนไลน์
“ค.ศ. 2007 YouTube เป็นของใหม่มาก เลยเขียนบทให้วงนี้ทำคลิปโปรโมตตัวเองลง YouTube แล้วไปเข้าตาค่ายอินดี้ จนได้ไปแสดงคอนเสิร์ตชื่อโคตรอีดิ้น แต่พอไปเล่นจริงแล้วแป้ก คือไม่ได้เก่งเหมือนคลิปที่ตัดต่อ แต่ถึงอย่างนั้นคลิปนี้ดันสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กคนหนึ่ง แล้วต่อมาเด็กคนนี้ก็กลับมาเป็นแรงผลักดันให้วงอยากเก่งจริงๆ ขึ้นมา” ด้วยความแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร The SuckSeed ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมอย่างล้นหลาม ทว่าหลังเรียนจบ หมูกลับหันเหไปเลือกทำงานเป็นสจ๊วต พร้อมปล่อยให้การทำหนังเป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น
“เราไม่มั่นใจในการเป็นคนทำหนังขณะนั้น เราอยากหาอะไรที่มั่นคงทำหน่อย แล้วมีเวลาว่างพอที่จะทำสิ่งที่ตัวเองชอบด้วย คืออย่างน้อยก็สบายใจว่า เรามีงานมีการในระดับที่เลี้ยงตัวเองได้ในช่วงแรก” หมูเล่าเหตุผลที่ไปเป็นสจ๊วตแต่สิ่งที่หมูไม่เคยคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อหนังสั้นความยาว 31 นาทีของเขา ได้กลายเป็นหัวเชื้อสำคัญให้รุ่นน้องปีติดกันอย่าง ใหม่ นำมาต่อยอด สร้างเป็นหนังของตัวเองเพื่อฉายในเทศกาลหนังกางจอปีถัดมา
เรื่องย่อ รีวิว ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ (SuckSeed)
“ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะทำ อยากตัดหนังให้คนอื่นอย่างเดียว แต่ทุกคนก็บิลด์ว่าต้องทำ ก่อนหน้านั้นก็ดูหนังพี่หมูแล้วชอบมาก แล้วคาแรกเตอร์ของวง SuckSeed มันจัดมาก บวกกับเราเองก็ชอบแต่เรื่องดนตรี อยากทำเพลงมากกว่าทำหนังอีก เลยคิดว่าถ้าเอาตัวละครจากหนังพี่หมูมาใส่ในหนังเราก็น่าจะสนุกดี” หนังฟรี หนังใหม่
‘ฝันบ้า กีตาร์อากาศ Suck in the Air’ เล่าเหตุการณ์หลังจากวง The SuckSeed โด่งดังแล้ว แต่วันหนึ่ง ชัย มือกีตาร์เกิดเสียชีวิตกะทันหัน ทางวงจึงจัดแข่งขันแอร์กีตาร์เพื่อรำลึกถึงพร้อมกับมอบกีตาร์ของชัยแก่ผู้ชนะ ซึ่งมีมือดีหลายคนเข้ามาประกวด หนึ่งในนั้นมี สิทธิ์ เด็กห่วยขี้อายที่มีชัยและวง The SuckSeed เป็นแรงบันดาลใจด้วยพอปีต่อมา เยเมนส์ ผู้รับบท ขวด มือเบสของ The SuckSeed ก็เดินตามรอยรุ่นพี่ ด้วยการทำหนังภาคต่อ อย่าง Suck3/2Seed โดยหยิบเลือกเอาช่วงเวลาระหว่าง 2 ภาคแรกมาขยาย
“ความจริงคิดหนังไว้หลายเรื่อง แต่เพื่อนๆ คอมเมนต์ว่าไม่น่ารอด พอดีช่วงนั้นวงบอยแบนด์เกาหลีกำลังมา เลยคิดว่าหากทำให้ SuckSeed เป็นวงบอยแบนด์ก็น่าจะสนุกดี บวกกับตอนนั้นเพิ่งดูหนังเรื่อง Tenacious D ที่ซาตานกับวงร็อกทำสัญญากัน เลยคิดกลับด้านว่า หากเอาวงร็อกมาทำสัญญากับซาตานที่เป็นบอยแบนด์จะเป็นยังไง เหมือนกับช่วงนั้นร็อกกำลังจะดับสูญลงไป แล้วบอยแบนด์กำลังจะมา ภาคนี้จึงค่อนข้างดูเซอร์เรียลกว่าสองภาค
เก้ง-จิระ มะลิกุล โปรดิวเซอร์ใหญ่จาก GTH ซึ่งเป็นขาประจำของเทศกาลหนังกางจอ และได้เห็นหนังตระกูล SuckSeed ต่อเนื่องกัน 3 ปีซ้อน จึงเกิดความสนใจ อยากนำทุกเรื่องมาจับมัดรวมกันทำเป็นหนังใหญ่สักที ดังเช่นที่เขาเคยให้สัมภาษณ์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
“ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นแรงบันดาลใจของน้องให้ทำเรื่องต่อๆ มา มันต้องมีดีแน่ๆ เลย สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ในหนังคือ ถ้าเราตั้งใจเล่นดนตรีให้ดี มันก็เหมือนกับการตั้งใจที่จะบรรลุสิ่งใดสิ่งหนึ่งในชีวิตให้ดีเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นกับทั้งภาคสองและภาคสามด้วย แสดงว่าตัวแรงบันดาลใจตัวหนึ่งที่หมูสร้างขึ้นมันมีจริง และมันได้ถูกส่งต่อ ถ้าเราทำตัวนี้ขึ้นมาเป็นหนังที่คนหมู่มากดูได้ ผมก็เชื่อว่าแรงบันดาลใจนี้ที่เราเชื่อว่ามันมีจริง จะถูกส่งต่อไปเช่นกัน”
ไอเดียที่เก้งวางไว้ในเวลานั้นคือ การนำหนังสั้นทั้ง 3 เรื่องมาร้อยต่อกัน โดยมีวง The SuckSeed เป็นตัวเชื่อมโยง อารมณ์เหมือนกับหนังเรื่อง สี่แพร่ง โดยเขาได้มอบหมายให้ใหม่ ซึ่งเพิ่งเข้ามาทำงานเป็นมือตัดต่ออยู่ที่ GTH ได้ราว ๆ ปีเศษเป็นตัวกลางนัดหมายหมูกับเยเมนส์มาคุยกัน รวมทั้งยังให้ชวนไก่กับเป็ด เพื่อนสนิทของเยเมนส์ ซึ่งเก้งประทับใจผลงานตั้งแต่เทศกาลหนังกางจอมาร่วมโครงการด้วย
“ตอนนั้นเป็ดทำแอนิเมชันที่ดีมาก เป็นเรื่องตัวห่วยเหมือนกันอีกมุมหนึ่ง คือมีจุดร่วมของมันอยู่ เพียงแต่อยู่อีกธีมหนึ่ง ส่วนไก่ก็ฉีกไปเลย เป็นหนังจริงจังเลย ครบเครื่องมาก ได้ไปประกวดเมืองนอก ได้ฉายทั่วโลก” พี่ใหญ่ของกลุ่มเล่า “พูดง่ายๆ ไก่เป็น Film Maker จริงๆ คนเดียวในหมู่พวกเรา” ใหม่ต่อประเด็น
รีวิว ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ (SuckSeed)
“จำได้ว่าวันนั้น เขาชวนให้ไปนั่งกินที่ร้าน Tony Roma’s ที่นานา แล้วพี่เก้งก็บอกว่าอยากชวนทั้งห้าคนมาทำหนัง พอเขาพูดขึ้นมา เราก็ตอบรับทันทีเลย” หมูสรุปเรื่องราว และนั่นเองที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์ SuckSeed อย่างเป็นทางการแม้จะมีสารตั้งต้นเป็นหนังสั้น 3 เรื่อง แต่เรื่องหนึ่งที่เก้งทักท้วงมา คือ Suck3/2Seed ค่อนข้างหลุดจากสองภาค จึงต้องเขียนตอนสุดท้ายใหม่ ทั้ง 5 คนใช้เวลาทำบทอยู่ร่วมครึ่งปี แต่เขียนออกมาเท่าไหร่ก็ยังไม่พอใจสักที กระทั่งโปรเจกต์เกือบล่ม
“เราเขียนเรื่องนักดนตรีที่เคยยิ่งใหญ่มาก ชื่อพี่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนหลังตกอับ หันไปเล่นดนตรีอยู่ใน Food Court แล้วพวก SuckSeed มาเจอก็เลยเกิดแรงบันดาลใจ” หมูย้อนความทรงจำ“พี่ๆ เขาบอกว่า มันเหมือนเป็นเรื่องแต่งเกินไป พออ่านแล้วไม่รู้สึกเหมือนตอนที่ดู SuckSeed ทั้งสามตอน ซึ่งอันนั้นมีพลัง มีความสนุก มีความจริงอยู่ในนั้น เขาก็เลยบอกว่าไม่น่ารอด” เป็ดขยายความต่อ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
“ตอนนั้นก็ระเบิดทิ้งหมดเลย หายไปนานหลายเดือน จนสุดท้ายพี่เขาก็บอกว่าเอาใหม่แล้วกัน แล้วเขาก็ให้การบ้านเรามา คือให้เขียนประสบการณ์การเล่นดนตรีของตัวเองมาเรื่องหนึ่ง กับเรื่องความรักอีกเรื่องหนึ่ง รวมเป็นสิบเรื่อง แล้วพี่เก้งกับ พี่วรรณ (วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์) ก็จะมานั่งอ่านนั่งคัดกรองออกมาว่า อันไหนดีต่อยอดได้ แล้วก็มาเรียงเรื่องต่อๆ กันเป็นโครงเรื่อง เพื่อให้พวกเราไปลงรายละเอียดอีกที” ใหม่ฉายภาพจุดเปลี่ยนของโปรเจกต์
SuckSeed เวอร์ชัน 2 ต่างจากของเก่าอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ได้เน้นเรื่องวงดนตรีอย่างเดียว แต่มุ่งประเด็นไปยังเรื่องมิตรภาพของวัยรุ่นเป็นหลัก นำเสนอผ่านเรื่องราวของนักเรียน ม.6 กลุ่มหนึ่ง ซึ่งรวมตัวกันตั้งวงดนตรีเพราะอยากเท่ อยากโชว์หญิง แถมยังมีความฝันอยากเข้าประกวด Hotwave Music Awards อีกต่างหาก แต่ระหว่างทางกลับมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเต็มไปหมด
โดยเฉพาะความรัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ข้อดีที่สุดของโครงใหม่นี้คือ เกือบทุกอย่างล้วนอิงจากประสบการณ์จริงของทั้ง 5 คน ไม่ได้มาจากจินตนาการลอยๆ เหมือนตอนแรก จึงง่ายต่อการสื่อสารไปยังผู้ชมส่วนใหญ่ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่น
“สิ่งที่หนังพูดถึงเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจ เคยประสบกับมัน ทุกคนมีช่วงเวลาเดียวกับตัวละคร มีสุข มีทุกข์ อย่างเรื่องเพื่อนซึ่งเป็นธีมที่ใหญ่สุดในหนัง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนอิน อย่างบางคนก็เคยทะเลาะกับเพื่อนเรื่องผู้หญิง เคยทำนั่นทำนี่กับเพื่อน ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องสากล เป็นความทรงจำดีๆ ที่พูดได้ไม่รู้จบ” หมูฉายภาพไอเดียของเรื่อง แต่แน่นอนสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีการปูเรื่องให้ชัดเจนที่สุด ซึ่งตามโครงที่เก้งกับวรรณช่วยกันร่างขึ้น ทั้งคู่ได้เลือกเอางานของเป็ด ซึ่งมีเส้นเรื่องที่แข็งแรงสุดเป็นฐานของบทภาพยนตร์ รีวิวหนังรัก