รีวิว Purple Hearts
ในยุคสมัยนี้ที่เราจะสังเกตเห็นได้ชัด ๆ เลยว่า พวกหนังรักโรแมนติกทั่วไปแทบจะไม่มีที่ยืนในการพาตัวไปลงจอฉายในโรงหนังรัก ภาพยนตร์ เพราะถ้าหากว่าไม่เจ๋งจริงแล้วละก็…มีสิทธิ์ปังพินาศสูงไม่น้อย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หนังแนวนี้ต่างพากันทยอยลงจอสตรีมมิ่งกันหมด เช่นเดียวกับ “Purple Hearts”รีวิวหนังรักดราม่าหนังรักกลิ่นหอมหึ่งโชยมาเรื่องล่าสุด ที่กลายเป็นบทรักดราม่าที่เหมือนจะธรรมดา ๆ แต่พอได้ดูเนื้อในแล้ว…เออ ก็เพลินดีเหมือนกันนะดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
รีวิว Purple Hearts เรื่องย่อ
เรื่องย่อ:แคสซี่ ( รับบทโดย โซเฟีย คาร์สัน ) ศิลปินสาวเปี่ยมไฟฝัน ตัดสินใจแต่งงานกับ ลุค ( รับบทโดย นิโคลัส กาลิตซีน ) นาวิกโยธินหนุ่มที่กำลัง จะไปประจำการที่อิรักหลัง เจอกันได้เพียงแค่สองสัปดาห์ ทั้งคู่ทำข้อตกลงกันเพื่อผลประโยชน์จากสวัสดิการของกองทัพ แต่กลับมีเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาต้องหันมาทบทวนความสัมพันธ์ปลอมๆ นี้อย่างจริงจัง
นิโคลัส กาลิตซีน รับบท ลุค มอร์โรว หนุ่มเจ้าปัญหาที่ตัดสินใจเข้าเป็นทหารในหน่วยนาวิกโยธิน เพราะคิดว่าการเข้ากองทัพจะทำให้เขาได้ความเคารพคืนจากพ่อ เขาเป็นคนเจ้าระเบียบ ดูเป็นหนุ่มเจ้าบงการและยึดความคิดของตนเป็นหลัก แต่ก็มีมุมอ่อนโยนและอ่อนแอภายในใจ
นิโคลัส กาลิตซีน รับบท ลุค มอร์โรว หนุ่มเจ้าปัญหาที่ตัดสินใจเข้าเป็นทหารในหน่วยนาวิกโยธิน เพราะคิดว่าการเข้ากองทัพจะทำให้เขาได้ความเคารพคืนจากพ่อ เขาเป็นคนเจ้าระเบียบ ดูเป็นหนุ่มเจ้าบงการและยึดความคิดของตนเป็นหลัก แต่ก็มีมุมอ่อนโยนและอ่อนแอภายในใจ
โซเฟีย คาร์สัน รับบท ‘ แคสซี่ ’ แคสซานดรา ซาลาซาร์ นักร้อง – นักแต่งเพลงสาวที่มีดนต รีคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต หลังตรวจพบว่าตัวเอง เป็นโรคเบาหวานชนิดที่หนึ่ง ทำให้เธอแบกรับภาระหนี้สินที่มีไม่ไหว แคสซี่มีความเป็นเฟมินิสต์ รักอิสระ และ ไม่เชื่อในความรัก ใฝ่ฝันที่จะ เป็นนักดนตรี ผู้ประสบความสำเร็จ
รีวิวหลังดู
Purple Hearts เป็นเรื่องราวชีวิต ของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่ต่างต้องเผชิญหน้า กับอุปสรรค และ ปัญหาชีวิตด้วยกันทั้งคู่ แคสซี่ มีความฝันอยากจะเป็นนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จ แต่เธอยังติดแหง็กเป็นแค่บาร์เทนเนอร์ ในบาร์ เพราะปัญหาเรื่องหนี้สิน เช่นเดียวกับ ลุค อดีตหนุ่มใจแตกที่เกณฑ์ทหารเข้ากรม เพื่อหวังจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง พวกเขาทั้งคู่ได้ตกลงปลงใจแต่งงานกันแบบหลอก ๆ เพื่อหวังจะได้ใช้สวัสดิการกองทัพกับผลประโยชน์ของตัวเอง
แค่ฟังพล็อตเรื่องก็สัมผัสได้ถึงความคลี่เช่ซ้ำซากไม่เบา นี่มันพล็อตสมัย 20 ปีก่อนด้วยซ้ำ กับหนุ่มสาวต้องจำใจมาแต่งงานกันหลอก ๆ แล้วอยู่ ๆ ไปก็หลงรักกันขึ้นมา เป็นพล็อตที่จำเจและเพียงเท่านี้เราก็ทราบถึงปลายทางของเรื่องกันแทบจะไม่ต้องเดาอะไรกันให้ยากเลยด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่า…สิ่งที่ออกมานั้นก็เป็นไปอย่างที่เราคิดนั้นแหละ หนังดำเนินไปตามสูตรสำเร็จเป๊ะ ๆ เลย
แต่กลายเป็นบนพื้นฐาของความซ้ำซากนั้น Purple Hearts กลับสามารถใส่เสน่ห์บางอย่างเสริมเข้าไป ที่พอจะช่วยยกระดับให้กับหนังรักดราม่าน้ำเน่า ๆ เรื่องนี้ให้ดูดีขึ้นมาได้เป็นกอง ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบของการเล่าเรื่อง ที่ไม่ได้ชวนน้ำเน่าคาวกลิ่นใด ๆ แต่หนังดำเนินไปพร้อมกับด้านหม่นเทาของคาแรกเตอร์ตัวละครทั้งสองตัว ที่ต่างก็ไม่ใช่บุคคลที่มีภูมิหลังที่สะอาดอะไร
และเมื่อมาผนวกเข้ากับอินเนอร์และเสน่ห์ของนักแสดงนำทั้งคู่นี้ “โซเฟีย คาร์สัน” กับ “นิโคลัส กาลิตซีน” ที่ต้องยอมรับเลยว่าพวกเขาโปรยเสน่ห์ได้ดีในหนังเรื่องนี้ อีกทั้งยังเข้าถึงบทบาทตัวละครที่ได้รับอย่างลึกซึ้งอย่างน่าทึ่งอีกด้วย ซีนอารมณ์ก็จัดให้เต็ม ซีนหวาน ๆ ก็หยอดมาได้พอเหมาะพอเจาะ เป็นเคมีนักแสดงที่น่าเหลือเชื่อว่าจะเข้ากันได้เพียงนี้ นี่จึงเป็นอีกองค์ประกอบที่ช่วยส่งเสริม Purple Hearts เรื่องนี้
ถึงโครงเรื่องของหนังจะน้ำเน่าสไตล์หนังจากนิยาย นิโคลัส สปาร์กส์ ในยุคก่อนประมาณนั้น ทั้งความดราม่าและการหยิบเอาเรื่องราววงการเครื่องแบบสีกากีเข้ามาพูดถึง เป็นสูตรสำเร็จที่คนดูน่าจะเคยเห็นกันมาแล้ว แต่หนังสามารถแตะต้องและจับประเด็นได้อย่างตรงไปตรงมา ทำให้กลิ่นเน่า ๆ กลายเป็นกลิ่นชวนดมเได้เพลินไปอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน
โดยเฉพาะเมื่อได้ลีลาและฝีมือการกำกับของ “เอลิซาเบธ อัลเลน โรเซนบาม” ที่เพิ่งจะสร้างสรรค์ฉบับใหม่ของนายซินใน Sneakerella ของดิสนีย์พลัส เธอยังคงสามารถตีโจทย์หนังที่มีความคลีเช่สูงให้ออกมาเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความยูนีคได้อย่างเหมาะเจาะ และใน Purple Hearts เรื่องนี้ก็ด้วยเช่นกัน เธอหยิบเอาสูตรสำเร็จเดิม ๆ มากลั่นใหม่กลายเป็นหนังรักที่รสชาติกำลังพอดี
เอาเป็นโดยภาพรวมนั้น Purple Hearts ถือว่าเป็นหนังรักที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเหนือความคาดหมายไปเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าจะสามารถตอบโจทย์ความน้ำเน่าได้ชวนชมเพียงเท่านั้น เป็นความจำเจในรูปแบบที่ยังทำออกมาได้สนุก เคมีพระนางเข้ากันได้ดี และหลาย ๆ องค์ประกอบก็ทำออกมาได้ดี อีกทั้งนี่กลายเป็นหนังแนวที่ค่อนข้างหาดูได้ยากขึ้นในยุคนี้ เป็นความซ้ำซาก..ที่เราเพลินได้อย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน
– ภาพยนตร์รักสะท้อนชีวิตและสังคม
แม้โทนเรื่องจะดูโรแมนติกและคาดเดาได้แต่ก็ไม่ใช่หนังรักจ๋าซะทีเดียว เมื่อดูไปแล้วกลับได้สัมผัสถึงชีวิตของคนอเมริกันโดยเฉพาะกลุ่มพลเมืองชั้นสองและกลุ่มทหารที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องสันติสุขของประเทศ ผ่านตัวละครของพระนาง แคสซี่ ที่มีแม่เป็นผู้อพยพ แม้แม่ของเธอจะอยู่ที่นี่มานานเกินกว่ายี่สิบปีและจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลเช่นกัน แต่กลับถูกเลือกปฏิบัติสังเกตจากการได้รับสวัสดิการต่างๆ เห็นได้ชัดคือประกันสุขภาพที่เธอมีอยู่นั้นไม่ครอบคลุมถึงปัญหาสุขภาพที่มี จึงทำให้เธอต้องเลือกแต่งงานปลอมๆ กับพระเอก เพราะคู่สมรสนาวิกฯ จะได้สวัสดิการสุขภาพเต็มรูปแบบและเงินพิเศษเช่นค่าที่พักอาศัยพื้นฐาน ทางด้าน ลุค ที่แรกเริ่มตัดสินใจเข้ากองทัพเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับพ่อ แต่พอได้เข้าสู่ฐานทัพและสมรภูมิจริง ความตั้งใจของเขาก็เปลี่ยนไป เกิดเป็นความรักชาติและตั้งใจที่จะปกป้องความสงบสุขจากใจจริง การตัดสินใจแต่งงานกับแคสซี่ก็เพื่อจะนำเงินสวัสดิการในแต่ละเดือนไปใช้หนี้ที่เขาเคยก่อไว้ นอกจากจะทำให้คนดูคอยลุ้นกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้ว เรายังจะได้ลุ้นให้พระเอกกับพ่อกลับมาสานสัมพันธ์กันดังเดิม รวมถึงก้าวสำคัญในชีวิตของนางเอกไปพร้อมกัน
– คาแรกเตอร์พระนางต่างกันแบบสุดขั้ว
พระนางเจอกันครั้งแรกที่บาร์ซึ่งนางเอกทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์และแคชเชียร์อยู่ แคสซี่ได้เจอกับ ‘แฟรงกี้’ เพื่อนสมัยเด็กที่เป็นหนึ่งในกลุ่มของทหารนาวิกฯ และบังเอิญสบตากับลุคเข้าพอดี แม้จะมีประกายจี้หัวใจระหว่างทั้งคู่ แต่กลับมีเหตุที่ทำให้พวกเขาทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างยึดความคิดของตัวเองเป็นหลักจนทำให้ไม่ลงรอยกันในทันที เรียกว่าฉากโต้เถียงกันของทั้งคู่มีอยู่ประมาณครึ่งเรื่องเห็นจะได้ ทั้งนี้เรื่องจะค่อยๆ ปูให้เราได้เห็นถึงความรักความเข้าใจที่เริ่มก่อตัวขึ้น แม้จะแอบขัดใจกับบทนางเอกไปสักนิด แต่ก็ถือว่านักแสดงมีส่วนช่วยประคองเรื่องให้ถึงฝั่งไปได้ ความรักของทั้งคู่ค่อนข้างเกิดอย่างช้าๆ อย่างตอนที่พระเอกต้องไปประจำการที่อิรัก นางเอกยังไปส่งเขาที่รถแบบงงๆ และทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกัน แต่ส่วนตัวแล้วชอบฉากที่ทั้งคู่อีเมลและวิดีโอคอลหากันเพื่อไม่ให้เกิดพิรุธ จุดนี้เหมือนพวกเขากำลังเริ่มจีบกัน มันจึงเป็นความสัมพันธ์จากการแต่งงาน-ลึกซึ้งใกล้ชิด(แป๊บเดียว)-เริ่มรู้จัก-ดูแลกันและกัน-เจอปัญหา-รักกันในที่สุด
นิโคลัส (พระเอกเรื่อง Cinderella ฉบับปี 2021) และ โซเฟีย (จากหนังทายาทตัวร้าย Descendants) เป็นคู่ที่เคมีเข้ากันดีกว่าที่คิด ด้วยบทของพระเอกที่หน้าตาดูน่ารักแต่มีความคิดและปมในใจ ส่วนนางเอกเป็นสาวติสท์รักอิสระที่ไม่เปิดใจรักใครง่ายๆ ทั้งคู่ถ่ายทอดบทบาทของตัวละครออกมาได้ดี ออร่าความสวยหล่อเปล่งประกาย โดยเฉพาะรอยยิ้มที่ทำให้คนดูอย่างเราเผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัว
สรุปโดยส่วนตัวแล้วชอบในเคมีของพระนาง งานภาพและการตัดต่อ รวมถึงเพลงประกอบในแต่ละฉากที่ทำได้อย่างลงตัว แม้จะมีขัดใจในเรื่องของบทเกี่ยวกับความคิดทัศนคติของตัวละครที่ถูกย้ำซ้ำๆ เช่นตัวของนางเอกที่ถูกพูดถึงว่ามีทัศนคติแบบเสรีนิยม หรือจะเป็นความหัวแข็งของคู่พระนางที่มันทำให้เราได้เห็นถึงฉากทะเลาะกันของพวกเขามากกว่าฉากสวีตหวานแหววอย่างที่เราหวังไว้ โดยรวมแล้วถือเป็นเรื่องที่เหมาะสำหรับคนที่อยากดูอะไรเรื่อยๆ หนังแนวรักซึมลึกที่ความรักค่อยๆ ก่อตัว มีความดราม่าคละเคล้าแต่ไม่ถึงกับน้ำตาไหลพราก และสุดท้ายจบแบบอิ่มเอมใจ จุดเด่นคือพระนางสวยหล่อพร้อมเคมีสุดปัง ใครที่ยังไม่เคยดูก็ลองพิจารณากันนะคะ
หัวใจสีม่วงน่าจับตามองไหม?
หัวใจสีม่วง เป็นละครโรแมนติกมาก แนวคิดนี้ง่ายต่อการสรุป เธอต้องการประกันสุขภาพที่ดีกว่า และเขาต้องแต่งงาน
พวกเขาทำข้อตกลงและแต่งงานเพียงเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น แต่ที่ไหนสักแห่งระหว่างทางพวกเขาค่อย ๆ พัฒนาเป็นคู่รักที่รักกันจริง
ในแง่หนังก็ซึ้งและเชื่อได้ตลอดแนวหนังของ Nicholas Sparks อย่าง ขี่ที่ยาวที่สุด.
โดยพื้นฐานแล้วนั่นหมายความว่าไม่มีสิ่งใดในชีวิตของพวกเขาที่จะไปได้อย่างราบรื่น อันที่จริงหากมีอุปสรรคมากมายเกินกว่าที่คู่นี้จะเอาชนะได้
หัวใจสีม่วง เป็นหนังที่น่ารักเรื่องหนึ่ง แต่จะชนะรางวัลอะไรไหม? อาจจะไม่.
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Purple Hearts
ประเภท: โรแมนติก / ดราม่า
ผู้กำกับ: เอลิซาเบธ อัลเลน โรเซนบาม
นำแสดงโดย: โซเฟีย คาร์สัน, นิโคลัส กาลิตซีน
ความยาว: 122 นาที
กำหนดฉายในไทย: 29 กรกฎาคม 2022 (ที่ Netflix)