รีวิว Gone Girl
รีวิว Gone Girl เรื่องย่อ
“เมื่อคนสองคนรักกันแต่ชีวิตคู่ไปไม่รอด นั่นคือโศกนาฏกรรมที่แท้จริง” ประโยคเด็ดจากหนังเรื่อง Gone Girl เล่นซ่อนหาย เรื่องราวปัญหาชีวิตคู่ที่มาถึงทางตัน ผสมรวมกับสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย ส่งผลให้ทั้งสามีและภรรยาตกงานด้วยกันแพ็คคู่ ทั้งสองจึงตัดสินใจย้ายจากนิวยอร์กมาอยู่มิสซูรี ไม่เพียงแต่สภาพสังคมที่เปลี่ยนไป แต่วิถีชีวิตก็ยังเปลี่ยนไปด้วย ส่งผลให้สถานะชีวิตคู่ไม่เหมือนเดิมดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
Gone girl (2014) กำกับโดย David Fincher ผู้กำกับหนังตำนานอย่าง Fight club สร้างมาจากหนังสือนิยาย มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับนิคและเอมี่ คู่สามีภรรยาที่ดูอบอุ่นคู่หนึ่งรีวิวหนังรักดราม่า ดูเหมือนชีวิตของทั้งคู่ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่แล้ววันหนึ่งเรื่องมันดันมาเกิดเมื่ออยู่ๆ เอมี่ ภรรยาของนิคหายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อตำรวจมือสืบสวนเข้ามาทำคดี สืบไปเรื่อยๆ ก็พบความผิดปกติ โดยเฉพาะนิคเป็นผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจจับตามองที่สุด แต่ทว่าจริงๆแล้ว นิคก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แล้วเอมี่หายตัวไปได้อย่างไร ?
สำหรับเรื่อง Gone girl เป็นหนังแนวทริลเลอร์ สืบสวน โรคจิต ผมเคยดูหนังระดับเทพของ David Fincher มาแล้วอย่าง Fight Club (1999) และ The Girl with the Dragon Tattoo (2011) งวดนี้ได้ดู Gone girl นับว่าไม่เสียทีได้รับการกำกับโดย David Fincher เช่นกัน หนังยังคงมีสไตล์การกำกับที่เป็นเอกลักษณ์ (เอกลักษณ์หนังของแก คือ การดำเนินเรื่องที่ลึกลับ – ลื่นไหล และการเฉลยปมแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังตีน)
หลังจากได้ดูจบ อย่างแรกที่ต้องชื่นชม คือ “ความสามารถในเปลี่ยนนิยายชั้นดีให้กลายเป็นหนังชั้นเยี่ยมได้ ” เนื่องมาจาก Gone Girl เป็นหนังที่อิงเรื่องมาจากนิยาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ หนังที่มีนิยายเป็นต้นแบบ มักจะทำออกมาได้ไม่ดีนักหรือทำให้คนดูผิดหวัง เพราะว่า นิยายดีๆ จะมีเนื้อหาที่ดีและทรงคุณค่า นิยายไม่มีขอบเขตในการจำกัดความยาวในการเล่าเรื่อง ผิดกับหนังที่มักจะถูกออกแบบมาอย่างมากสุด ก็ไม่ควรเกิน 3 ชม. หนังบางเรื่องจึงต้องรวบรัดตัดทอนรายละเอียดจากหนังสือออกไป เพื่อทำให้ตัวเรื่องกระชับขึ้น และหลายๆเรื่องก็ทำพลาด ตัดอารมณ์ฟีลสำคัญของนิยายไป ทำให้หนังไม่สามารถสื่อความ สื่ออารมณ์ได้เหมือนในหนังสือ กลายเป็นว่าเข้าข่ายหนังสือดี แต่หนังดันโดนด่า ผมเลยจะบอกว่าในจุดนี้ไม่ใช่ปัญหาของ Gone Girl แม้แต่นิดเดียว แม้ว่าผมจะไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็พบว่า Gone Girl เป็นนิยายขายดีเรื่องหนึ่ง มีแฟนคลับมากมาย ความเห็นส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างไปในเชิงบวกสอดคล้องกับหนังสือ
บทหนังกว้างและลึก หักมุมอย่างคาดไม่ถึง
Gone Girl มีบทที่ดีทั้งในแง่ความกว้างและความลึก ตัวเรื่องมาในแนวสืบสวนปริศนาการหายไปของเอมี่ มีช็อตหักมุมหลายช็อต ทำให้คนดูเดาไม่ได้ และเมื่อดำเนินไปถึงระยะหนึ่งก็ข้ามโซนหนังไปเป็นแนวโรคจิต – เชือดเฉือนกันได้อย่างแนบเนียน จุดนี้ถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำได้เยี่ยม ถือว่าบทหนังเฉียบขาด นอกจากนี้ก็มีการแฝงประเด็นเสียดสีสังคมไว้ด้วย ประเด็นหนังที่เด่นมากคือ การเสียดสีสื่อทั้งหลายที่เวลามีข่าวอะไร ก็ใส่สีตีไข่ ขายข่าวหาตังอย่างเมามันส์ โดยไม่สนใจเลยว่าความจริงเป็นยังไง Gone Girl จิกประเด็นนี้ได้เจ็บแสบมาก (ยังมีประเด็นอีกหลายอย่างทั้งเรื่องเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว พ่อแม่ เรื่องชีวิตคู่อีกหลายๆอย่าง แนะนำให้ลองไปดูเอง)
อีกอย่างที่ผมชอบมาก คือบรรยากาศหนังที่ดูน่าพิศวงตลอดเวลา ล่อให้คนดูอยากรู้เรื่องราวต่อไป ผสมกับหักมุม ส่งผลให้การดำเนินเรื่องของหนังมีเอกลักษณ์ น่าสนใจตลอดเวลา เข้มข้น ฉับไว สนุก ตลกร้าย อีกเรื่องก็คือ การตัดต่อภาพและการสลับเรื่องไปมา ในระหว่างที่ได้ดู ผมได้พบการตัดภาพไปมาและการสลับเรื่องที่เหนือชั้นมากๆ สร้างอารมณ์หนังได้อย่างต่อเนื่อง ทรงพลังมาก และดนตรีประกอบภาพยนตร์ (Soundtrack) หนังที่ดูลึกลับๆ ผวาๆ ก็ทำให้หนังสื่อความออกมาได้ดียิ่งขึ้น
สรุป และ นักแสดง
ไฮไลต์ของหนังอีกอย่างคือ การแสดงของ Rosamund Pike ในบท Amy Dunne ขอบอกได้เลยว่าแสดงโคตรดีชนิดที่ว่า อ้าปากค้าง (ไม่อยากบอกมากกว่านี้เดี๋ยวกลายเป็นสปอยล์ไป) ถือว่าสมกับที่ได้เข้าชิงทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำ ส่วนบท Nick Dunne ได้ Ben Affleck มาแสดง พี่แกก็แสดงเหมือนเดิมนะแหละ ดูแข็งๆบ้าง แต่เรื่องนี้มันดันเข้าคาแรคเตอร์พี่แกซะงั้น (ผัวที่มาดดีแต่ก็ลวดลายเอาเรื่อง) เลยกลายเป็นตัวละครที่ผมชอบคาแรคเตอร์ดี
ส่วนตัวละครที่จัดว่ามาได้ถูกที่ถูกเวลา สร้างสีสันหนังได้มาก ทำให้หนังทั้งมีมิติและมีไดนามิค ก็คือ Margo Dunne (Carrie Coon) พี่น้องของนิค ช่วยสร้างมิติและอารมณ์ดราม่าได้ดี เธอเป็นคนๆเดียวที่อยู่ข้างนิคในเวลาที่นิคไม่เหลือใครและช่วยเหลือนิคอย่างแท้จริง อีกคนที่ชอบคือ บทคุณทนายที่มาช่วยชีวิตนิค Tanner Bolt (Tyler Perry) การเข้ามาของแกสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ตบมุกฮาหลายช็อต (แบบตลกร้ายนะ) ทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันน่าสนใจ คนสุดท้าย Missi Pyle (Ellen Abbott) นักข่าวผู้จัดรายการชื่อดังที่ทำให้นิคชีวิตต้องล่มสลาย ช่วยเสริมสร้างประเด็นเสียดสีสื่อสังคมได้ดี
สำหรับบางคนอาจจะเห็นว่า Gone Girl ได้รางวัลกระแสวิจารณ์มากมาย ทำให้คิดว่าต้องดูยากหรือดูไม่สนุกแบบหนังบล็อคบัสเตอร์ จริงๆก็ไม่ใช่หนังแบบบล็อคบัสเตอร์แหละ มีปมหลายอย่างที่ลึก แต่ก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก ปมทั้งหลายถูกทิ้งเอาไว้ เพื่อล่อคนดูให้คลางแคลงใจ ให้สงสัยอยากรู้ปริศนา สุดท้ายก็เฉลยออกมาหมดเปลือก ถือว่า Gone Girl สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งสายหนังรางวัลและสายดูหนังธรรมดา สำหรับคนดูสายหนังรางวัล Gone Girl มีเนื้อหาที่ลึก โครงเรื่องจากนิยายที่ดี ปมหนังที่น่าสนใจ มีชั้นเชิงของหนังที่เหนือกว่าหนังธรรมดา ประเด็นเสียดสีต่างๆ รวมถึงเทคนิคการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างมีสไตล์ไม่เหมือนใครตอบโจทย์คอหนังสายรางวัล ส่วนสายคนดูหนังธรรมดาก็สามารถดูได้สนุก ขบคิดได้ไปตามปมหนังได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร
Gone girl (สนุก ดำเนินเรื่องมีสไตล์ และหักมุมอย่างรุนแรง) จัดว่าเป็นหนังดีเรื่องหนึ่งที่ดูสนุก เข้มข้น จิกกัดประเด็นเรื่องสื่อมวลชน แถมยังแฝงความซาดิสต์ โรคจิตไว้ด้วย รวมถึงการแสดงของ Rosamund Pike เป็นไฮไลต์ของหนังมาก หนังเข้มข้น หักมุม พล็อตไม่เหมือนชาวบ้าน ดังนั้น Gone Girl ถือว่าไม่ควรพลาด
ประเด็นหลักของเรื่องคือ Gone Girl เป็นเรื่องของ คนสองคนที่พยายามจะเป็นคนในแบบที่เขาไม่ได้เป็น พยายามเป็นคนที่ดีกว่าที่ตัวเองเป็นเพื่อจะเป็นชายในฝัน/นางในฝันของอีกฝ่าย แต่สุดท้ายไม่มีใครรักษาความพยายามนั้นได้ตลอดไป เมื่อถึงจุดๆ นึง มันก็กลับมาทำลายชีวิตคู่ของทั้งคู่จนได้
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ความสัมพันธ์ในชีวิตจริงมีคนแบบนี้อยู่หลายคู่ เราพยายามเป็นคนในแบบที่เราไม่ได้เป็น ซึ่งมันมองได้ทั้งแง่บวกและแง่ลบ
ถ้ามองในแง่ดี เราอาจบอกได้ว่า คนนั้นแค่พยายามเป็นคนที่ดีที่สุดเพื่อคนที่เขารัก
แต่ถ้ามองในแง่ร้าย พูดง่ายๆ มันก็คือ Fake ดีๆ นั่นเอง
” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะทำตัวดีหรือเลวแค่ไหน ก็ตกนรกทั้งเป็นได้ ถ้าได้คนแบบนิคหรือเอมี่มาเป็นผัวหรือเป็นเมีย ”
หนัง : เล่นซ่อนหาย (Gone Girl)
ประเภทหนัง : Drama, Thriller
ผู้กำกับ : David Fincher
บทประพันธ์ : Gillian Flynn
ผู้เขียนบท : Gillian Flynn
วันที่เข้าฉาย : 23 ตุลาคม 2557
ความยาวหนัง : 149 นาที
นักแสดงนำ : Ben Affleck, Rosamund Pike, Neil Patrick Harris