ในความเป็นหนังตลก หนังยังคงหยอดมุกมาถี่ ๆ ติดบ้างไม่ติดบ้าง แต่ไม่มีมุกที่ไปถึงได้ถึงระดับขำแรง ส่วนหนึ่งเพราะมุกทำหน้าที่ของมันเอง ไม่มีดาราตลกรุ่นเก๋าอย่างโจว ซิงฉือเอง หรืออู๋ม่งต๊ะ , อู๋ จินหยูว , เจิ้ง จือเหว่ย ที่สามารถขยี้มุกพวกนี้ให้ฮาขึ้นไปได้อีกด้วยสีหน้าและลีลาการแสดงที่ลื่นไหลเพราะมาจากสายตลกด้วยประสบการณ์ คนที่ทำหน้าที่สีสันได้ดีสุดในเรื่องนี้คือ โชหลัว ในบทมนุษย์ปลาหมึก ได้ซีนขายมุกคนเดียวยาว ๆ อยู่ 2 ครั้งถือว่าทำหน้าที่เรียกเสียงหัวเราะได้มากที่สุดแล้ว ตัวประกอบหลายคนคุ้น ๆ
หน้าว่าอยู่ในหนังโจว ฉิงซือมาตั้งแต่ “คนเล็กหมัดเทวดา” ก็ทำหน้าที่ได้แค่ในกรอบจำกัด เติ้งเชาพระเอกของเรื่อง และหลินหยุน ในบทเงือกสาว
ที่มองเห็นได้ชัดว่าเป็น “ตลกพยายาม” มุกส่วนใหญ่จึงอยู่ได้ในระดับยิ้มและหึหึในลำคอ นี่อาศัยว่าหลายมุกยังได้ทีมงานพันธมิตรช่วยเติมสีสันลงไปด้วยแล้วนะ เรื่องนี้ถือว่าพันธมิตรทำหน้าที่ได้ดี ยิงมุกตรงกับเนื้อหา ไม่ล้นไม่เกินบทจนโดนด่าอย่างหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา นอกเหนือจากความฮา
หนังก็ยังมีเรื่องความรักของเงือกกับมนุษย์ที่ไม่ได้รู้สึกอินไปกับความรักของคู่นี้เลย ฉากแอ็คชั่นที่มนุษย์สวมบทตัวร้ายสุด ๆ รังแกเหล่าเงือก แต่โจว ซิงฉือก็ยังไม่ลืมบทสรุปแบบสาระ สร้างจิตสำนึกให้คนรู้สึกรักธรรมชาติท้องทะเล หนังใช้ทุนสร้างไปถึง 60 ล้านเหรียญ
ก็ถือว่ามากอยู่สำหรับหนังฝั่งเอเซียสักเรื่อง แต่ทุนขนาดนี้ก็ยังไม่สามารถทำงานซีจีออกมาได้เนียนนะ งานซีจียังดูหลอกตาชัดเจน ส่วนที่ชอบที่สุดในเรื่องนี้คือ ฉาง อี่ฉี ดาราขาประจำในหนังของโจว ซิงฉือ มาตั้งแต่ “นักเตะสาวเสี้ยวลิ้มยี่” เรื่องนี้เธอสวยมาก ทั้งหน้าทั้งชุด แล้วก็โชว์อึ๋มทั้งเรื่อง