รีวิว จดหมาย ความทรงจำ
คุณอาจจะเคยตราตรึงใจกับหนังเรื่อง “The Letter จดหมายรัก”ไปเมื่อปี 2004 มาแล้ว มาวันนี้เราจะขอแนะนำภาคต่อสุดฮิตเรียกน้ำตาได้อย่างต่อเนื่องกับหนังเรื่อง “Timeline จดหมาย ความทรงจำ” ซึ่งเป็นหนังรักในปี 2014 ซึ่งฉลองครบรอบ 10 ปีพอดี แต่ในหนัง Timeline จดหมาย ความทรงจำจะมีการเปลี่ยนชื่อตัวละครคู่พระนางจาก The Letter เพราะมีเรื่องของลิขสิทธิ์มาเกี่ยวข้อง เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี
และ The Letter ก็เป็นหนังที่ไทยรีเมคมาจากเกาหลีอีกทีซึ่งทางนั้นก็ไม่ได้มีโปรเจ็คต์ทำภาคต่อใด ๆ ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวละครใหม่และเหลือไว้ต่อเนื่องเพียงโครงเรื่อง แต่ก็ยังทำให้ผู้ชมตราตรึงใจเช่นเดิม วันนี้เราก็จะนำหนัง Timeline จดหมาย ความทรงจำมารีวิวให้ทุกคนได้รู้กันว่าจะน่าสนุกและซึ้งกินใจแค่ไหน หนัง Timeline จดหมาย ความทรงจำ (2014) ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “แทน” ที่สอบติดคณะวารสารศาสตร์อย่างที่ตัวเองใฝ่ฝันแทนที่จะเลือกสอบเข้าคณะเกษตรศาสตร์ตามที่ “มัท”แม่ของเขาต้องการเพราะอยากสืบทอดเจตนารมณ์ของคนรักที่
เสียชีวิตไปแล้ว แม้ทีแรกมัทจะไม่เห็นด้วยแต่ในเมื่อเป็นความสุขของลูก เธอจึงยอมให้แทนได้เรียนในคณะที่ต้องการ ด้านแทนเมื่อได้เข้ามาใช้ชีวิตเฟรชชี่ในมหาวิทยาลัยก็ได้พบกับ “จูน”เพื่อนร่วมคณะที่ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเขาให้สดใส ไปไหนไปกันจนกลายเป็นเพื่อนสนิท ทว่าแทนกลับชื่นชอบ “อร”รุ่นพี่ที่ทำหนังโดยไม่รู้เลยว่าจูนนั้นได้แอบชอบเขาเช่นกัน เช่นนี้แล้วแทนจะเลือกอะไรที่เป้นความสุขแท้จริงของเขา
หนัง Timeline จดหมาย ความทรงจำ (2014) อาจไม่ใช่หนังที่เกี่ยวกับจดหมายโดยตรง แจ่จะเน้นในด้านของมิตรภาพและการรู้จักรูปแบบความรักที่ไม่ใช่ว่าจะอาศัยการลองผิดลองถูก แต่เป็นการรู้จักพิจารณาความรักและความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อคนรอบข้าง ซึ่งตัวของพระเอกที่อยู่ในวัยผลัดเปลี่ยนเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ทำให้มีความสับสนตัวเองหลายอย่าง แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ไปเที่ยวกับจูน พูดคุยปรับทุกข์หลายอย่างกับเพื่อนสนิท
ซึ่งนางเอกเองก็ได้แอบชอบเขา คอยเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้างเขาพร้อมรอยยิ้มเสมอแม้ว่าหลายครั้งจะต้องเจ็บปวดที่เห็นพระเอกเอาแต่พูดถึงพี่อรที่เขาชอบ นางเอกทนได้เสมอจนสุดท้ายที่ความสัมพันธ์ฉันแฟนของเขากับพี่อรเริ่มเปลี่ยนไป เพราะพี่อรไม่ได้ชอบแทนจริง รักแบบน้องและเบ้ที่คอยเอาใจมากกว่า ทำให้แทนเริ่มโลเลแต่ก็พยายามคิดว่าตัวเองชอบอีกฝ่ายจนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้นางเอกหมดความอดทนจนเกิดเป็นเรื่องราวเรียกน้ำตาขึ้นมา
ตัวหนังมีการใช้ความสวยงามของอำเภอสะเมิงในบางฉากเช่นเดิมและยังเพิ่มด้วยโลเกชั่นของต่างจังหวัด และที่เซอร์ไพรส์สุดก็คือความงดงามของทะลเรืองแสงที่นางเอกพูดมาตลอดว่าอยากไปซึ่งมีอยู่จริงที่ญี่ปุ่น สถานที่นี้เป็นทั้งฉากที่ทำให้เรามีความสุขและน้ำตาไหลไปกับจุดพลิกผันของชีวิตนางเอกได้ในเวลาเดียวกัน เป็นหนังที่ไม่ควรพลาดทุกประการ
หนัง Timeline จดหมาย ความทรงจำ (2014) ได้สอนให้เรารู้ว่าความรักย่อมมีหลายรูปแบบ แต่ในคนที่เพิ่งเริ่มมีความรักนั้นคุณอาจจะสามารถสับสนได้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับคนคนนั้น เพราะบางทีคนที่คุณบอกว่าชอบมากมายอาจจะเป็นเพียงแค่ ความชื่นชมเท่านั้น ตรงข้ามกับอีกคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณซึ่งคุณอาจรู้สึกเบาบางไม่ชัดเจนเหมือนอีกคน แต่ภายในกลับสัมผัสได้ว่าอยู่กับเขาสบายใจ มีความสุขและเป็นตัวของตัวเองที่สุด พอไม่เห็นเขาก็จะรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ไม่ได้ นั่นแหละคือ “ความรัก”บางทีเราก็ไม่เข้าใจจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่เข้ามากระตุ้นคุณเอง สำหรับบางคนอาจจะรู้และมีโอกาสบอกรักเขา แต่สำหรับบางคนอาจจะสายไปเสียแล้ว
เรื่องย่อ รีวิว จดหมาย ความทรงจำ
แทน รับบทโดย เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข เด็กหนุ่มวัย19 ร่าเริง สดใส ตัวแทนของเด็กต่างจังหวัดที่มาเรียนต่อในกรุงเทพ เกิดและเติบโตท่ามกลางบรรยากาศของขุนเขาและไร่สตรอว์เบอร์รี่ในจังหวัดเชียงใหม่ ชีวิตผูกผันและถูกเลี้ยงดูโดยแม่มัทเพียงลำพัง เนื่องจากสูญเสียพ่อทันไปตั้งแต่ที่แทนยังไม่ลืมตามองดูโลกใบนี้ จากเรื่องราวและร่องรอยความทรงจำแห่งรักของพ่อทันที่ยังคงอยู่และไม่เคยเลือนหายไปจากใจแม่มัททำให้ชีวิตของแทนเหมือนถูกขีดวงอยู่ในกรอบเงาของพ่อทันที่แม่วาดไว้โดยไม่รู้ตัว เขาจึงพยายามหาพื้นที่ยืนและทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หนังฟรี หนังใหม่
จูน รับบทโดย เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ เพื่อนร่วมคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกันกับแทน เด็กสาวที่มองโลกในแง่ดี กล้าคิด กล้าแสดงออก สดใส เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความฝัน เสน่ห์ของจูนคือตัวแทนของหญิงสาวที่พร้อมจะเติมเต็มและทำให้โลกรอบๆตัวใบนี้ยิ้มและหัวเราะไปพร้อมกับเธอ เป็นเพื่อนสนิท ที่พร้อมอยู่เคียงข้างและเป็นแรงบันดาลใจให้กับแทนทั้งยามสุขและเศร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำให้แทนได้รู้จักตัวเอง และคุณค่าของความรักอย่างแท้จริง
มัท รับบทโดย ป๊อก ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ หญิงสาวที่ตั้งใจเลือกทิ้งความเป็นชาวกรุงเพื่อใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและมีความสุขในช่วงบั้นปลายกับทันหนุ่มคนรักและไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่เชียงใหม่ แต่กลับต้องสูญเสียคนรักและตกอยู่ในสถานะsingle mom เลี้ยงดูแทนลูกชายเพียงคนเดียวตั้งแต่ยังไม่ทันลืมตาดูโลก แต่ดูเหมือนว่าสิ่งเดียวที่เป็นดั่งน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจและทำให้มัทยังคงมีชีวิตดำเนินต่อคือถ้อยความรู้สึกดีๆผ่านร่องรอยของความทรงจำแห่งรักจากช่วงเวลาในอดีตที่ถูกส่งต่อจากทัน
มายังแทนลูกชายที่เปรียบได้กับตัวแทนความรักของทั้งคู่ ถึงแม้วันเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด ไม่ว่าจะมีใครพยายามเข้ามาในชีวิต แต่ความรู้สึกดีๆที่มัทได้รับจากแทนไม่เคยเลยแม้แต่วินาทีเดียวจะหล่นหายไปจากใจ แต่กลับกลายเป็นเงื่อนปมแห่งความคาดหวังที่นับวันจะยิ่งผูกมัดให้แทนเติบโตมาภายใต้เงาของพ่อในแทบทุกเรื่อง
วัฒน์ รับบทโดย ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม ชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของมัทคอยช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างมาโดยตลอดด้วยบุคลิกที่สุภาพเป็นคนใจดีจึงเป็นที่รักและนับถือของทุกคนที่สะเมิง เป็นเหมือนเพื่อนที่ดีของครอบครัวมัทและแทน แต่ลึกๆแล้วแอบชอบมัทมาโดยตลอด หลังจากที่แทนไปเรียนต่อที่กรุงเทพก็จะมีเพียงวัฒน์ที่คอยดูแลและพยายามเติมเต็มความรู้สึกดีๆให้กับมัท
เนื้อเรื่องก็จะพูดถึงพระเอก คือแทน ได้ไปเรียนเรียนต่อในกรุงเทพฯ ในคณะวารสารศาสตร์ เมื่อถึงวันรับน้องแทนและจูน ซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง ได้มาสายจึงถูกทำโทษ และตั้งแต่วันนั้นมาทั้งคู่ก็สนิทกันขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนจูนจะแอบชอบแทน และก็ให้ เกิดเป็นรักข้างเดียว ตัดมาที่แม่ของแทนที่กำลังเจอวิกฤตหนักคือพืชพันธุ์ได้ล่มตายหมด แต่ด้วยความแข็งแกร่งของแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอก็ได้เรียนรู้วิธีทำแยกสตรอว์เบอร์รี่ และก็เธอก็ผ่านวิกฤตนั้นไปได้ด้วยดี ในด้านแทนและจูนได้ชักชวนกันเข้าชมรม
ภาพยนตร์ และแทนก็ได้ไปชอบกับรุ่นพี่เจ้าของชมรม และยังเสนอบ้านเกิดตัวเองในการทำโปรเจกต์ภาพยนตร์สั้นอีกด้วย ด้านความสัมพันธ์ของแทนและรุ่นพี่คนนี้ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างแทนกับจูนกลับก็ถอยหลัง ไม่ว่าจูนจะทุ่มเทให้แทนขนาดไหน เขาก็ไม่เคยเห็นค่ามัน มิหนำซ้ำเขายังทะเลาะกับแม่อีกด้วย ความเลวร้ายยังไม่หมดเท่านี้ เพราะรุ่นพี่ที่เขาชอบกลับมีแฟนใหม่ และจูนก็ได้ออกไปจากชีวิตเขาอีกด้วย สุดท้ายทำให้แทนคิดได้ว่าคนที่รักเขาที่สุดคือแม่และจูน เวลา
ผ่านไปจูนได้ส่งภาพแสงเหนือที่ประเทศญี่ปุ่นมาให้แทนดู ที่จูนเคยพูดกับแทนว่าอยากไป และทั้งคู่สัญญาว่าจะกลับเจอกัน แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือข้อความสุดท้ายที่เขาทั้งคู่ได้คุยกัน เพราะจูนประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต เพราะไปช่วยเด็กที่กำลังจมน้ำ ในช่วงท้ายของเรื่องทุกอย่างจะถูกเฉลยว่าจูนได้ทุ่มเทให้แทนมากขนาดไหน
รีวิว จดหมาย ความทรงจำ
แต่ก็สายไปแล้วเมื่อแทนจะได้รู้ความจริง สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ออกฉายในปี พ.ศ.2557 รวมรายได้ทั้งหมดประมาณ 51 ล้านบาท นำแสดงโดย เจมส์ จิรายุ รับบท แทน เต้ย จรินทร์พร รับบท จูน และป๊อก ปิยธิดา รับบท มัทแม่ของพระเอก เรื่องนี้ผู้เขียนแนะนำเลยว่า ถ้าใครยังไม่เคยดู ต้อง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
หาดูนะครับ เพราะนอกจากจะสนุกแล้ว ยังซึ้งกินใจมาก เนื้อเรื่องตอนช่วงแรกๆก็เหมือนทั่วๆไปที่จะมีการแอบชอบเพื่อน รักสามเศร้า หรือการอกหัก แม้กระทั่งเรื่องสถาบันครอบครัวก็มีเช่นเดียวกัน ที่จะให้ทั้งข้อคิดในเรื่องต่างๆ ส่วนช่วงสุดท้ายถือว่าเป็นจุดขายของเรื่องเลยครับที่พระเอกคิดได้ว่านางเอกชอบเขาขนาดไหน แต่ก็สายไปเพราะเนื้อเรื่องคือนางเอกเสียชีวิต ถือว่าทำร้ายคนดูกันเลยทีเดียวครับ เพราะตลอดทั้งเรื่องจะเห็นได้ว่านางเอกทุ่มเทกับพระเอกไปมาก ไม่ว่าจะเป็นยอมลงมือ
ทำอาหารทั้งที่ไม่เคยทำ ซื้อจักรยานคันที่พระเอกเอาไปขายเพื่อเอามาเก็บไว้ เมื่อพระเอกอยากได้มันคืน หรือแม้กระทั่งเอาต้นไม้ประจำตัวพระเอกมาปลูกไว้ที่บ้านตนเอง แต่พระเอกก็ไม่เคยเห็นความทุ่มเทนี้เลยแต่ดูเหมือนว่าตลอด 19 ปีในชีวิตที่ผ่านมาสำหรับแทนแล้วการที่ต้องเติบโต ขึ้นมาภายใต้ร่มเงาความรักที่สมบูรณ์แบบของพ่อและแม่กลับยิ่งทำให้เขาดิ้นรน และอยากออกไปสัมผัสกับโลกภายนอกตามวิธีคิดและการออกแบบชีวิตของเขาเองมาก ขึ้นเป็น
ทวีคูณ ชีวิตในกรุงเทพเปรียบได้กับโลกใบใหม่ที่ทุกสิ่งรอบตัวล้วนน่าแปลกตาและแตก ต่างจากโลกใบเก่าที่สะเมิง และที่นี่ทำให้ “แทน”ได้พบกับ “จูน” เพื่อนใหม่ที่มีวิธีคิดและมองโลกอย่างแตกต่าง แต่กลับเติมเต็มความรู้สึกบางอย่างให้กับ “แทน” โดยไม่รู้ตัว พูดได้ว่าจูนคือผู้หญิงเพียง คนเดียวที่คอยผลักดันและเป็นแรงบันดาลใจให้แทนได้ค้นพบสิ่งที่มีค่าที่สุด และมีความหมายที่สุดในแบบฉบับของตัวเขาเอง
ถ้าหากใครที่เคยดู The Letter ก็คงจะรู้ว่าเป็นหนังโรแมนติค บ่อน้ำตาแตก ที่เล่าผ่านมุมมองของผู้หญิง ต่อเรื่องราวการใช้ชีวิต และ ความรัก ในวัยกลางคน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ Timeline ก็หยิบเอาวัตถุดิบเหล่านั้นมาใช้ใหม่เช่นกัน แต่เปลี่ยนมาเล่าในมุมมองของ ชายหนุ่ม อย่าง เจมส์ จิรายุ ที่นอกจากจะต้องเผชิญปมปัญหาของ แม่ ที่คอยบังคับ ยังต้องพบเจอกับความรัก และ ความลุ่มหลงของ หญิงสาว และ กรุงเทพ ซึ่งหนังแนวบ้านนอกเข้ากรุงเราก็คงจะเห็นกันมาบ่อยจนชินชา เพราะฉะนั้นการ
ที่ ไทม์ไลน์ หยิบเอาเรื่องพวกนี้มาเล่นอีกนั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่และน่าสนใจ แต่สิ่งที่ตัวหนังสามารถขับเคลื่อนไปได้ดีกลับเป็นการที่หนังหยิบยกการเล่าเรื่องของ การใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง และ ความฝัน รวมไปถึงความไม่จีรังยั่งยืนของชีวิตผ่านตัวละครของ เจมส์ จิ ที่เป็นชายหนุ่มผู้อยู่ในความคาดหวัง และ ความฝัน ของผู้อื่นมาตลอด จนกระทั่งต้องมาพบเจอกับความจริง ทั้งเรื่อง ความรัก และ ลุ่มหลง จึงไม่แปลกถ้าหากการตัดสินใจ และ การกระทำ ของเขาจะลองผิดลองถูกเสมอ
ตรงข้ามกับตัวละคร จูน ของ เต้ย จรินท์พร ที่มักจะเป็นคนแน่วแน่ ตัดสินใจอย่างตรงไปตรงมา คอยเป็นตัว Support ที่ต้องเกื้อหนุนอย่างไม่ห่าง ซึ่งการวางตัวละครของ Timeline ทั้งคู่ พระนาง และ แม่ ของพระเอก ไม่ได้ให้ตัวละครออกมาจัดจ้าน และ รุนแรง เพียงแต่ค่อยๆซึมเข้าไปในความรู้สึกของคนดู จนรอโอกาสที่เหมาะสมเพื่อจะปล่อยหมัดฮุกเด็ดของหนัง นั่นคือการคลี่คลายปมทุกอย่างตามสไตล์ของหนังโรแมนติค ไม่ต่างอะไรจาก The Letter เพียงแต่ถ้าหากหยิบยกเอาเรื่องดังกล่าวมา
เป็นแม่แบบ เราคงคิดถึงฉากดูวีดีโอ และต่อมน้ำตาแตก เพราะดนตรีประกอบที่รีดน้ำตาคนดูเป็นแกลลอน แต่หาไม่กับ Timeline ที่หนังละเมียดละไม และค่อยๆเป็นค่อยไป อัดฉากที่สะกิดใจคนดูมาเป็นระยะ จนเรียกได้ว่าช่วงท้ายของหนังมีระเบิดมาให้เหยียบห่างกันลูกละ 30 นาที รีวิวหนังรัก