รีวิว Titanic

รีวิว Titanic ที่มา

หากใครชอบหนังแนวรักโรแมนติกแบบยิ่งลึกซึ้งยิ่งเข้าถึงอารมณ์โดยไม่อิงว่าตอนจบจะแฮปปี้หรือเศร้าเพียงใด เราขอแนะนำหนังเรื่อง “Titanic” เลย เป็นหนังแนวมหากาพย์ความรักและอุบัติเหตุจากเรือที่โด่งดังมากในปี พ.ศ.2540 ซึ่งส่วนใหญ่คอหนังน่าจะรู้จักเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว แต่หากใครยังไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรและกินใจจนเรียกน้ำตาได้แค่ไหน วันนี้เราจะมารีวิวให้รู้กัน

รีวิว Titanic

– ที่มาของหนัง “Titanic”
หนัง “Titanic” เป็นหนังที่สร้างอิงจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ที่เรืออาร์เอ็มเอส ไททานิคที่อับปางลงในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งในปี พ.ศ.2454 เรือไททานิคได้ออกเดินทางจากท่าเรือเซาแทมป์ตันในอังกฤษโดยมีจุดหมายปลายทางคือเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในรอบเที่ยวเปิดตัวหลังจากที่ใช้เวลาสร้างมานานถึง 4 ปีซึ่งเป็นเรือที่ใช้โดยสารขนาดใหญ่ ถูกออกแบบมาอย่างดีจึงได้ฉายาว่า “เรือที่ไม่มีวันจม”ดูหนัง,

แต่สุดท้ายเรือก็ได้ไปชนกับภูเขาน้ำแข็งยามราตรีที่มืดมิดและจมดิ่งสู้ห้วงนทีพร้อมกับผู้โดยสารที่เสียชีวิต 1,514 ศพ แต่ในตัวหนังได้มีการเพิ่มความรักของตัวละคร “แจ๊ค ดอว์สัน” กับ “โรส โรส เดวิตต์ บูเคเตอร์” ซึ่งเป็นความรักต้องห้ามต่างชนชั้นขึ้นมา โดยได้ผู้กำกับ เขียนบท และสร้างหนังมากฝีมืออย่างเจมส์ คาเมรอน และกวาดรางวัลมากมายหลายสาขา

TITANIC (ไททานิค) เป็นภาพยนตร์ชื่อดังเกี่ยวกับเรื่องราวความรักแสนโรแมนติกระหว่างแจ๊คกับโรส ที่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง กำกับโดยผู้กำกับมากความสามารถอย่างเจมส์ คาเมรอน โดยเจมส์สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นเพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงที่เรืออาร์เอ็มเอส ไททานิก เกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ.1912 ในตอนค่ำแล้วเรือก็อับปางในเวลาต่อมา เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เขาจึงได้ยกเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาแล้วแต่งเติมเรื่องราวความรักของชายหญิงลงไปเปลี่ยนโศกนาฏกรรมในครั้งนั้นเป็นความรักอมตะที่หลายคนยังจดจำและกล่าวถึงจนทุกวันนี้

หนังเริ่มขึ้นในยุคปัจจุบันที่มีกลุ่มคนต้องการที่จะหาเพชรเม็ดหนึ่งที่อาจจะมีมูลค่ามหาศาล พวกเขาดำน้ำลงไปค้นหาใต้ท้องทะเลจนได้พบกับซากเรือไททานิค หนึ่งในนั้นเป็นตู้เซฟที่บรรจุภาพวาดของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีหน้าตาสวยนอนเปลือยทั้งตัวพร้อมกับแขวนสร้อยที่พวกเขากำลังตามหา เมื่อเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไปทางทีวีจึงทำให้โรส หญิงชราวัย 84 ปี ที่เป็นคนเดียวกับหญิงสาวในภาพวาด ผู้เป็นเจ้าของสร้อยเส้นนั้นเดินทางมายังกลางทะเลสถานที่ที่นักล่าสมบัติกำลังปฏิบัติการกันอยู่ พร้อมกับเล่าเรื่องในอดีตให้พวกเขาฟัง เรื่องราวทั้งหมดของไททานิคจึงเริ่มต้นขึ้นผ่านการเล่าเรื่องของโรสนั่นเอง

โรสเล่าว่าในปี ค.ศ. 1912 เรือไททานิคที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือสำราญลำใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้กำหนดการออกเดินทางท่องทะเลเป็นครั้งแรก โดยจะแล่นจากสหราชอาณาจักรไปยังนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แจ็คเป็นเด็กหนุ่มผู้โชคดีเขาเล่นการพนันชนะและได้รางวัลเป็นตั๋วเพื่อขึ้นเรือไททานิคจำนวน 2 ใบ เขาจึงขึ้นเรือลำนั้นไปพร้อมกับเพื่อนของเขา

หลังขึ้นไปบนเรือแจ็คได้พบกับหญิงสาวผู้สูงศักดิ์คนหนึ่งซึ่งก็คือโรส กำลังจะฆ่าตัวตายบนดาดฟ้าของเรือ แจ็คจึงได้เข้าไปคุยและช่วยพูดให้เธอสบายใจ เธอจึงยอมกลับเข้ามาและการพบกันในครั้งนั้นก็ทำให้ชีวิตของเขาและเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล ความรักของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นผมคิดว่าเล่าต่อไปคงจะหมดสนุกแน่ ๆ เพราะฉะนั้นก็เข้าไปติดตามต่อกันได้ทาง Netflix ผ่านกล่อง True ID ได้เลยครับ ทั้งนี้ผมต้องขอบอกไว้ก่อนนะว่าใน Netflix ไม่มีภาคไทยนะครับจะมีแต่ซับไทยเท่านั้นดูหนังออนไลน์

ส่วนตัวผมดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรอบที่สี่แล้วครับ แม้จะรู้เรื่องราวในแต่ละฉากหมดแล้ว แต่ทุกครั้งที่ดูก็ยังรู้สึกประทับใจในความรักของทั้งคู่อยู่ดี เพราะแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ตัวหนังก็สามารถถ่ายทอดให้เราได้เห็นถึงพลังความรักอันสุดแสนจะโรแมนติกได้อย่างสุดซึ้ง สิ่งหนึ่งที่หนังสามารถบอกเราได้อย่างชัดเจนคือความรักกับความเหมาะสมมันเป็นคนละเรื่องกัน การวางบทให้นางเอกเป็นเหมือนลูกคนรวย ฐานะดีในขณะที่พระเอกกลับแตกต่างกันสุดขั้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะยุคก่อนหรือแม้แต่สมัยปัจจุบันเองถือเป็นอุปสรรคของความรักที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะนั่นหมายความว่าทั้งสองคนจะต้องถูกเลี้ยงและเติบโตมาในสังคมที่แตกต่างกัน ความคิดและทัศนคติย่อมไม่เหมือนกัน และที่สำคัญคือครอบครัวของทั้งสองฝ่ายมักจะไม่ค่อยยอมรับจุดนี้มากนัก ซึ่งเราจะค่อย ๆ อินไปความรักของพระนาง พร้อมกับเอาใจช่วยพวกเขาให้ฝ่าฟันกับเรื่องดังกล่าวไปด้วยดูหนัง

ฉากที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ฉากในตำนานอย่างฉากที่แจ๊คกับโรสยืนกางแขนโต้ลมอยู่บนหัวเรือหรือฉากร่ำลาสุดสะเทือนใจในตอนท้าย แต่เป็นฉากที่พระเอกวาดรูปเปลือยของนางเอกนั่นต่างหาก ผมรู้สึกว่าฉากดังกล่าวเป็นฉากที่ทำให้เรารับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้าของทั้งคู่ว่าสนิทสนมและไว้ใจกันมากขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน เพราะเอาเข้าจริงเรื่องราวความรักของทั้งคู่มันเกิดขึ้นเร็วมาก แค่ไม่กี่วันเท่านั้น ก่อนหน้านั้นเป็นแค่การเล่าเรื่องราวความเป็นมาของตัวละครว่าแต่ละคนเป็นใคร มาจากไหน และรู้จักกันได้อย่างไร แต่หลังจากฉากนี้จะเป็นเรื่องราวของความรักที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จากความประทับใจกลายเป็นความชอบและเปลี่ยนเป็นความรักในที่สุดครับดูหนังออนไลน์

นอกจากเรื่องราวที่น่าประทับใจแล้วที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คงเป็นเพลงประกอบอย่าง My Heart Will Go On ที่ได้รับรางวัลมากมายเช่นเดียวกับตัวภาพยนตร์เลย เพราะมันเป็นตัวเร้าให้เราอินไปกับอารมณ์ของหนังได้ดีเหลือเกิน ทั้งเพลงประกอบ การดำเนินเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ บวกกับการคัดเลือกนักแสดงได้น่าดู พระเอกหล่อ นางเอกสวย และบทสรุปที่ซึ้งกินใจคนดูจนเป็นที่จดจำ ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้จึงทำให้ไททานิคเป็นภาพยนตร์ที่สุดยอดตลอดกาลครับ

รีวิว Titanic

ความน่าสนใจของหนัง “Titanic”

หนัง “Titanic” อาจจะดูเหมือนหนังความรักต่างชนชั้นทั่วไป แต่มันกลับมีมิติหลากหลายที่ทำให้ผู้ชมอินไปกับความรักที่เริ่มก่อตัวขึ้นของแจ็คกับโรสผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่แจ็คพาโรสไปเต้นรำพื้นเมืองที่ห้องชั้นล่างของเรือร่วมกับหลาย ๆ คน การสอนให้โรสปลดปล่อยตัวเองในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน และฉากที่ประทับใจที่สุกด็คงหนีไม่พ้นฉากที่เขาพาเธอขึ้นไปยืนบนราวระเบียงหัวเรือที่ยื่นออกมาและกางแขนราวกับนกโดยมีเขาคอยจับแขนเธออยู่ข้างหลังทำให้โรสรู้สึกราวกับนกที่บินได้เป็นครั้งแรก

ซึ่งทำให้ผู้ชมอย่างเราถึงกับขนลุกไปเลย แล้วยังจะมีฉากที่เรือไททานิคจมซึ่งหนังทำได้เหมือนจริงมาก หากไม่บอกว่าเป็นฉากในโรงถ่ายทำขนาดใหญ่ก็คงไม่รู้เลย หนังนำพาเรามาถึงจุดที่โรแมนติกลึกซึ้งที่สุดแล้วค่อย ๆ พาดิ่งลงมาจนถึงจุดพีคของความเศร้าและความโหยหาต่อการจากไปของ “แจ๊ค” ที่ยอมเสียสละแผ่นไม้ให้คนที่รักมีชีวิตอยู่ต่ออย่างมีความสุขจนแก่เฒ่าจวบจนร่างกายเขาได้แข็งลงด้วยความเหน็บหนาวถึงจุดเยือกเย็นของมหาสมุทรแอตแลนติกและสิ้นใจในที่สุด ยิ่งเพลง My heart will go on ขึ้นตอนจบก็ยิ่งน้ำตาไหลและขนลุกมากที่สุดแล้ว เป็นหนังยอดเยี่ยมอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่งรีวิวหนังรัก

 

รีวิว Titanic

ทำไมโรสไม่ยอมแบ่งที่ให้แจ็ก?

“ทำไมโรสไม่ยอมให้แจ็กขึ้นไปนอนลอยอยู่บนประตูไม้ด้วย” นี่คือคำถามคาใจของใครหลายคนนับตั้งแต่หนังออสการ์ชื่อดัง ‘Titanic’ ของเจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ออกฉายในปี 1997 ฉากดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงท้ายของหนังที่ผู้โดยสารทุกคนหาทางเอาชีวิตรอดหลังจากที่เรือไททานิคจมลง รวมทั้งแจ็กและโรส พระ-นางของเรื่องที่ว่ายน้ำไปพบประตูไม้แผ่นหนึ่งลอยน้ำมา

ในสคริปต์ของคาเมรอน สิ่งนี้ไม่ใช่ ‘ประตูไม้’ แต่เป็นเศษไม้แผ่นใหญ่ที่สลักลวดลาย ซึ่งอาจหลุดออกมาจากผนังภายในของเรือ ดูจากขนาดแล้วมันใหญ่เพียงพอที่จะให้สองคนขึ้นไปนอนได้ ตอนแรกแจ็กดันโรสขึ้นไปก่อน โรสค่อย ๆ ไถลตัวเองขึ้นไปนอนบนแผ่นไม้ได้สำเร็จ แต่เมื่อแจ็กพยายามจะปีนตามขึ้นไป แผ่นไม้ก็เริ่มเอนเอียงและกระดกจนเกือบทำให้โรสหล่นลง แจ็กจึงยอมเสียสละลอยคออยู่ในน้ำที่เย็นจัด โดยพยายามให้ลำตัวช่วงบนอยู่เหนือน้ำให้มากที่สุด แต่ด้วยอุณหภูมิของน้ำในขณะนั้นอยู่ราว ๆ -2.2 องศาเซลเซียส จึงทำให้แจ็กเสียชีวิตในท้ายที่สุดเช่นเดียวกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ตายเพราะจมน้ำ แต่ตายเพราะความหนาวเย็นของอุณหภูมิ

เมื่อปี 2012 ศูนย์ฟิสิกส์ Physics Central ได้ทำรายงานว่า “ยังไงแจ็กก็ไม่รอด” พวกเขาได้คำนวณทฤษฎีนี้ด้วยการประเมินน้ำหนักตัวของแจ็กและโรส กับน้ำหนักของแผ่นไม้ที่น่าจะใช้จริงกับเรือไททานิค และความสามารถที่แผ่นไม้แต่ละชนิดจะรับน้ำหนักได้ในขณะลอยน้ำ

Maritime Museum หรือพิพิธภัณฑ์การเดินเรือได้ยืนยันว่าแผ่นไม้จากเรือไททานิคที่เอียงกระดกในระหว่างที่แจ็กพยายามปีนขึ้นไป เป็น ‘ไม้โอ๊ก’ ซึ่งเมื่อคำนวณจากขนาดและน้ำหนักของแผ่นไม้โอ๊กแล้ว สามารถรับน้ำหนักได้แค่โรสเพียงคนเดียว หากแจ็กขึ้นไปด้วยอีกคน แผ่นไม้จะจมลงน้ำทันที

คำถามคาใจนี้ไม่ใช่แค่แฟนหนังถกเถียงกัน แต่ผู้กำกับและนักแสดง ‘Titanic’ ก็เคยได้ยินคำถามนี้ เคต วินสเลต (Kate Winslet) ผู้รับบทโรส กล่าวว่า “ฉันว่าเขาน่าจะขึ้นไปอยู่บนประตูนั่นได้นะ แต่เหมือนเขาจะไม่ได้สนใจ” ขณะที่เจมส์ คาเมรอน เคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Vanity Fair ถึงสาเหตุที่แจ็กตายไว้ว่า “คำตอบคือ ง่ายมาก เพราะมันเขียนเอาไว้ในสคริปต์หน้าที่ 147 ว่า ‘แจ็กตาย’ แค่นั้นเอง”

เกร็ดหนังดี เกร็ดน่ารู้ข้อมูลเกี่ยวกับ R.M.S. Titanic

-R.M.S. ย่อมาจาก Royal Mail Steamer
-เรือไททานิคเป็นเรือโดยสารชั้นเลิศ 2 ใน 3 ลำที่ถูกสร้างขึ้นโดย White Star Line เพื่อโลดแล่นบนมหาสมุทรแอตแลนติก
-มีการวัดขนาดเรือไททานิคได้ 882 ฟุต ซึ่งมีขนาดยาวและสูงกว่าตึกระฟ้าในนิวยอร์คยุคนั้น
-เฉพาะหางเสือเรือมีน้ำหนัก 101 ตัน หนักกว่าเรือ Santa Maria ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
-มีอาหารอยู่บนเรือไททานิคประมาณ 100,000 ปอนด์
-มีเรือช่วยชีวิตที่จัดสรรเอาไว้เพื่อผู้โดยสารเพียงครึ่งลำของเรือไททานิคเท่านั้น
-ความเร็วสูงสุดของเรือไททานิคอยู่ที่ 23 นอต
-ตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสที่แพงสุดของเรือไททานิคมีราคา 3,100 เหรียญ ขณะที่ตั๋วชั้นสามมีราคาเพียง 32 เหรียญ
-การสร้างเรือไททานิคเมื่อปี 1912 ใช้มูลค่าราว 7.5 ล้านเหรียญ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *