รีวิว The Third Charm รักจังๆ หัวใจข้ามขั้ว

ผ่านไปเกือบครึ่งทางกับซีรีส์เกาหลี “The Third Charm” แม้ว่าเรตติ้งของซีรีส์เรื่องนี้จะไม่เปรี้ยงมากนัก หรือเหตุผลอื่นๆแบบปัจเจกบุคคลที่พบเห็นบนโซเชียลออนไลน์ เช่น นางเอกไม่สวยแล้วลงท้ายด้วยวลีเด็ดท้ายประโยค “อย่าด่าอย่าว่าเรานะ” เป็นต้น ก็เป็นเหตุผลให้ใครหลายคนเลือกที่จะ “เท” ซีรีส์เรื่องนี้ก่อนที่จะเปิดชมด้วยซ้ำ ดูหนังฟรี

 

อย่างไรก็ตาม เราขอเป็นส่วนหนึ่งในผู้ชมซีรีส์เรื่องนี้ ที่ต้องการเล่าสิ่งที่น่าสนใจและรู้สึกประทับใจต่อซีรีส์ที่ว่าด้วยความรักของคนเป็นแฟนกันที่เรียบง่ายและดีต่อใจเรื่องนี้ โอจุนยอง ในวัย 20 ปี ด้วยความเป็นเด็กเนิร์ด จึงทำให้บุคลิกภาพดูเฉิ่มเมื่อพบกับเพศตรงข้าม แต่จุนยองก็เป็นคนเจ้าสำอางค์

 

รีวิว The Third Charm รักจังๆ หัวใจข้ามขั้ว

 

เนี้ยบและต้องเป๊ะอยู่เสมอ เป็นหนุ่มที่ทำกับข้าวเก่งและยามว่างชอบดูหนังโรแมนติก จุดนี้มีส่วนทำให้โอจุนยองเป็นคน Sensitive ต่อความรู้สึกต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะความรัก … เมื่อเข้าสู่วัย 27 ปี เขากลายเป็นนายตำรวจหนุ่ม ที่มีบุคลิกภาพ, รูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไปมากและมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม แต่ความสำอางค์ ความเป๊ะและ Sensitive ยังคงเดิม ที่เพิ่มเติมยามว่างชอบทำงานบ้านและปลูกต้นไม้คลายเครียด

 

อียองแจ ในวัย 20 ปี ด้วยความที่กำพร้าพ่อแม่ ถูกพี่ชายเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเด็ก จึงทำให้บุคลิกภาพดูห้าวหาญเหมือนผู้ชาย ยิ่งถ้ารู้ว่าตัวเองไม่ผิดก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ เป็นคนเปิดเผยตัวตน ไม่มีจริตกร้าน แต่ก็ไม่เปิดเผยความรู้สึกและอารมณ์ที่อยู่ภายในใจให้คนอื่นๆ ได้รับรู้โดยง่ายเช่นกัน ยามว่างชอบดูหนังแอคชั่น… เมื่อเข้าสู่วัย 27 ปี เธอยังคงลักษณะนิสัยเดิมที่แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่ผมยาวขึ้นและกลายเป็นนักออกแบบทรงผมมืออาชีพ …

 

รีวิว The Third Charm รักจังๆ หัวใจข้ามขั้ว

 

คาแรกเตอร์ที่ถูกวางให้กลับขั้วแทนที่ผู้ชายจะห้าวหาญ ผู้หญิงจะน่ารัก และมีความแตกต่างในการดำเนินชีวิตค่อนข้างมาก ทำให้เราได้เห็นแง่มุมของผู้ชายคิดเยอะและผู้หญิงคิดน้อย ซึ่งทำให้เรื่องราวความรักของทั้งคู่สลับซ้อนมากยิ่งขึ้น  แต่มีสิ่งหนึ่งที่โอจุนยองและอียองแจมีเหมือนกันและเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งสองคนให้ดีขึ้น คือ ทั้งสองคนเป็นคนที่รักครอบครัว … จึงไม่ยากในการปรับตัวเข้าหาครอบครัวของอีกฝ่ายและทำให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายเกิดความประทับใจต่อโอจุนยองและอียองแจได้ไม่ยากนัก

 

โอจุนยอง (รับบทโดย ซอคังจุน) หนุ่มในวัยยี่สิบเรียบร้อยเรียนดีสวมแว่นตากลม ใส่กางเกงยีนส์ถุงเท้าและรองเท้าสีขาวแสนสะอาด เขาไม่เคยสนใจแฟชั่น เป็นคนชอบการวางแผนล่วงหน้าจนเกินความจำเป็น และเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว วันหนึ่งเขาได้ไปนัดบอดและได้พบกับ อียองแจ (รับบทโดย อีซม) สาววัยยี่สิบเช่นเดียวกัน เป็นคนเจ้าอารมณ์

 

รีวิว The Third Charm รักจังๆ หัวใจข้ามขั้ว

 

คล่องแคล่วว่องไว และเปิดเผย เธอไม่มีพ่อแม่แต่สนิทกับพี่ชายของเธอมาก พวกเขาทั้งคู่อยู่ด้วยกันและพึ่งพากันและกัน ความฝันของเธอต้องการจะมีเงินเยอะๆและร่ำรวย เธอจึงตัดสินใจทำงานเป็นผู้ช่วยช่างทำผมมากกว่าที่จะไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัย วันหนึ่งเพื่อนชวนเธอไปนัดบอดและได้พบกับ โอจุนยอง ซึ่งมีนิสัยและบุคลิกแตกต่างกันกับเธออย่างสิ้นเชิง … แล้วทั้งเส้นทางความรักของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น

 

อนจุนยอง เกิดในครอบครัวที่เพียบพร้อม มีหน้ามีตาในสังคม พ่อแม่เป็นครู และตัวเองก็เรียนเก่ง เป็นคนที่มีระเบียบแบบแผนในชีวิต จะทำอะไรจะมีการวางแผนและดำเนินไปตามแผนนั้นๆจนสำเร็จลุล่วง และยังเป็นคน sensitive เรียกได้ว่านิสัยและบุคลิกไม่ได้เหมาะกับเพศสภาพของเขาเลย แต่ด้วยความที่เป็นคนเนี้ยบและเป๊ะเวอร์ ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนคบ แต่โอจุนยองก็

 

ไม่ได้เดือดร้อน เพราะความรักความอบอุ่นในครอบครัวได้หล่อหลอมให้เขาเติบโตเป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อมในสายตาของสาวๆ เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ชีวิตก็หักเห จนตัดสินใจลาออกและมาสอบเข้าเป็นตำรวจ ก่อนจะลาออกอีกครั้งเพื่อจะพบอาชีพใหม่และเหมาะกับตัวเองนั่นคือเป็นเชฟ

 

อียองแจ เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ โตมากับพี่ชายทำให้นิสัยเธอออกจะห้าวๆ ไม่กลัวใคร เป็นคนพูดจาโผงผางไม่ยอมคน มีความสนิทสนมกับพี่ชายมากเพราะอยู่กันมาสองคนพี่น้องตั้งแต่เล็ก แต่กระนั้นเรื่องบางเรื่องเธอก็ไม่สามารถเล่าให้พี่ชายฟังได้ ทำให้เป็นคนเก็บกดและไม่เผยความรู้สึกลึกๆในใจให้คนนอกได้รับรู้ง่ายๆ เมื่อเรียนจบชั้นมัธยม เธอตัดสินใจเข้าทำงานเป็นผู้ช่วย

 

ช่างทำผมด้วยความหวังว่าวันหนึ่งเธอจะกลายเป็นนักออกแบบทรงผมผู้โด่งดัง (ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันต่างเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย) และด้วยสถานะที่บ้านที่ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะเรียนต่อหรือเที่ยวเล่นตามประสาวัยรุ่นได้ ทำให้เพื่อนๆ ไม่ค่อยมีใครคบเธอ แต่เธอก็ไม่ได้เดือดร้อน และมีความสุขกับเส้นทางที่เธอเลือก

 

เรื่องราวความรักของโอจุนยองและอียองแจ รีวิว The Third Charm รักจังๆ หัวใจข้ามขั้ว

ฤดูแรกใบไม้ผลิ ก่อตัวขึ้นในวัย 20 ปี ด้วยความบังเอิญและการนัดพบแบบตัวแถมทั้งฝ่ายชายและหญิง ความแตกต่างที่ไม่น่าลงตัวกันได้จึงเกิดขึ้น และสุดท้ายก็ “คลิก” กันจนเป็นความรักครั้งแรกของทั้งสองคน … แต่ก็จบลงด้วยความ “คาใจ” ที่อียองแจมอบให้กับโอจุนยองจนเวลาผ่านพ้นไป 7 ปี ดูหนังใหม่

 

ฤดูต่อมาฤดูร้อน ความบังเอิญทำให้ทั้งสองคนในวัย 27 ปีได้กลับมาพบกันอีก แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของโอจุนยองจะเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ความเนิร์ดและ Sensitive ยังคงเดิม ทำให้เขายังคง “คาใจ” กับอีจองแยซึ่งเป็นรักครั้งแรกของเขามาโดยตลอด

 

 

“ทำไมถึงทิ้งฉันไป ฉันทำอะไรผิด” เป็นประโยคแรกที่โอจุนยองระบายความรู้สึกที่อัดอั้นต่ออียองแจ ท้ายที่สุดเมื่อโอจุนยองรู้ความจริงที่อียองแจทิ้งเขาไปโดยไม่ได้มีสาเหตุเกิดขึ้นจากสิ่งที่เขากระทำขึ้น การ “คลิก” กันของทั้งสองคนก็กลับคืนมา

 

เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนเป็นการเติมเต็มให้กับคำว่า “รักครั้งแรก” ของโอจุนยอง ที่สูญหายไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ รักครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยการสวีทหวาน เร่าร้อน Kiss Me Again อยู่เรื่อย ๆ มากกว่านั้นโอจุนยองยังให้ใจ/ใส่ใจกับอียองแจทุกๆด้าน … ส่วนอียองแจนั้นเป็นขั้วตรงข้ามกับโอจุนยองมาโดยตลอด จึงเป็นฝ่ายรับความรู้สึกเกือบ 100% แต่ก็ยังคงเป็นคนที่ไม่ชัดเจนในการเปิดเผยความรู้สึกและอารมณ์ที่อยู่ภายในใจของตนเองต่อโอจุนยอง

 

 

ในที่สุด เมื่อมีคุณหมอหนุ่มพ่อม่ายหย่าร้าง เริ่มเข้ามาพัวพันกับอียองแจ โอจุนยองซึ่งเป็นคน Sensitive ต่อทุกๆอย่างอยู่แล้ว จึงเกิดความหึงหวงมากและคิดไปไกลกว่าความเป็นจริงที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ เขาเริ่มรู้สึกแล้วว่า “รักครั้งนี้เริ่มไม่ได้เป็นไปตามแผน มันไม่สมบูรณ์แบบและเกิดความไม่เชื่อใจต่ออียองแจ

 

” เพราะอียองแจเองก็ไม่ชัดเจนต่อความรักที่มีให้แก่โอจุนยองและยังคงเปิดโอกาสให้คุณหมอหนุ่มเข้ามาทำคะแนนอยู่เรื่อย ๆ ฤดูร้อนครั้งนี้ยังไม่รู้แน่ชัดว่า ทางเดินแห่งรักของทั้งสองคนจะเดินต่อไปในรูปแบบไหน อย่างไร และจะทิ้งความ “คาใจ” อีกครั้งหรือไม่? ให้แก่ใครบ้าง

 

การแสดง การกำกับและเพลงประกอบซีรีส์ รีวิว The Third Charm รักจังๆ หัวใจข้ามขั้ว

The Third Charm มีพล็อตเรื่องที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา สื่อสารแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องตะแคงตีลังการะเบิดภูเขาเผากระท่อม แล้วตัดเชือกแก้ปมต่างๆภายในเรื่อง จุดแข็งของพล็อตเรื่องมันมีความ “เรียล” ที่มอบสัมผัสแห่งความรักสำหรับ”คนมีแฟน”, เน้นเรื่องความสัมพันธ์ด้านอารมณ์ระหว่างโอจุนยองและอียองแจเป็นหลัก และพล็อตเรื่องก็ไม่ทิ้งความสัมพันธ์กับตัว

 

ละครอื่นๆ ภายในเรื่อง ซึ่งเรื่องราวภายจาก  ซีรีส์เรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริงทุกยุคทุกสมัย อย่างไรก็ตามซีรีส์เรื่องนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ Sweet Potato Drama คือ ระหว่างที่ชมไปจะเกิดความกระอักกระอ่วนใจหรือรำคาญใจเป็นบางครั้งต่อบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในซีรีส์เรื่องนี้ มีทั้งปลูกอ้อย,เผือกและลำไยครบครัน รีวิวหนัง

 

 

ด้านการแสดง ซอคังจุนจากบทบาทหุ่นยนต์ Namshin 3 และมนุษย์นัมชิน ในซีรีส์เกาหลีเรื่อง Are you human? ที่สร้างความประหลาดใจและประทับใจให้กับใครหลายคนรวมทั้งเรา เขาสามารถสลัดภาพลักษณ์เดิมมารับบทโอจุนยองได้อย่างแนบเนียน ซอคังจุนเป็นนักแสดงที่สามารถเก็บทุกรายละเอียดและมีอินเนอร์ในการแสดงที่ชัดเจนและแสดงเป็นธรรมชาติ

 

มากๆ ทำให้เชื่อว่าโอจุนยองดูเป็นตัวละครที่มีชีวิตอยู่จริง และเชื่อว่าโอจุนยองเป็นคนดีแต่ด้วยความเป็นคน Sensitive จึงสร้างความน่ารำคาญมากเมื่อความหึงหวงนั้นเกิดขึ้น เช่นเดียวกับอีซมที่มารับบทอียองแจ เธอจะรับงานแสดงภาพยนตร์มากกว่าซีรีส์ เราจึงไม่ค่อยได้มีโอกาสชมผลงานที่ผ่านมาของเธอมากนัก แม้ว่าตัวละครอียองแจดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่

 

 

ความยาก คือ หากอินเนอร์ภายในไม่มีและสื่อสารออกมาไม่ดีพอ ในเวลาที่อียองแจต้องเก็บความรู้สึกและอารมณ์ภายในใจ จะแสดงออกมาได้อย่างแข็งทื่อ หรือในช่วงที่ต้องโวยวายก็จะกลายเป็นการ Over Acting แต่อีซมไม่ทำให้รู้สึกแบบนั้น เธอแสดงออกมาได้เป็นธรรมชาติมากและดูแตกต่างไม่มีจริตเฉพาะตัวที่มักจะพบได้กับนักแสดงหญิงเกาหลีคนอื่นๆ รวมทั้งเคมีของซอคังจุนและอีซมสามารถเข้ากันได้ดี ไม่มีใครมากเกินไปหรือน้อยเกินไป

 

ด้านการกำกับ ความสวยและมุมมองของภาพที่เราไม่สามารถอุทานได้ “โอวว้าว ภาพสวยจัง” แต่จุดแข็งอยู่ที่มุมมองของภาพที่พบในซีรีส์เรื่องนี้มันดู “เรียล” ไม่ประดิษฐ์ประดอยและเมื่อถึงซีนที่เน้นอารมณ์ ผู้กำกับน่าจะสั่งให้ทีมช่างกล้องแพนกล้องเพื่อเก็บรายละเอียดสีหน้าแววตาและท่าทางของตัวละครได้อย่างชัดเจน

 

 

เป็นการเสริมและขยี้อารมณ์ของคนดูให้รู้สึกอินกับช่วงเหตุการณ์นั้นๆได้มากยิ่งขึ้น  ซึ่งหากใครเคยดูผลงานของผู้กำกับ Pyo Min Soo จากเรื่องก่อนๆที่โด่งดัง เช่น Full House, Coffee House และ The Producers ฯลฯ ก็จะเห็นว่าแนวในการกำกับและนำเสนอภาพออกมาใกล้เคียงกัน ซึ่งถือเป็นลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับท่านนี้

 

เพลงประกอบซีรีส์ เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้ซีรีส์มีความน่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้น ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ทำการบ้านมาดี เพลงเร็วก็น่ารัก เพลงช้าก็ซึ้งกินใจ หรือเพลงที่มีแต่เมโลดี้ที่ใส่เข้าไปในฉากที่ต้องเรียกเสียงฮาก็วางได้จังหวะเหมาะเจาะลงตัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *