รีวิว THE DANISH GIRL

รีวิว THE DANISH GIRL

รีวิว THE DANISH GIRL ที่มา 

สาวเดนมาร์กเป็น 2015ชีวประวัติ ละครโรแมนติกภาพยนตร์กำกับโดยทอมฮูเปอร์อยู่บนพื้นฐานของ 2000จากนวนิยายชื่อเดียวกันโดยเดวิดอีเบอร์ชอฟฟ์และแรงบันดาลใจอย่างอิสระโดยชีวิตของจิตรกรเดนมาร์ก Lili เอลลี่และ Gerda Wegener ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยเอ็ดดี้เรดเมย์นเป็นเอลเบหนึ่งในผู้รับการผ่าตัดแปลงเพศที่รู้จักกันเป็นคนแรก,อลิเซียวิกันเดอร์ในฐานะเวเกเนอร์และเซบาสเตียนโคชรับบทเคิร์ทวอร์เนครอสร่วมกับเบนวิชอว์แอมเบอร์เฮิร์ดและMatthias Schoenaertsในบทบาทสนับสนุนดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

เรื่องที่ย้อนไปในปี 1926 ชายหญิงนักวาดภาพคู่หนึ่งแต่งงานอยู่กินกันมานานหลายปี ยังไม่เคยมีบุตรด้วยกัน และงานวาดของพวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ใจฝันนัก หากทุกอย่างกำลังสะดุดเพราะเหตุการณ์เล็กๆ เหตุหนึ่ง

เมื่อเกอร์ด้า ภรรยาขอให้ไอนาร์สามีของเธอช่วยสวมเสื้อผ้าหญิงเพื่อเป็นแบบให้กับภาพวาดของเธอ ไอนาร์ก็ทำมันโดยไม่อิดออด แต่มันกลับกลายเป็นต้นกำเนิดที่จุดประกายให้เขารู้จักอีกด้านหนึ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ข้างในมาเนิ่นนานรีวิวหนังรัก

เกอร์ด้า แม้เธอต้องเสียใจมากมายแค่ไหน แต่ความรักในตัวสามี เธอจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา สามีของเธอที่กำลังจะตายจากไป เพื่อให้ตัวตนข้างในได้ออกมาทำงานอย่างเต็มตัว ‘ไอนาร์’ สามีผู้ที่ข้างในคือ ‘ลิลี่’ เธอจะทำยังไง เมื่อสามีของเธอยืนยันแน่นหนักว่า…

หนังที่ประหนึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้คนข้ามเพศทุกคนบนโลกนี้ได้รับรู้ว่า ก่อนหน้าที่โลกจะยอมรับคนข้ามเพศได้ขนาดนี้ ก่อนที่การแพทย์จะรุดหน้าสร้างคนข้ามเพศได้มากมายขนาดนี้ โลกเคยผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากของการข้ามไปสู่อีกเพศมาก่อน และเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับคนเดนมาร์ก และสถานที่เกิดเหตุคือ นครปารีส

‘ไอนาร์’ ผู้ชายที่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นผู้หญิง
จริงๆ แล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นหนังก็พยายามจะเปิดเผยให้เราเห็นอยู่ในทีว่าผู้ชายอย่าง ไอนาร์ เวเกเนอร์ มีพฤติกรรมเยี่ยงไร คือ เขามีความชอบในบางสิ่งที่ดู “หญิง” กว่าพยาธิสภาพของตนเป็นทุนอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกอร์ด้าหยิบชุดผู้หญิงให้เขาใส่ต่างหากที่จุดชนวนให้เขาได้รู้ตัวเอง

หลังจากนั้น มันก็เหมือนจะกู่กันไม่กลับ

ไอนาร์และเกอร์ด้านึกสนุก ที่จะไปงานเลี้ยง งานแสดงศิลปะ ด้วยการแต่งเสื้อผ้าอาภรณ์เป็นผู้หญิง การเปลี่ยนตัวตนต่อสายตาคนอื่นครั้งนี้ ทำให้ไอนาร์ในคราบของ ‘ลิลี่’ เผลอไปจูบกับผู้ชายเข้า ทุกอย่างเริ่มเลยเถิด

นับวัน ลิลี่ยิ่งมีบทบาทมากขึ้น และไอนาร์กำลังจะตายจากไป

เกอร์ด้า เธอคือ ‘ภรรยาที่สตรองที่สุด’
Eddie Redmayne สวมบทบาทของไอนาร์ที่อยากจะเป็นลิลี่ได้อย่างเข้าถึง จนบางที มันอาจจะเข้าถึงมากเกินไปด้วยซ้ำ ผมไม่อยากจะบอกเลยว่า ผมรู้สึกว่าเอ็ดดี้พยายามจะใส่จริตจก้านมากจนล้น ผมจึงให้น้ำหนักกับความสตรองของฝ่ายเกอร์ด้าที่รับบทโดย Alicia Vikander เธอแสดงได้น่าสงสาร ไม่ล้น แถมยังสวยคมน่ามอง จนแทบจะหมั่นไส้ไอนาร์ไปเลยทีเดียวที่มีเมียสวยแต่กลับทิ้งขว้างเช่นนี้

ความเปลี่ยนแปลงในตัวสามีสร้างความลำบากใจให้กับผู้เป็นภรรยาอย่างยิ่ง เธอพยายามจะยื้อยึดเอาสามีคนเดิมของตนกลับมา แต่เมื่อรู้ว่ามันคงเกินกำลัง เธอก็สตรองพอที่จะช่วยเหลือให้เขาได้เป็นในสิ่งที่เขาต้องการ แม้ข้างในของเธอจะเจ็บปวดรวดร้าวเพียงใดก็ตาม

คนที่เธอรักเขามาหลายปี เพิ่งรู้ตัวว่าอยากเป็นหญิง และตั้งมั่นที่จะไม่กลับไปเป็นไอเนอร์คนเดิมอีก แต่เธอก็ยังมั่นคงที่เป็นแรงกำลังสำคัญที่จะทำให้เขาสมหวัง ช่วยเหลือในทุกๆ ทางทั้งๆ ที่เธอเองก็ต้องอยู่รอดในสายอาชีพของตัวเอง ความว้าเหว่ที่เกาะกินหัวใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ พฤติกรรมฉันเมียผัวที่ขาดหายไปทำให้เธอเองก็อาจเขวไปบ้างกับชายหนุ่มบางคน

ในหนัง เหมือนว่าลิลี่จะไม่มีญาติมิตรที่ไหนเลย นอกไปจาก Ulla (Amber Heard) ที่รับได้ในความเป็นเขา นั่นอาจทำให้เกอร์ด้าเป็นห่วงเป็นใยในสามีใจหญิงของเขาอย่างมากก็เป็นได้ เพราะด้วยค่านิยมในสมัยนั้น แม้แต่ผู้อยู่ในวงการแพทย์ก็ยังมองความเบี่ยงเบนทางเพศเป็นสิ่งไม่ปกติ

กับชาวบ้านร้านตลาดคงไม่ต้องพูดถึง

‘ลิลี่’ หญิงผู้มองเห็นแต่ตัวเอง
ผมกลับรู้สึกด้วยซ้ำว่า หนังนำเสนอแต่แง่มุมที่ลิลี่อยากจะเป็นผู้หญิงโดยสมบูรณ์มากเสียจนมองไม่เห็นหัวใจที่แหลกสลายของภรรยา บางบทสนทนากรีดลึกเข้าไปถึงข้างใน เพราะมันทำให้รู้สึกได้เลยว่า…

เกอร์ด้ายังรักเขาสุดหัวใจ แต่เขามองไม่เห็นมันอีกต่อไปแล้ว

แม้ในบางช่วง เหมือนลิลี่จะนึกถึงเกอร์ด้าอยู่บ้าง อ้อนวอนขอให้เธออยู่ใกล้ๆ ในวันที่ลิลี่ต้องการ แต่ผมก็ยังมองว่ามันเป็นความเห็นแก่ตัวอยู่ดี สุดท้าย ผมก็พบว่าน้ำตาทุกหยดที่เสียไป ผมมีให้กับเกอร์ด้าคนเดียวเท่านั้น

ความถูกต้องทางประวัติศาสตร์

เอลลี่ไม่ได้เป็นผู้หญิงข้ามเพศคนแรกที่จะได้รับการผ่าตัดแปลงเพศได้รับนำโดยDora ริกเตอร์
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากนิยายสาวเดนมาร์กโดยเดวิดอีเบอร์ชอฟฟ์ นวนิยายเรื่องนี้ตามที่ Ebershoff ได้กล่าวไว้ไม่ได้พยายามเล่าเรื่องจริง เขาไม่เพียงจินตนาการถึงสิ่งที่เขาเขียนส่วนใหญ่เกี่ยวกับชีวิตภายในของ Elbe แต่ยังสร้างตัวละครอื่น ๆ ทั้งหมดในหนังสือเช่น Hans และ Henrik ตัวละครทั้งสองที่มีอยู่ในภาพยนตร์ แม้จะมีความไม่ถูกต้องมากมายภาพยนตร์เรื่องนี้วางตลาดในฐานะ “เรื่องจริง” และ “เรื่องราวความรักที่แท้จริง” ผู้กำกับทอมฮูเปอร์กล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ใกล้เคียงกับเรื่องจริงมากกว่าหนังสือของเอเบอร์ชอฟฟ์
ตัวละคร Ulla Paulson เป็นเวอร์ชั่นสมมติของUlla Poulsenนักบัลเล่ต์และนักแสดงหญิงชาวเดนมาร์กและเป็นเพื่อนที่ดีของ Lili และ Gerda
ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นในปีพ. ศ. 2469 เมื่อลิลีอายุ 44 ปีและเกอร์ดาอายุ 40 ปีการแต่งงานของพวกเขากินเวลา 26 ปี (2447-2573); พวกเขาอายุ 22 และ 18 ปีตามลำดับเมื่อพวกเขาแต่งงาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ระบุเพียงว่า Lili และ Gerda แต่งงานกันมา 6 ปีแล้ว
เกอร์ดาเป็นผู้หญิงผมบลอนด์และตาสีฟ้าตามธรรมชาติ (เหมือนที่เธอเคยแสดงในภาพตัวเอง) ผิวซีดในขณะที่อลิเซียวิกันเดอร์เป็นคนผิวสีน้ำตาลตาสีน้ำตาลและผิวมะกอกตามธรรมชาติ Vikander ต้องสวมวิกผมสีบลอนด์ขณะถ่ายทำภาพยนตร์และเธอยังเปิดเผยกับThe New York Timesว่าทีมผู้สร้างหมกมุ่นอยู่กับความจริงที่ว่าเธอไม่ได้ดูสแกนดิเนเวียและทำให้ผิวของเธอซีดจางลง
เกอร์ดาอายุ 43–44 ปีในช่วงเหตุการณ์ที่แสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ Lili อายุ 47 ปีเมื่อเธอเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศในปี 2473 และเสียชีวิตในปีต่อมาตอนอายุ 48 ปี Eddie Redmayne อายุ 33 ปีในระหว่างการถ่ายทำขณะที่ Alicia Vikander อายุ 26 ปี
Lili และ Gerda ย้ายไปปารีสในปี 1912 เมื่อพวกเขาอายุ 30 และ 26 ปีตามลำดับ ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าพวกเขาย้ายไปปารีสในช่วงปลายยุค 20 ปารีสมีความเสรีอย่างน่าทึ่งในช่วงทศวรรษที่ 1910 และ 1920 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ Gerda และ Lili มาตั้งรกรากที่นั่นและ Gerda อาศัยอยู่อย่างเปิดเผยในฐานะเลสเบี้ยนในเมือง  ฉากที่ Lili แต่งกายด้วยเสื้อผ้าผู้ชายถูกชายสองคนในปารีสทุบตีหลังจากถูกสันนิษฐานว่าเป็นเลสเบี้ยนเป็นเรื่องสมมติ
ชื่อหลังการเปลี่ยนแปลงของ Lili คือ Lili Ilse Elvenes ชื่อ “Lili Elbe” ซึ่งเป็นชื่อเดียวที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นโดย Louise “Loulou” Lassen นักข่าวชาวโคเปนเฮเกน
หัวข้อต่างๆรวมถึงเรื่องเพศของเกอร์ดา ซึ่งเห็นได้จากตัวแบบในภาพวาดที่เร้าอารมณ์ของเธอ[86] [87]และการสลายตัวของความสัมพันธ์ของเกอร์ดาและลิลี่หลังจากการแต่งงานเป็นโมฆะในปี 2473 ถูกละไว้ในนวนิยายทั้งสองเรื่อง[88]และภาพยนตร์

ภาพวาดเลสเบี้ยน Erotica ที่มีชื่อเสียงของ Gerda ไม่เคยกล่าวถึงในภาพยนตร์เรื่องนี้หรือไม่ก็ไม่ได้ปรากฏตัวในระหว่างการผ่าตัดและการเสียชีวิตครั้งสุดท้ายของ Lili แต่อาศัยอยู่ในอิตาลีกับสามีคนที่สองของเธอ Fernando Porta เกอร์ดาหย่าขาดจากปอร์ตาในปี 2479 ไม่มีลูกและไม่แต่งงานอีกเลย เธอกลับไปเดนมาร์กดื่มสุราและสิ้นชีวิตในปี 2483 ตัวละคร Hans Axgil ไม่มีตัวตนในชีวิตของเธอและเป็นเพียงแรงบันดาลใจจาก Porta แม้ว่า Fernando Porta ตัวจริงไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็กของ Einar / Lili [นามสกุล Axgil คือการอ้างอิงถึงคู่เดนมาร์กAxel และ Eigil Axgil , เกย์คู่แรกที่เคยใส่ลงไปในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
แฟนของ Lili ในช่วงเวลาที่เธอได้รับการผ่าตัดครั้งสุดท้ายและเสียชีวิตคือ Claude Lejeune พ่อค้างานศิลปะชาวฝรั่งเศสซึ่งเธอหวังว่าจะแต่งงานและมีลูกด้วย มีรูปถ่ายของ Lili และ Lejeune ร่วมกันตั้งแต่ปีพ. ศ. 2471 เมื่อ Lili ยังคงแต่งงานกับ Gerda อย่างถูกต้องตามกฎหมาย Lejeune ไม่ได้กล่าวถึงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครเฮนริคเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นและได้รับแรงบันดาลใจจาก Lejeune เท่านั้น
ปัจจัยสำคัญรอบการตายของ Lili ถูกละเว้นจากภาพยนตร์เรื่องนี้; เธอเสียชีวิตจากการถูกปฏิเสธอวัยวะเนื่องจากการปลูกถ่ายมดลูก ( การผ่าตัดครั้งที่ 5 ของเธอ) ในปีพ. ศ. 2474 ขณะอายุ 48 ปี แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เธอเสียชีวิตหลังจากการผ่าตัดแปลงเพศครั้งที่สองในฉากสุดท้ายเมื่อ Gerda และ Hans กำลังยืนอยู่ข้างVejle Fjordมีภูเขาเป็นฉากหลัง เดนมาร์กไม่มีภูเขา ฉากนี้ถ่ายทำที่Mannenที่Haramsøyaในนอร์เวย์และที่Isle of Sheppeyในอังกฤษ ความไม่ถูกต้องทางประวัติศาสตร์นี้เป็นตัวเลือกที่ใส่ใจโดยผู้กำกับซึ่งต่อมาได้ขอโทษชาวเดนมาร์กในความผิดพลาดของเขา