รีวิว The Broken Hearts Gallery (2020)

ในบรรดาเครดิตของหนังที่หลายคนอ่านแล้วงงเป็นไก่ตาแตกเพราะแทบไม่คุ้นเคยสักคนนอกจาก เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี ที่เพิ่งผ่านตาไปในซีรีส์ Stranger Things แล้วก็มีแต่ เซเลนา โกเมซ ศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่ขยับขยายจากโลกดนตรีมาสู่ฮอลลีวูด

 

ผลักดันซีรีส์เพื่อสะท้อนโลกอันแสนมืดหม่นของวัยรุ่นอย่าง 13 Reasons Why ลง Netflix รวมถึงรายการทีวีต่าง ๆ และก้าวสำคัญของเธอก็คือ The Broken Heart Gallery เรื่องนี้ที่จับประเด็นโดน ๆ อย่างคนที่ชอบเก็บของคนรักหลังเลิกกันมาบอกเล่าในหนังใหญ่ที่เธอจะโพรดิวซ์เรื่องแรก ดูหนังฟรี

 

รีวิว The Broken Hearts Gallery (2020)

 

ลูซี่ (เจอรัลดีน วิสวานาธาน) สาวรักคุดที่มักเก็บสิ่งของจากแฟนเก่าเป็นที่ระลึก ในคืนหนึ่งด้วยความเมาและภาพบาดตาที่เห็นแม็กซ์ (อัตคาร์ช อัมบุดการ์) แฟนหนุ่มกระหนุงกระหนิงกับแฟนเก่าจนเธอทั้งอกหักและตกงานในคืนเดียว จากพฤติกรรมสิ้นคิดต่อหน้าธารกำนัล แถมดันไปมั่วขึ้นรถของนิก (เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี) หนุ่มหล่อตาหวานเพราะคิดว่าเขาคืออูเบอร์ที่เธอเรียกกลับบ้าน

 

และเหมือนบุพเพอาละวาดที่ลูซี่ก็ได้มาเจอกับนิกอีกครั้งในวันที่เธอตั้งใจจะไปวีนแม็กซ์ในร้านอาหารหรูจนทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันและแล้วความฝันในการเปิดโรงแรมของนิกกับแกลเลอรีสำหรับคนอกหักของลูซี่ก็ได้มาเจอกัน แต่ท่ามกลางกระแสที่คนอกหักมักเอาของคนรักเก่ามาฝากจัดแสดงความสัมพันธ์ของลูซี่และนิกก็เริ่มงอกงามเหลือเพียงแต่คำถามว่าทั้งคู่พร้อมจะมูฟออนจากอดีตหรือยัง ?

 

รีวิว The Broken Hearts Gallery (2020)

 

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือตัวหนังรอดได้ด้วยความเชี่ยวมือของ นาตาลี ครินสกี ที่เทิร์นโปรจากมือเขียนบทซีรีส์ดัง ๆ ทั้ง Gossip Girl และ Grey Anatomy ที่สามารถหาลีลาและสร้างคาแรกเตอร์สาว ๆ ที่มีสีสันแทบทุกตัว นอกจากลูซี่ที่เธอปั้นให้สาว 20 กลาง ๆ ช้ำรักได้เปี่ยมสีสันแล้วเพื่อน ๆ ของเธออย่างนาดีน (ฟิลิปา ซู) เพื่อนสาวเลสเบี้ยนเพลย์เกิร์ลประจำแก๊งหรืออแมนดา (มอลลี กอร์ดอน) นักศึกษากฎหมายที่คลั่งไคล้หนังฆาตกรรมก็กลายเป็นสีสันสำคัญที่ทำให้หนังมีชีวิตชีวาไม่น้อยเลย

 

ผิดกับหนุ่ม ๆ ในเรื่องที่ครินสกีดูจะไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือไม่ปั้นคาแรกเตอร์ให้มีมิติเท่าไหร่ทั้งแม็กซ์ที่ดูเป็นหนุ่มหล่อสไตล์แขกจอมหักอกที่ดูเห็นแก่ตัวเสมอต้นเสมอปลาย ส่วนนิกก็ขายความหน้าหวานและบุคลิกหนุ่มแสนดีในฝันของสาว ๆ จนกว่าเราจะได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังตัวละครหนังก็ให้เวลาพวกเขาไม่เยอะเท่าที่ควร

 

รีวิว The Broken Hearts Gallery (2020)

 

กระนั้นสิ่งที่ยกประโยชน์ให้จำเลยจริง ๆ คงเป็นเรื่องราวการมูฟออนที่หนังเหมือนจับยามสามตารู้เช่นเห็นชาติจับประสบการณ์ร่วมของคนช้ำรักมาเล่าได้แบบแทบแหวกอกเอาเรื่องราวพัง ๆ มาผูกโยงผ่านเหตุการณ์ของคนในแกลเลอรีได้แบบดูไปซี้ดไป และบางตอนของหนังก็น่าจะแอบทำเอาใครหลายคนน้ำตาซึมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

เรื่องย่อ รีวิว The Broken Hearts Gallery (2020)

อีกจุดที่น่าชื่นชมคือในปี 2020 หนังได้สร้างมาตรฐานความเท่าเทียมทางเพศในหนังแทบทุกมิติ นอกจากผู้หญิงในเรื่องเป็นมนุษย์ที่พูดเรื่องเพศได้อย่างเปิดเผยแล้ว ภาพในหนังยังทำให้เราเห็นความงามของนักแสดงที่ไม่เคยอยู่ในพิมพ์นิยมอย่างเจอรัลดีน วิสวานาธาน สาวลูกครึ่งอินเดียที่เคยโผล่เป็นลูกสาวจอห์น ซีนาใน BLOCKERS และซีรีส์ Bad Education ทาง HBO ผู้ทำให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องขาวหรือผอมก็ดูมีเสน่ห์ได้ ดูหนังใหม่

 

ซึ่งวิสวานาธานก็แสดงได้อย่างมีเสน่ห์แม้บทของเธอจะแอบสร้างความรำคาญอยู่บ้างแต่ด้วยรอยยิ้มและท่าทางคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ ก็ทำให้เธอสว่างไสวและเป็นนางเอกที่เรารักได้ไม่ยาก ส่วน เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี แม้เราจะไม่ค่อยได้เห็นเขาได้โชว์ฝีมือเท่าไหร่แต่ต้องยอมรับทั้งหน้าตาและรูปร่างที่ใกล้เคียงหนุ่มในฝันของสาว ๆ ก็น่าจะทำให้ใครหลายคนแอบเก็บมาจิ้นได้ไม่ยากเลย

 

 

โดยรวมต้องยอมรับว่า The Broken Hearts Gallery น่าจะเป็นหนังโรแมนติกที่น่าพึงพอใจที่สุดแล้วของปีนี้ในแง่ที่มันสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ผู้ชมได้เกินคาด แถมยังมีข้อคิดดี ๆ เรื่องความรักเป็นของแถมให้ผู้ชมนอกจากความสนุกที่หนังเสิร์ฟให้อย่างคุ้มค่าตั๋วเลยทีเดียว The Broken Hearts Gallery หรือ ฝากรักไว้…ในแกลเลอรี่ ภาพยนตร์รักโรแมนติกคอเมดี้ กำกับและเขียนบทครั้งแรกของ นาตาลี ครินสกี และเซเลน่า โกเมซ รับหน้าที่เป็น Executive Producer นำแสดงนำโดย เจอรัลดีน วิสวานาธาน, เดเคอร์

 

มอนต์โกเมอรี่, Utkarsh Ambudkar, มอลลี่ กอร์ดอน อาร์ทูโร แคสโตร เบอร์นาเดต ปีเตอรส์ และ ฟิลลิปา ซู โซนี่ พิคเจอร์ รับหน้าที่สร้างและจัดจำหน่าย ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของความรักที่มักมาพร้อมการอกหัก การปล่อยวาง และการยอมรับความเจ็บปวดของตัวเอง ซึ่งมันน่าสนใจเพราะที่อเมริกามีแกเลอรี่อกหักที่ให้คนเอาสิ่งของมาเก็บไว้จริง ๆ ที่ LOS ANGELES

 

 

เรียกได้ว่าเป็นหนังรักที่เป็นม้ามืดของปีนี้เลยสำหรับ The Broken Hearts Gallery ที่ออกฉายไปตั้งแต่เดือนกันยายน แต่โซนี่พิคเจอร์ไทย เพิ่งจะเอาเข้าฉายในโรงภาพยนตร์มาสด ๆ ร้อน ๆ และได้รับคำชื่นชมจากคนที่ได้ดูในรอบสื่อ ซึ่งผมยอมรับว่านี่

 

เป็นหนังที่ผมคาดหวังมาก เพราะนอกจากจะได้เซลีน่า โกเมซ นักร้องสาวชาวอเมริกันเจ้าของเพลงดังอย่าง Ice Cream ที่ร้องร่วมกับวงแบล็กพิงก์มาร่วมเป็นโปรดิวเซอร์แล้ว ยังมีเรื่องของเรื่องราวรวมถึงนักแสดงที่เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่าง เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี่ ที่เคยฝากบทบาทการแสดง บิลลี่ หนุ่มดาวยั่วให้สาว ๆ หัวใจพองตัวและร้ายสุดขั้วโลกจากซีรีส์ สเตรนเจอร์ ธิงส์ ซีซั่น 3 คราวนี้เขามารับบท นิค ตัวละครหลักเป็นครั้งแรกอีกด้วย แต่นอกจากนั้นผมไม่รู้จักใครเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี

 

 

เพราะส่วนตัวแล้วภาพยนตร์ที่คนไม่ค่อยสนใจนักแสดงดัง มักจะให้ผลออกมาเกินคาดเสมอ แต่เรื่องนี้จะเป็นแบบนั้นได้หรือไม่ มาฟังเรื่องย่อกันเลย “ลูซี่ กัลลิเวอร์ ผู้ช่วยมัณฑนากรสาวในนิวยอร์กที่ชอบเก็บของที่ระลึกจากแฟนที่เคยคบจนรกห้อง และเป็นที่เอือมระอาของเพื่อน ๆ กลับต้องมีชีวิตพลิกผันในชั่วค่ำคืน เมื่อเธอถูกเท ทั้งด้านการงานและความรักโดยแฟนเก่าอย่าง แม็กซ์ จนได้ไปพบกับ

รีวิว The Broken Hearts Gallery (2020)

นิค ชายหนุ่มไร้ความรู้สึกผู้กำลังทำธุรกิจเปิดโรงแรมแต่ประสบปัญหาบางอย่าง แต่ลูซี่กลับมองเห็นโอกาสที่จะให้คนที่อกหักทั่วทุกมุมเมือง เอาของที่ระลึกจากความรักเก่า ๆ มาไว้ที่โรงแรม โดยตั้งเป็น แกเลอรี่คนอกหัก สำหรับคนที่อยากมูฟออน แต่ไม่

 

กล้าทิ้งของคนรักเก่า ได้เอามาจัดแสดงเป็นนิทรรศการ ในระหว่างที่ธุรกิจกำลังไปได้สวย ทั้งคู่ก็ดันปาร์คจอยกันซะงั้น แล้วแบบนี้แกเลอรี่คนอกหัก จะกลายเป็นแกเลอรี่คนรักกันหรือไม่ ลูซี่จะเข้าใจถึงความเจ็บปวดของตัวเอง เพื่อเดินหน้าและมีความสุขหลุดพ้นจากความสัมพันธ์แย่ ๆ แล้วเริ่มต้นใหม่ได้อย่างไร” รีวิวหนัง

 

ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราวความรักและการอกหักได้อย่างคมคาย มีคำพูดหรืออะไรหลายอย่าง ที่ตัวละครพูดออกมาแล้วสามารถเอามาใช้ได้ในชีวิตจริง แม้ว่าจะบทหนังจะออกแนวเรียบง่ายประสาหนังรักรอมคอมที่มีพล็อตเรื่อย ๆ เล่าเหตุการณ์นึง ไปเหตุการณ์นึง แต่ในระหว่างการเดินทางของเรื่องราว นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแล้ว หนังยังให้พื้นที่กับสิ่งของเก่าต่าง ๆ ได้มีบทบาทแทนความทรงจำและความเจ็บปวดของคนที่เคยรักกันผ่านตัวละครหลักได้เป็นอย่างดีซึ่งก็ถ่ายทอดมา

 

 

ในรูปแบบโอเวอร์แอ็คติ้ง ร้องไห้ยังไงให้ดูตลก โวยวายยังไงให้ดูฮา เมาท์กันยังไงให้ดูขำ ผ่านตัวละครของนิคและลูซี่ที่ได้มาเจอกันท่ามกลางวันแย่ ๆ ของชีวิต ได้ช่วยกันทำงาน ได้เรียนรู้ตัวตนซึ่งกันและกัน ได้มูฟออนไปด้วยกัน ซึ่งเป็นช่วงที่เราได้อมยิ้มไปพร้อม ๆ กับอยากรู้ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร แถมยังค่อย ๆ เห็นตัวละครเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปทีละก้าว

 

ทว่าในช่วงหลังของเรื่อง หนังกลับจริงจังและชัดเจนว่าไม่ได้อยากเป็นแค่ความบันเทิง แต่ยังให้ความรู้สึกโอบรับผู้ชมทุกคนที่อาจจะเคยอกหักหรือไม่เคยอกหักได้เรียนรู้และเข้าใจไปพร้อมกับตัวละคร โดยไม่ทิ้งความตลกให้เราดูได้อย่างเพลิน ๆ และ พัฒนาไปพร้อมกับตัวละครที่ตอนแรกอาจจะเป็นคนแบบหนึ่ง แต่ตอนหลังจะกลายเป็นคนแบบหนึ่ง ซึ่งมันดีมาก ๆ เพราะมันทำให้เราเข้าใจเจตนาและปมของตัวละครที่ขับเคลื่อนไปด้วย เพราะฉะนั้นหากคิดว่าจะเป็นหนังรักฮา ๆ ธรรมดาอย่างในตัวอย่าง ผมบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะดูจบแล้ว คุณอาจจะรู้วิธีหาทางที่จะมีความสุขจากการอกหักได้แน่ ๆ

 

ถ้าถามว่าหนังรักโรแมนติกเรื่องไหนที่ตัวละครอื่นเด่นพอ ๆ กับตัวเอก ก็คงเป็นเรื่องนี้ เพราะลูซี่ก็มีบุคลิกแบบผู้หญิงทั่ว ๆ ไปที่เราสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน นิคก็อาจจะเป็นผู้ชายแบบเพื่อนที่มีปัญหาไม่กล้าสุงสิงกับใคร แต่พอเขาได้ทำสิ่งที่เขา

 

 

ชอบ พวกเขาจะมีเสน่ห์มาก ๆ เช่นเดียวกับตัวละครแวดล้อมรอบ ๆ ช่วยสร้างความสนุกให้กับเรื่องมากขึ้น เช่น นาดีน ความสัมพันธ์แบบสนุกสนานไม่ผูกมัด แถมเป็นเลสเบี้ยนอีกด้วย ซึ่งเรามักจะได้เห็นตัวละครแนวนี้มักเป็นผู้ชาย แต่ไม่ เธอมีความสัมพันธ์รักอย่างอิสระแบบเพลย์เกิลส์ จะคบใครรักใครเลิกกันก็ทำได้เหมือนเพศชาย น้ำหนัก  ในส่วนนี้ถือเป็นเรื่องขบขันแบบพอดิบพอดีไม่ยัดเยียดเกินไป จนทำลายสาสน์ของหนัง ส่วน อะแมนด้า คือ ทนายความสาวที่คบกับแฟนแต่ก็ยังเกรงใจ

 

เพื่อน เพราะตัวเองก็ไม่ค่อยแน่ใจในความสัมพันธ์ แต่เป็นห่วงเพื่อนสุด ๆ แม้จะชอบแซะ ชอบแซว ทั้งคู่ก็คอยเป็นกำลังสำคัญที่อยู่กับลูซี่และสนับสนุนเวลาเพื่อนอกหัก และเมาท์กันแบบผู้หญิงถึงผู้หญิงที่เราดูแล้วเหมือนกำลังดูเพื่อนหรือผู้หญิงใกล้ตัวเล่าเรื่องชีวิตรักให้เราฟัง เช่นเดียวกับ มาร์คลอสที่คอยเป็นพ่อสื่อให้กับนิค ด้วยมุกตลกขำ ๆ ซึ่งมาช่วยทำให้หนังไม่จืดจนเกินไป ทุกตัวละครมีฉากให้เราสะดุดหูสะดุดตาตลอด ด้วยคำพูดที่จิกกันและแสบสัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *