รีวิว our Wedding and a Funeral

เป็นหนังโรแมนติกของอังกฤษที่ทำออกมาได้อย่างน่ารัก สนุก และมีแง่คิดดีๆ สอดแทรกอยู่ท่ามกลางบทสนทนาที่ทั้งฉลาด เป็นธรรมชาติและเรียกเสียงฮา คือว่าง่ายๆ นะครับ นี่เป็นหนังที่ครบเครื่องมากสุดๆ อีกเรื่องเลยล่ะ  ตัว หลักๆ ของหนังก็คือ ชาร์ลส์ (Hugh Grant) หนุ่มอังกฤษ กับ แครี่ (Andie MacDowell) สาวอเมริกันที่ทั้งคู่มาพบกันโดยบังเอิญในงานแต่ง แล้วทั้งสองก็เริ่มสนใจกันครับ แต่ทั้งคู่จะลงเอยกันหรือไม่อันนี้ต้องไปดูเอง ดูหนัง

เนื้อเรื่อง รีวิว our Wedding and a Funeral

 

รีวิว our Wedding and a Funeral

 

 

ครับ แม้หนังจะมีตัวละครหลัก แต่ทว่าตัวสมทบทั้งหลายล้วนแย่งกันขโมยซีนกันแบบอุตลุตเลยทีเดียวล่ะครับ ซึ่งบอกตรงๆ ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ที่หนังซักเรื่องจะเฉลี่ยเกลี่ยบทให้คนดูได้รู้จักกับตัวละครทุกตัวขนาดนี้ ได้นะครับ แล้วยังรู้สึกลื่นไหล และขณะเดียวกันพระเอกนางเอกก็ยังมีบทบาทอยู่แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งงานนี้คนที่ต้องชมก็คือพี่ Richard Curtis ที่เคารพล่ะนะครับ พี่แกเขียนบทได้อย่างยอดเยี่ยม หนังสนุก น่าติดตามตลอด มีประโยคฮาๆและเยี่ยมๆยัดเข้าปากตัวละครเพียบไปหมด

 

แล้วไอ้ประโยค สารพัดที่ว่านี้แหละครับ นับเป็นกำไรคิดสำหรับคนดูเลย เพราะมันจะว่าเป็นปรัชญาชีวิตก็ได้ จะว่าเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความรักก็ได้เช่นกัน ดังนั้นผมเชื่อนะครับ ว่าหลายๆ คนดูไปเนี่ย จะได้แง่มุมเกี่ยวกับชีวิตรักอีกมากมายเลยเชียว ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว our Wedding and a Funeral

 

Four Weddings and a Funeral อายุครบ 27 ปีในปีนี้ ย้อนไปในปี 1994 ที่หนังเข้าฉาย มันสร้างประวัติศาสตร์กวาดเงินทั้งในอังกฤษและอเมริกาถล่มทลาย ปั้นฮิวจ์ แกรนต์ขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ หนังเข้าชิงรางวัลใหญ่และคว้าคำชมมากมายให้แก่บทและการแสดงอันสุดเนี้ยบ แถมยังแผ่อิทธิพลต่อทั้งวงการหนังโรแมนติกคอมเมดี้, ทำให้เพลง Love is All Around ของ Wet

 

Wet Wet เด้งติดท็อปชาร์ต, ทรงผมพระเอกนางเอกฮิตไปทั้งโลก และเปลี่ยนเทรนด์การอ่านคำอาลัยในงานศพไปอย่างไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนแต่ก่อนจะมาถึงจุดนี้ เชื่อหรือไม่ว่านี่คือหนังที่แทบไม่มีใครยอมให้ทุนสร้าง แถมยังไม่มีใครสักคน-แม้แต่ฮิวจ์ แกรนต์-เชื่อว่ามันจะประสบความสำเร็จไปได้!

เรื่องย่อ รีวิว our Wedding and a Funeral

 

รีวิว our Wedding and a Funeral

 

ริชาร์ด เคอร์ติส มือเขียนบทรายการตลกทางทีวี Blackadder ในวัย 34 มาจับมือกับโปรดิวเซอร์ ดันแคน เคนเวิร์ธที รับโจทย์จากค่ายอังกฤษ Working Title ที่ให้ทำหนังรักตลกๆ สักเรื่อง เคอร์ติสจึงตัดสินใจเอาประสบการณ์ตัวเองจากการเข้าร่วมงานแต่งงานมาเป็นพล็อต (เขาเล่าว่า ในช่วง 11 ปีนั้น เขาไปงานแต่งงานทั้งสิ้นถึง 65 งาน และในงานหนึ่ง มีแขกคนหนึ่งมาขอเขาแต่งงานด้วย แต่เขาปฏิเสธเธอไปและยังคงเสียใจมาตลอด) ดูหนัง 4k

 

เคอร์ติสเขียนบทถึง 17 ร่างกว่าจะมาถึงร่างสุดท้ายที่เราเห็นในหนัง “ผมเรียนจบสาขาวรรณกรรมอังกฤษมาพร้อมความเชื่อว่า การเขียนอะไรตลกขบขันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ขณะที่ผู้กำกับ ไมค์ นีเวลล์ เป็นสายที่เชื่อการสร้างความสมจริง ดังนั้นตัวละครในหนังเรื่องนี้ไม่ว่าจะบทเล็กบทใหญ่จึงมีเรื่องราวของตัวเองรองรับเสมอ ไม่มีใครโผล่มาเป็นแค่มุกสามประโยคจบ และนี่จึงเป็นหนังโรแมนติกว่าด้วยความรักกับมิตรภาพ ที่แหวกว่ายอยู่ในทะเลแห่งมุกตลก”

 

 

ใครเคยดูหนังย่อมจำฉากเปิดลือลั่นที่อุดมไปด้วยคำว่า Fuck ได้ เคอร์ติสบอกว่าเขาปลื้มใจสุดๆ ที่จะได้ทำหนังที่มีฉากเปิดแบบนี้เสียที “แต่ปัญหาคือตราบใดที่เราไม่ได้ตัวนักแสดงที่เหมาะกับมัน มันก็จะถูกมองเป็นแค่คำหยาบบนหน้ากระดาษเท่านั้น”หลังจากออดิชั่นนักแสดง 70 กว่าคน นักแสดงหนุ่มวัย 34 ชื่อฮิวจ์ แกรนต์ก็โผล่เข้ามา ตอนนั้นอาชีพเขากำลังอยู่ในช่วง

 

 

ซบเซา เขาต้องหาเงินด้วยการไปรับจ้างสอนนางเอกฝรั่งเศสชื่อดัง จูเลียต บิโนช ฝึกพูดสำเนียงอังกฤษ แต่ความตลกโปกฮาผสมน่ารักสดใสอย่างเหลือเชื่อของเขา ทำให้เคอร์ติสรู้ทันทีว่า พ่อหนุ่มคนนี้เกิดมาเพื่อบท “ชาร์ลส์” พระเอกหล่อป้ำเป๋อผู้พลาดรักครั้งแล้วครั้งเล่าในหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง ดูหนังออนไลน์ 4k

 

 

เคนเวิร์ธทีกับเคอร์ติสวางงบ Four Weddings ไว้ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ถูกค่ายสั่งตัดออกล้านกว่าๆ ซ้ำช่วงกลางปี 1992 ยังเกิดปัญหาเงินไม่มาจนเกือบต้องล้มโปรเจ็กต์ โชคดีที่ทั้งคู่ยังสู้ต่อไป โดยใช้เวลาช่วงรอเงินไปกับการออดิชั่นนักแสดงเพิ่ม และคุยปรับบทกันจนทำให้ได้บทที่แข็งแรงขึ้นมาก ทั้งยังทำให้นักแสดง (ซึ่งไม่มีรถเทรลเลอร์ให้อยู่เพราะไม่มีงบ) มีเวลาคลุกคลีใกล้ชิดกันนานกว่าปกติจึงเข้าฉากกันได้อย่างสนิทสนมสมจริง

 

 

การถ่ายทำกลับมาเริ่มในฤดูร้อนปี 1993 โดยผู้กำกับ ไมค์ นีเวลล์ โชว์ความเทพด้วยการถ่ายแค่ 36 วันรวดแล้วปิดกล้องทันที เร่งมือชนิดดาราไม่ได้พักได้ผ่อน แกรนต์ถึงกับติดไข้และต้องถ่ายหนังไปด้วย บางฉากที่ใช้นักแสดงเยอะๆ และรายละเอียดยุบยิบซึ่งปกติจะถ่ายกันหลายชั่วโมง นีเวลล์ก็เก๋าจัดขนาดถ่ายเสร็จภายใน 20 นาที! (หนังเรื่องนี้ยังเป็นยุคที่ตัดต่อกับฟิล์มจริงๆ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์)

 

อย่างไรก็ดี ไม่มีใครเชื่อเลยว่าหนังจะประสบความสำเร็จได้ โดยเฉพาะค่าย Polygram นายทุนและผู้จัดจำหน่ายฝั่งอเมริกา ซึ่งส่งแฟ็กซ์มาหาเคอร์ติสรัวๆ เพื่อตินั่นตินี่ พวกเขาถึงขั้นเขียนลิสต์ว่าคำหยาบแบบไหน ฉากเซ็กซ์ประเภทใดบ้างที่ห้ามทำ (เพราะจะทำให้ฉายในทีวีอเมริกันไม่ได้) และที่โหดที่สุดคือ การสั่งให้เปลี่ยนชื่อหนังซะ เนื่องจาก “Four Weddings and a Funeral เป็นชื่อที่…ผู้ชายได้ยินแล้วไม่อยากดู ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากดูฉากแต่งงานสี่ฉากติดๆ กันหรอก- ชื่อมันแสดงถึงปัญหาว่าหนังขาดช่วงเป็นตอนๆ ไม่ต่อเนื่องกัน ท่าทางน่าเบื่อ

 

มีคำว่า Wedding เหมือนหนังเจ๊งๆ หลายเรื่อง เช่น The Wedding, Betsy’s Wedding และ The Wedding Banqueค่ายเสนอให้ลองใช้ชื่อ True Love and Near Misses หรือ Loitering in Sacred Places หรือ Rolling in the Aisles หรือไม่ก็ Skulking Around แต่โชคดีที่เคอร์ติสเมินคอมเมนต์เหล่านี้ แม้เขาเคยพยายามจะเปลี่ยนมันเป็นชื่อ “The Best Man” แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจยึดชื่อเดิมแล้วตอบไปว่า “ตราบใดที่พวกคุณยังหาชื่อที่ดีกว่าชื่อของผมไม่ได้ ผมก็จะยังไม่เปลี่ยนล่ะนะ”

 

 

ในการฉายเปิดตัวรอบปฐมทัศน์โลกที่เทศกาลหนังซันแดนซ์ ทีมงานนั่งอกสั่นขวัญแขวน เพราะเพียงแค่เริ่มฉายได้ 2 นาที คำหยาบอันพรั่งพรูในฉากเปิดก็ทำให้คนดูเกือบ 30 คนลุกออกจากโรงไปเลย ฮิวจ์ แกรนต์หันไปพึมพำกับเคอร์ติสว่า “สงสัยมันคงไม่ดังอย่างที่เราหวังแล้วล่ะ” รีวิวหนัง

 

แต่แล้วสิ่งที่แกรนต์กลัวก็จบลงแค่ตรงนั้น บทวิจารณ์แรกหลังการฉายเสร็จสิ้นมาจาก Variety ซึ่งเขียนว่า “หนังโรแมนติกคอมเมดี้ ที่มีเสน่ห์จริง ๆ นั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำยากที่สุด และทีมหนังชาวอังกฤษทีมนี้ทำได้แล้ว” สัญญาณแห่งความสำเร็จฉายชัดขึ้นทันที ส่งผลให้ค่าย Polygram ตัดสินใจทุ่มงบถึง 11 ล้านให้หนังทุน 3 ล้านเรื่องนี้ใช้ในการโปรโมท และผลคือมันก็โด่งดังกลายเป็นขวัญใจผู้ชม จนสามารถทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 144 ล้าน ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในหนังอังกฤษที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *