รีวิว รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour)

เมื่อต้องเผชิญกับโอกาสและความท้าทายในโลกแห่งความเป็นจริง คู่รักหลายคู่ต้องเผชิญบททดสอบ ในการรักษาความสัมพันธ์เมื่อต้องอยู่ไกลกัน จนอาจจะเข้าทำนองรักแท้แพ้ระยะทางซะอย่างนั้น ซึ่งชีวิตก็มักจะมีบททดสอบมาวัดใจกันเล่น ๆ แบบนี้แหละ และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นดราม่าคอมเมดี้ รักสามเส้า ที่ใช้บททดสอบนี้มาเป็นเส้นเรื่องได้ร้ายกาจไม่ใช่เล่น ดูหนัง ดูหนังออนไลน์

 

เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่การพบกันของคนไข้และผู้ช่วยพยาบาล จนเกิดเป็นความรักเข้าจนได้ ‘อีจางฮยอก’ (อีวูเจ) วิศวกรหุ่นอวบอั๋นที่เพิ่งได้งานหมาด ๆ เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคไวรัสตับอักเสบB ระหว่างนั้น ‘ดาอึน’ (แชซูบิน) พยาบาลสาวได้ดูแลเขา เป็นอย่างดีจนเกิดความประทับใจ และแน่นอนเขาปิ๊งเธอเข้าเต็มเปา เพราะเธอช่างเฟรนด์ลี ขี้เล่น ดาอึนขอเรียกเขาว่า ‘พี่ฮยอก’ ซึ่งเขาก็ยินยอมด้วยความยินดี

 

รีวิว รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour)

 

ความรักครั้งนี้ทำให้ ‘เขา’ ตัดสินใจแล้วว่า จะลดความอ้วนและมีสุขภาพที่ดีเพื่อ ‘เธอ’ ให้ได้ ภาพยนตร์ทำให้เราเห็นว่า เขาทำได้จริง ๆ เมื่อรูปลักษณ์ภายนอกของเขาเปลี่ยนแปลงไปตามความตั้งใจ กลายเป็นหนุ่มหล่อ สุขภาพดี ไม่กินขนมหวาน ‘จางฮยอก’ (จางกียง) กลายเป็นวิศวกรอนาคตไกล ฝีมือโดดเด่นจนหัวหน้างานสนับสนุนให้ไปพิสูจน์ฝีมือที่บริษัทใหญ่ยักษ์ในกรุงโซล

 

ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เขาและ ดาอึน แฟนสาวต้องอยู่ไกลกัน งานหนัก ๆ ในสภาพแวดล้อมใหม่ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน แถมยังต้องห่างจากแฟนสาว ไม่มีเวลาเจอกันได้อย่างใจเหมือนเคย ซ้ำยังต้องมาเจอกับ ‘โบยอง’ (คริสตัล ช็อง) ผู้หญิงที่เป็นทั้งคู่แข่งและเพื่อนร่วมงานในเวลาเดียวกันอีก จนในที่สุดความรักที่ว่าแน่ก็ต้องแพ้…..ระยะทาง

 

รีวิว รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour)

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้หยิบเอาความเป็นจริง ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคู่รักหลายคู่ในโลกใบนี้ ‘รักแท้มักแพ้ระยะทาง’ ประโยคนี้สามารถใช้ได้ชะงัดนักกับใครบางคน บางคู่ที่หัวใจไม่มั่นพอ ก็ถ้ารักกันจริง มั่นคงหนักแน่นจะมีอะไรมาชนะความรักของเราได้ล่ะจริงไหม ระยะทางไกล ๆ กับงานเหนื่อย ๆ ที่ว่า จึงมักจะถูกหยิบเอามาเป็นข้ออ้างของมนุษย์รักแท้แพ้ใกล้ชิดอยู่บ่อย ๆ

 

เรื่องราวรักสามเส้าจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้า ‘เขา’ ไม่ปันใจ หนังจั่วหัวมาแล้วว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่เกี่ยวกับรักสามเส้าเราสามคน ของหนุ่มสาววัยทำงานเคสหนึ่ง ที่เริ่มต้นความรักด้วยความประทับใจ หวานชื่น ละมุนละไมและชวนยิ้มเป็นที่สุด จนอาจจะเป็นกำลังใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาดูแลตัวเองเพื่อคนที่คุณรัก จากการที่ เขา พยายามลดความอ้วนเพื่อ เธอ

 

รีวิว รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour)

 

หนังใช้การเปิดเผยความจริงที่ว่า โลกใบนี้ดำเนินไปด้วยการแข่งขัน โดยเฉพาะในสังคมของการทำงานที่ต้องการความมั่นคงก้าวหน้า ใครล่ะจะไม่อยากแอกทีฟ ใครล่ะจะไม่อยากพิสูจน์ตัวเองเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น พระเอกของเรื่องนี้จึงทุ่มเทความสามารถ เพื่อให้เขาเป็นหนึ่งในคนที่ได้รับการยอมรับ และสาเหตุของการปันใจคือความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และเอาความเหนื่อยเป็นข้ออ้างจนอาจหลงลืมไปว่า เขาไม่ใช่คนที่เหนื่อยเป็นอยู่คนเดียว

เนื้อเรื่อง รีวิว รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour)

เป็นการใช้พล็อตย่อยง่ายที่ทัชใจใครหลายคน เพราะเรื่องราวแบบนี้มักจะเป็นเหตุการณ์ที่คู่รักมากมายต้องเคยประสบ จะบอกว่าใช้พล็อตตลาดก็ตอบว่าใช่ แต่ที่ใช่มากกว่านั้นก็คือ พล็อตแบบนี้มันคือเรื่องจริง ถึงจะง่ายต่อการทำความเข้าใจ ง่ายต่อการรู้สึกร่วม แต่จะทำยังไงให้ความง่ายที่ว่ามันน่าสนใจและแปลกไปจากเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำได้ด้วยการเล่ามันออกมาง่าย ๆ ได้ร้ายกาจทีเดียวละ ดูหนัง ดูหนังออนไลน์

 

ชอบตอนจบของเรื่องนี้มาก ๆ ให้ตายสิ เป็นการดำเนินเรื่องที่หลอกคนดูได้อย่างแยบยล หนังทำให้เราเข้าใจไปว่า นี่ก็คือเรื่องรักสามเส้าธรรมดา ๆ ที่สอดแทรกความเป็นจริงใบบริบทสังคมที่มีการแข่งขัน การเอารัดเอาเปรียบในที่ทำงาน การให้ความหวังและหลอกใช้เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ มีพระเอกหล่อ นางเอกน่ารักและสาวอีกคนช่างน่าสนใจซะจริง แบบนี้จะไม่หวั่นไหวก็ยากอยู่ แล้วไงอ่ะ เรื่องราวจะดำเนินไปด้วยสูตรสำเร็จหรือเปล่าที่ พระเอกกลับใจไปง้อนางเอก ต้องมีการเลือก

 

 

ยากและต้องมีคนผิดหวัง จะจบแบบสุขนิยมหรือทุกข์ระทม ก็ไม่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นกว่าใครไปได้ต่อให้มีหนุ่มหล่ออย่าง ‘จางกียง’ และสาวสวยมากอย่าง ‘คริสตัล ช็อง’ แสดงนำก็เถอะ แต่…มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นจ้ะเมื่อการดำเนินเรื่องมันมีจุดพีก ด้วยบทสรุปที่ทำให้คนดูอย่างเรา ๆ มารู้ตัวอีกทีว่า ที่นั่งดูมาทั้งหมดนั้น ‘โดนแกง’ ซดน้ำแกงกันเพลินไปเลยจ้ะงานนี้ ปมหลอก ๆ มีอยู่หลายมุมจนทำให้เราคิดไปเอง แถมยังคิดไปอีกว่ามีตัวละคร

 

ลึกลับที่แอบแฟนตาซีอยู่ในเรื่อง แต่จริง ๆ แล้วเขาคือตัวแทนของคนธรรมดาคนหนึ่งที่ผ่านโลกมามาก และมาเพื่อเตือนสติคู่รักด้วยประโยคที่จริงซะยิ่งกว่าจริงว่า “ถ้าพลาดรถแท็กซี่หนึ่งคัน เราอาจรอคันอื่นได้ แต่ถ้าหากว่าทำใครคนหนึ่งหลุดมือไป มันจะไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว” ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นดราม่า-คอมเมดี้ (เบา ๆ ) ที่มีสาระ ได้อรรถรส แปลกใหม่ ก็เพราะอีตอนสรุปจบนี่แหละ

 

ลงจอเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ความยาวประมาณเกือบสองชั่วโมง แต่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวสำหรับหนังเกาหลีโรแมนติก-คอมเมดี้ เรื่องใหม่ ที่กระแสความปังก็ยังคงแรงด้วยการขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ใน Netflix อย่าง ต่อเนื่อง ด้วยความที่เป็นหนังรักโรแมนติก ดูได้สบายๆ ไม่มีดราม่า และยังได้จางกียง หนุ่มสุดฮอตจากซีรีส์ My roommate is a gumiho

 

 

มารับบทพระเอกในเรื่องนี้อีก ร่วมด้วยแช ซูบินและคริสตัล ช็อง อีกด้วย หนังรักหวานอมเปรี้ยวนี้ก็เลยฮิตติดลมบนมาได้อย่ างยาวนาน เรื่องนี้ถือว่าเป็นความฉลาดของนักเขียนที่เขียนเรื่องนี้ออกมาได้เรียล ผู้ชมเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ไม่ต้องตีความเยอะ เพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันเป็นจำนวนมากของหนุ่มสาว สำหรับชีวิตวัยทำงานอันแสนเหนื่อย กับการพยายาม

 

ประคับประคองชีวิตคู่ให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะถ้าใครกำลังเผชิญกับปัญหาความรักแบบนี้อยู่รับรองว่าจะอินกับเรื่องนี้มากกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน  แต่ถึงแม้คนที่ยังไม่เคยเผชิญกับปัญหาแบบนี้ก็เข้าใจและอินไปกับ point ตรงนี้ได้เนื่องจากความรักแบบนี้ซีรีส์หรือหนังหลายๆเรื่องก็มักจะนำเสอนอความรักแบบนี้เหมือนกัน แต่เราบอกเลยว่าเรื่องนี้น่ะ ‘เรียล’ ที่สุดแล้ว และขอบอกว่าเรื่องนี้นักประพันธ์ยังใส่กิมมิคเล็กๆ เป็นการแกงคนดูในตอนจบอีกด้วย รับรองว่าพีคสุด

 

 

ถ้าได้ดูต้องร้อง ห้ะ!!! เป็นแบบนี้ได้ไง อย่างแน่นอน ถือเป็นความน่าสนใจที่ทำให้คนดูคาดเดาตอนจบไม่ได้ เพราะนึกไม่ถึงนั่นเอง!!! ความรักในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการพิสูจน์ความรักจากบททดสอบเรื่องระยะทางและความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานที่เรามักจะเห็นกันทั่วไป เป็นเรื่องราวความรักของชายหนึ่ง หญืงสาม ที่เป็นความสัมพันธ์แบบรักสามเศร้า เริ่มจากที่พระเอก

รีวิว รักหวานอมเปรี้ยว (Sweet & Sour)

‘จางฮยอก’ มีความรักอันหวานชื่นกับพยาบาลสาวสวยอย่าง ‘จองดาอึน’ จนจางฮยอกได้ย้ายไปเป็นพนักงานชั่วคราวที่สำนักงานใหญ่ ในกรุงโซล ที่นั่นมีการแข่งขันที่สูงมาก เขาต้องประชันฝีมือเพื่อเป็นพนักงานประจำให้ได้ นั่นแหละคือความฝันของเขา และเขาก็ได้เจอกับคู่แข่งอย่าง ‘โบยอง’ แต่เดี๋ยวก่อน เป็นคู่แข่งแค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละ หลังจากที่ทั้งคู่ได้มาทำ Project ด้วยกัน ก็สนิทกันอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นรักสามเศร้าเราสามคนนั่นแหละ

 

ในช่วงแรกๆ ความรักของจางฮยอกกับดาอึนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังคงหวานชื่นและมีแต่รอยยิ้ม แม้ว่าจะทำงานมาเหนื่อยแสนเหนื่อย แต่หลังเลิกงานจางฮยอกก็ฝ่ารถติดขับรถมาหาดาอึนทุกวัน แม้บางวันจะไม่ได้มาเพราะยุ่งมากจริงๆ แต่จางฮยอก ก็ยังใส่ใจดาอึนเสมอมา แต่ทุกคนนึกภาพออกไหม ทำงานมาเหนื่อยๆแล้วต้องมาเจอรถติดทุกวัน

 

มันเหนื่อยยิ่งกว่าตอนทำงานสะอีก นี่แหละอุปสรรคอันใหญ่หลวงจากความสัมพันธ์ครั้งนี้ และจุดแตกหักก็เกิดขึ้น จากที่ทั้งคู่เคยอยู่ด้วยกัน วางแผนไปเที่ยว ด้วยดัน มีกิจกรรมทำกันหลังเลิกงาน แต่วันนี้ไม่มีอีกแล้วกลับห้องมาจางฮยอกก็เอาแต่นอนเพราะเหนื่อยมาก ดาอึนจะคุยเรื่องเที่ยวจางฮยอกก็ให้ดาอึนจัดกาคนเดียว พอไปเดินเล่นด้วยกัน จางฮยอกก็เอาแต่บอกว่าเหนื่อย อยากกลับบ้าน และที่พีคที่สุด

 

 

คือเผลอเรียกชื่อ โบยอง ออกมา คิดดูดิ พูดชื่อผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าแฟน ดาอึนคงเจ็บจี๊ดอยู่ในหัวใจมากทีเดียว และเหตุการณ์นี้แหละเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความสัมพันธ์ครั้งนี้ สุดท้ายพระเอกของเราก็ไปสานสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานของโบยอง ในวันที่สิ้นสุดการเป็นพนักงานชั่วคราวแล้วไปกินเลี้ยงกันที่ผับบาร์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่คุยกันเรื่องอนาคตว่าชีวิตจะเอาไงกันต่อเพราะบริษัทก็ไม่ได้ต่อสัญญา โบยองจะไปเรียนต่อ หา

 

ประสบการณ์ชีวิตต่อไป แล้วจางฮยอกก็อยากจะสวมแหวนให้โบยอง แต่โบยองดึงมือออกเพราะไม่ได้คิดไกลไปถึงขั้นนั้น สุดท้ายจางฮยอกก็มาย้อนนึกถึงความสัมพันธ์ทั้งหมดของตนเองว่า “นี่เราพลาดไปตั้งแต่ตรงไหนนะ” แล้วก็กลับไปหาดาอึนที่วันนี้เป็นวันที่จะไปเจจูด้วยกัน คำพูดนึงที่โดนใจเรามากฟังทีนึงเจ็บจี๊ดแน่นอนก็คือ

 

 

Sweet and Sour (2021) รักหวานอมเปรี้ยว เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก การงานและชีวิตที่มีความสัมพันธ์กันอย่างแยกออกจากกันไม่ได้ของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งการแข่งขัน ความเร่งรีบ เวลาที่มีจำกัด และความสัมพันธ์ที่ต้องรักษาไว้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สื่อเป็นข้อความสู่ผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยมว่าในขณะที่เรากำลังขะมักเขม้นกับการทำหน้าที่ของตนเอง

 

ใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองบางครั้ง จนบางครั้งอาจทำให้เราลืมอะไรไปหรือเปล่า ลืมอะไรซักอย่างที่นึกตอนนี้เท่าไหร่ก็นึกไม่ ออก กว่าจะรู้ตัวอีกทีสิ่งที่มีอยู่แต่เรามองไม่เห็นก็ได้หายไปอย่างไม่มีวันกลับ หากไม่อยากหลงลืมสิ่งที่สำคัญ ก็ควรลองเปิดใจและใช้ใจมองว่าอะไรกันแน่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา และจากนั้นเราก็จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมั่นใจว่าเราไม่ได้ลืมของสำคัญไว้ข้างหลัง รีวิว หนังรีก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *